×

4 ค่ายรถยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่นพร้อมลงสนาม EV ในไทย ทุ่ม 1.5 แสนล้านบาท เปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่และไฮโดรเจนใน 5 ปี

26.12.2023
  • LOADING...

ฉายาเซลส์แมนสแตนด์ ‘ชิน’ ของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี คงไม่เกินจริง หลังสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ทิ้งทวนทริปโรดโชว์ต่างประเทศปี 2023 ในการไปเยือนญี่ปุ่นเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และหารือบริษัทใหญ่ โดยเฉพาะค่ายรถยนต์สันดาป เพื่อหวังจูงใจเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีสู่ EV รวมไปถึงโครงการแลนด์บริดจ์

 

ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้ข้อสรุปว่า ภายในระยะเวลา 5 ปี จะมีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น 4 ราย ตอบรับพร้อมขยายการลงทุนสำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถกระบะไฟฟ้าในประเทศไทย ด้วยมูลค่าการลงทุนประมาณ 1.5 แสนล้านบาท ขณะที่ค่ายรถญี่ปุ่นก็เสนอให้ไทยใช้โมเดลของการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ (Swapping) สำหรับรถเชิงพาณิชย์

 

โดย 4 ค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นพร้อมขยายการลงทุนดังนี้

 

  • Toyota ลงทุน 50,000 ล้านบาท
  • Honda ลงทุน 50,000 ล้านบาท
  • Isuzu ลงทุน 30,000 ล้านบาท
  • Mitsubishi ลงทุน 20,000 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า นอกจากนี้บางค่ายรถให้ความเห็นว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตรถกระบะไฟฟ้าในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ประเทศไทยพร้อมสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้ง 7 ค่ายรถญี่ปุ่น ให้เปลี่ยนผ่านจากรถยนต์เครื่องสันดาปไปสู่เทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่เพื่อลดการปล่อยคาร์บอน และรถยนต์ไฮโดรเจน ซึ่งกลุ่มผู้ผลิตต่างยืนยันใช้ไทยเป็นฐานการผลิตหลักในภูมิภาค ขณะเดียวกัน บรรดาค่ายรถญี่ปุ่นยังได้นำเสนอโมเดลของการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ (Swapping) สำหรับรถเชิงพาณิชย์ โดยเมื่อเร็วๆ นี้ไทยออกมาตรการ ได้แก่

 

  • ยกเว้นวีซ่าให้นักธุรกิจญี่ปุ่นที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยเพื่อติดต่อธุรกิจระยะสั้น
  • ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี ในวงเงิน 50% ของเงินลงทุนในระบบอัตโนมัติหรือหุ่นยนต์ และกรณีใช้เครื่องจักรระบบอัตโนมัติในประเทศสัดส่วนไม่น้อยกว่า 30%
  • ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลวงเงิน 100% ของเงินลงทุน ซึ่งต้องยื่นขอรับการส่งเสริมภายในปี 2567

 

รายงานข่าวระบุอีกว่า ท่ามกลางกระแสการลงทุนของฝั่งค่ายรถจีนก็ตอบรับเข้ามาลงทุนตั้งฐานผลิตในไทยต่อเนื่อง ผ่านมาตรการลดภาษีและมาตรการ EV3.5 ซึ่งสามารถดึงดูดค่ายรถจีนทั้ง BYD และ Great Wall Motor ที่พร้อมลงทุนรวม 1.44 พันล้านดอลลาร์ สร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ในไทย ยังไม่รวมถึง NETA, GAC และ CHANGAN ที่จะเดินสายพานผลิตปี 2567 ในไทยอีกด้วย

 

มองอุตสาหกรรมยานยนต์ปีหน้าเติบโตตามการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย

 

สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธาน และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ปีนี้ถือเป็นปีทองของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ขณะที่ปี 2567 เบื้องต้นประเมินว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะเติบโตไปตามการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย โดยคาดการณ์อยู่ที่ 3.0-3.5% จากปัจจัยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่จะมาช่วยเพิ่มกำลังซื้อ การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ การปรับโครงสร้างหนี้ การพักหนี้เกษตรกร รวมทั้งงบประมาณรายจ่ายภาครัฐที่จะเริ่มใช้เดือนเมษายน 2567

 

“รวมไปถึงยังมีการลงทุนใหม่ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าภายหลังจากที่นายกฯ ได้ออกไปโรดโชว์ในต่างประเทศ

 

“ขณะที่ยอดผลิตรวม 11 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 1,708,042 คัน ลดลง 0.98% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน การส่งออกรถยนต์ในปีหน้ามองว่าพอๆ กับในปีนี้ที่ 1.1 ล้านคัน อย่างไรก็ดี สถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังต้องจับตาความเสี่ยงทั้งความตึงเครียดในทะเลแดง สงคราม และความขัดแย้งในหลายภูมิภาคที่อาจบานปลายได้” สุรพงษ์กล่าว

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising