ข้อมูลล่าสุดจากราชวิทยาลัย โสต ศอ นาสิกแพทย์แห่งประเทศไทย เผยสถิติน่าตกใจที่คนไทยประมาณ 25% หรือ 1 ใน 4 มีภาวะนอนกรน และพบผู้มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับประมาณ 5% หรือราว 3 ล้านคน สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาสุขภาพที่กำลังคุกคามประชากรไทยอย่างเงียบๆ
ขณะที่ทั่วโลกก็เผชิญปัญหาในลักษณะเดียวกัน โดยข้อมูลจาก National Council on Aging (NCOA) ในสหรัฐฯ ระบุว่าประชากรโลกราว 936 ล้านคนกำลังเผชิญกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับตั้งแต่ระดับเล็กน้อยจนถึงรุนแรง ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่า ผู้ที่มีอาการนอนกรนเสี่ยงต่อภาวะดังกล่าวมากถึง 94%
จากสถานการณ์ดังกล่าว โรงพยาบาลวิมุตได้ประกาศความร่วมมือกับบริษัท นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดตัวเทคโนโลยี iNAP (Intraoral Negative Airway Pressure Therapy) เพื่อรักษาอาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea: OSA) โดยมองเห็นโอกาสในตลาด ‘Sleep Economy’ หรือเศรษฐกิจการนอน ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
นพ.พิชิต กังวลกิจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาด Sleep Economy มีมูลค่าถึง 5.128 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 (หรือกว่า 18 ล้านล้านบาท) และมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) อยู่ที่ 6.3% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพการนอนมากขึ้น
นพ.พิชิต ย้ำว่า การนอนกรนไม่ใช่เพียงเรื่องน่ารำคาญ แต่เป็นสัญญาณอันตรายที่อาจนำไปสู่ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอาจส่งผลให้เกิดโรคร้ายแรงทั้งทางกายและจิตใจ เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ในระยะยาว
ด้าน วิโรจน์ ชัยเทอดเกียรติ กรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดเครื่องมือแพทย์ในการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับทั่วโลกจะมีมูลค่าถึง 9.95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.6 หมื่นล้านบาท) ภายในปี 2573 โดยขยายตัวที่ CAGR 7.34% จากปี 2567-2573 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงโอกาสทางธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
แม้ตลาดประเทศไทยยังใหม่อยู่มาก แต่ทั้งสององค์กรมองเห็นโอกาสในการเข้าสู่ตลาดนี้ เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในการแก้ปัญหาการนอน และการตระหนักถึงความสำคัญของคุณภาพการนอน นอกจากนี้ยังเป็นการตอบสนองต่อปัญหาสุขภาพที่กำลังเพิ่มขึ้นในสังคมไทยและทั่วโลก
ผศ. พญ.กวินญรัตน์ จิตรอรุณฑ์ แพทย์