×

4 ปัจจัยหนุนหุ้นเกาหลีใต้น่าทยอยสะสม

26.03.2024
  • LOADING...

SCB CIO จัดทำบทวิเคราะห์เกี่ยวกับตลาดหุ้นเกาหลีใต้ โดยมองว่าวัฏจักรการส่งออกที่ฟื้นตัวส่งผลให้เศรษฐกิจเกาหลีใต้กลับมาขยายตัวอีกครั้ง โดยในปี 2567 ผลสำรวจนักวิเคราะห์จาก Bloomberg Consensus คาดการณ์ว่า GDP เกาหลีใต้ในปี 2567-2568 จะขยายตัว 2.2% สอดคล้องกับมุมมองของเราที่คาดว่า GDP เกาหลีใต้ในปีนี้จะขยายตัวได้ดีกว่าปี 2566 ซึ่งขยายตัว 1.4% ขณะที่ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) คาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไปปี 2567 อยู่ที่ 2.6% ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าเป้าหมายระยะยาวที่ 2% ทำให้เรามองว่า BOK มีแนวโน้มจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับปัจจุบัน 3.5% ต่อไป และน่าจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยได้ในช่วงครึ่งหลังของปี

 

เมื่อพิจารณาโครงสร้างดัชนีตลาดหุ้นเกาหลีใต้ หรือ KOSPI พบว่า ดัชนีมีสัดส่วนหุ้นอิเล็กทรอนิกส์สูงที่สุดถึง 39% ของดัชนี โดยหุ้นที่มีน้ำหนักค่อนข้างมากบนดัชนีฯ ก็คือ Samsung Electronics ซึ่งคิดเป็น 20% ขณะที่เมื่อรวมหุ้นตระกูลธุรกิจขนาดใหญ่ในเกาหลีใต้ (Chaebols) ทั้งหมด จะคิดเป็นประมาณ 60% ในเชิงของสัดส่วนนักลงทุนในตลาดนั้น ยังเป็นนักลงทุนรายย่อยในประเทศถึง 66% ของมูลค่าการซื้อขายในตลาดสะท้อนว่ารายย่อยมีส่วนร่วมในตลาดค่อนข้างมาก 

 

เรามองว่า ตลาดหุ้นเกาหลีใต้มีความน่าสนใจลงทุน ด้วยปัจจัยสนับสนุน 4 ด้าน ได้แก่ 1. อัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) ปี 2567 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากกำไรของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีน้ำหนักมากบนดัชนี ที่ฟื้นตัวค่อนข้างดีตามการส่งออกของเกาหลีใต้ และยอดขายเซมิคอนดักเตอร์ที่เติบโต 2. มูลค่า (Valuation) ยังน่าสนใจ โดยราคาต่อกำไรต่อหุ้นในอนาคต (12M Forward P/E) ของ KOSPI อยู่ที่ 10.6 เท่า หรือ -0.3 S.D. เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปี ขณะที่ ราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (P/BV) อยู่ที่ 0.89 เท่า หรือ -0.4 S.D. เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปี 3. อานิสงส์นโยบายเพิ่มมูลค่าบริษัท (Corporate Value Up) ที่แม้จะเป็นมาตรการตามความสมัครใจ แต่มีสิทธิพิเศษทางภาษีให้ คาดว่าจะส่งผลดีมากที่สุดกับหุ้นที่ปัจจุบันซื้อขายอยู่บน Valuation ที่ต่ำกว่าตลาดมาก มีเงินสดพร้อมสำหรับการซื้อหุ้นคืน และมีการจ่ายปันผลเพิ่มเติม และ 4. นักลงทุนต่างชาติกลับเข้าซื้อสุทธิบนดัชนี KOSPI โดยนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 กลับเข้าซื้อสุทธิแล้วประมาณ 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงปี 2564  

 

อย่างไรก็ดี ยังมีความเสี่ยงหลักสำหรับการลงทุนตลาดหุ้นเกาหลีใต้ที่นักลงทุนควรติดตาม ได้แก่ ความเสี่ยงจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลักเติบโตน้อยกว่าที่คาด เนื่องจากเกาหลีใต้พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก โดยคู่ค้าสำคัญ ได้แก่ จีน สหรัฐฯ และเวียดนาม จึงมีความเสี่ยงที่การส่งออกจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจคู่ค้าหลักเติบโตน้อยกว่าที่คาด และอาจทำให้กำไรบริษัทจดทะเบียนต่ำกว่าที่คาดการณ์ได้ และความเสี่ยงจากการเลือกตั้งทั่วไปในเกาหลีใต้ที่จะมีขึ้นวันที่ 10 เมษายน 2567 อาจทำให้เกิดความกังวลบนนโยบายเพิ่มมูลค่าบริษัทจดทะเบียน ส่งผลให้เกิดความผันผวนในตลาดหุ้นได้

 

ทั้งนี้ ด้วยปัจจัยบวกที่มีมากกว่าปัจจัยลบ ทำให้ SCB CIO มีมุมมอง Slightly Positive หรือทยอยลงทุนได้บนตลาดหุ้นเกาหลีใต้ โดยเราแนะนำให้ทยอยลงทุนบน Opportunistic Portfolio ซึ่งเป็นพอร์ตลงทุนส่วนเพิ่มโอกาส เนื่องจากปัจจัยบวกด้านกำไรบริษัทจดทะเบียนในปี 2567 ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และวัฏจักรเซมิคอนดักเตอร์ Valuation ที่ยังอยู่ในระดับไม่แพง ประกอบกับนโยบายเพิ่มมูลค่าบริษัทมีแนวโน้มส่งผลบวกต่อ Sentiment นักลงทุน

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising