×

35 ปี ขวานฟ้าหน้าดำ ภาพจำของซูเปอร์สตาร์เด็ก บอย เนติลักษณ์

13.04.2018
  • LOADING...

ถ้าเป็นนักอ่านวัย 30 ปีขึ้นไป เชื่อแน่ว่าหลายคนมีความทรงจำเกี่ยวกับละครโทรทัศน์แนวจักรๆ วงศ์ๆ กันคนละเรื่องสองเรื่อง ซึ่งหนึ่งในคาแรกเตอร์และภาพจำระดับคลาสสิกตลอดกาลคือตัวละคร ‘ขวาน’ จากภาพยนตร์โทรทัศน์ ‘ขวานฟ้าหน้าดำ’ ในเวอร์ชันปี 2526-2527  

 

หมุนเวลากลับสู่ ‘ยุคทอง’ ของภาพยนตร์โทรทัศน์แนวจักรๆ วงศ์ๆ ช่วงปี 2424-2535 หลังจากปรากฏการณ์ความโด่งดังของ สี่ยอดกุมาร ในเวอร์ชันปี 2526 จากหมุดหมายตรงนั้นเองที่ส่งให้ ‘จักรๆ วงศ์ๆ’ ต่อยอดความโด่งดัง สร้างฐานแฟน กระทั่งยืนระยะคู่กับจอโทรทัศน์ไทยมาได้เป็นหลักหลายทศวรรษ

 

แต่ถ้าจะต้องปรบมือ ยกเครดิตจากประวัติศาสตร์ภาพกว้าง เห็นทีต้องยกความดีความชอบแบบเหมาแพ็กเกจ 3 เรื่องให้กับ สี่ยอดกุมาร, สิงหไกรภพ และ ขวานฟ้าหน้าดำ (2526-2527) ที่ออกอากาศต่อเนื่องกันในช่วงปี 2526-2527

 

แน่นอนว่าในความต่างย่อมมีความเหมือน ซึ่งความเหมือนที่ทำให้ทั้ง 3 เรื่องถูกจดจำระดับตำนาน THE STANDARD ขอนิยามให้ว่านี่คือ ‘ไตรภาค บอย เนติลักษณ์’ ซูเปอร์สตาร์เด็กแห่งยุค ซึ่งถ้าจะเรียกว่าเป็นซูเปอร์สตาร์เด็กคนแรกของเมืองไทยก็ดูจะไม่ได้เอ่ยอ้างเกินจริง

 

 

ด้วยการแสดงที่น่ารัก ท่าทาง แววตา ภาษาการพูดใสซื่อ เป็นธรรมชาติ ส่งให้ช่วงเวลานั้น ด.ช.บอย เนติลักษณ์ มีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากผลงานภาพยนตร์โทรทัศน์แนวจักรๆ วงศ์ๆ บอยยังมีผลงานละครโทรทัศน์ที่สร้างชื่อและยังคงถูกจดจำจนถึงทุกวันนี้อย่างละคร ตราไว้ในดวงจิต (2527) ในบท ‘ข้าวฟ่าง’ และ ทองเนื้อเก้า (2530) ในบท ‘วันเฉลิม’ ตอนเด็ก

 

 

ย้อนกลับมาโฟกัสที่ จักรๆ วงศ์ๆ กันต่อ ขวานฟ้าหน้าดำ สร้างโดย ไพรัช สังวริบุตร แห่งดาราวิดีโอ และกำกับการแสดงโดย สมาน คัมภีร์, สันติ บุนนาค ออกอากาศครั้งแรกทางช่อง 7 ทุกคืนวันจันทร์และอังคาร ระหว่างวันที่ 12 ธันวาคม 2526 ถึง 17 เมษายน 2527 จนโด่งดังในระดับสุดฮิต ในเวลาต่อมา ขวานฟ้าหน้าดำ ถูกนำกลับมาออกอากาศซ้ำอีกครั้งหลังจากภาพยนตร์โทรทัศน์แนวจักรๆ วงศ์ๆ ถูกเปลี่ยนเวลาออกอากาศเป็นทุกช่วงเวลาเช้าของวันเสาร์และอาทิตย์

 

นอกจาก สี่ยอดกุมาร, สิงหไกรภพ, ขวานฟ้าหน้าดำ จะเป็นหนึ่งในงานไตรภาค บอย เนติลักษณ์ แต่มันยังเป็นผลงานไตรภาคบทภาพยนตร์โทรทัศน์จักรๆ วงศ์ๆ ของ วาณิช จรุงกิจอนันต์ นักเขียนเจ้าของรางวัลซีไรต์ประจำปี 2527 จากเรื่อง ซอยเดียวกัน อีกด้วย

 

 

ขวานฟ้าหน้าดำ สร้างจากนิทานพื้นบ้าน เล่าถึงโชคชะตาอันแสนขึ้นลงของ ‘สุดาเทพ’ เทวดาองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวการผจญภัยของหนูน้อยผู้เกิดมาพร้อมขวานฟ้าและใบหน้าดำไหม้  

 

เดิมทีเมื่อครั้งอยู่บนสวรรค์ ‘สุดาเทพ’ มักจะโดนเทวดาองค์อื่นรังแก ต่อมาพระอินทร์รู้สึกสงสาร จึงประทานขวานฟ้ามาให้เป็นอาวุธป้องกันตัว ครั้นเมื่อได้อาวุธมา สุดาเทพไม่ได้ใช้ขวานฟ้าเพียงเพื่อป้องกันตัว แต่กลับเปลี่ยนเป็นเทวดาที่ยโสโอหัง ใช้อาวุธของตนรังแกเทวดาองค์อื่น

 

กระทั่งเมื่อความแสบสันรู้ถึงหูพระอินทร์ ท่านจึงส่งพระอาทิตย์ไปป้องปราบจนพ่ายแพ้ ใบหน้าไหม้เกรียม บทลงโทษต่อมาคือการถูกส่งลงไปจุติบนโลกมนุษย์ด้วยใบหน้าดำไหม้ ต่อเมื่อทำความดีจนเป็นที่ประจักษ์แล้วเท่านั้นจึงจะกลับมามีใบหน้าปกติตามเดิม และกลับขึ้นสวรรค์พร้อมอาวุธขวานฟ้าของตัวเองได้อีกครั้ง

 

เรื่องราวการผจญภัยสุดตื่นเต้นที่มาพร้อมกับมิตรภาพระหว่างการเดินทางของ ‘ขวาน’ เด็กน้อยหน้าดำผู้เกิดมาพร้อมขวาน และ ‘จ้อย’ เด็กน้อยมนุษย์สุดบ้าน กลายเป็นความประทับใจ กระทั่งถูกจดจำในระดับตำนาน

 

ขณะเดียวกันไม่ใช่เฉพาะเพียงเนื้อหาและคาแรกเตอร์เท่านั้นที่ถูกจดจำ แต่เพลงประกอบภาพยนตร์ ‘ขวานฟ้า’ ก็กลายเป็นหนึ่งในเพลงฮิตระดับคลาสสิก ที่ติดหูมาจนถึงทุกวันนี้ด้วยเช่นกัน

 

เกิดมาตามบัญชาสวรรค์ มีขวานไว้ปราบอธรรม

ขวานฟ้าหน้าดำ หน้าดำเพราะกรรมทำมา

หน้าดำจิตใจงามเลิศล้น ดีล้นเพื่อหมู่ประชา

พลังปัญญา แกล้วกล้าสมชายชาตรี

* เปรี้ยงๆ เสียงอสุนีบาต ขวานฟาดโลดลั่นปฐพี

เปรี้ยงๆ ยักษ์มารแหลกลาญผงพลี ทุกธานีสูญสิ้นดัสกร

สุขสราญกันทั่วทุกถิ่นแคว้น ทั่วแดนไร้สิ้นเดือดร้อน

ขวานฟ้าร้าวรอน จนปัญญาจะรักษาหน้าหายดำ

(ซ้ำ *)

 

อ้างอิง:

 

ขอบคุณภาพขวานฟ้าหน้าดำทั้งหมดจาก: เพจ ภาพจากหนังสือเรื่องย่อละครไทย

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising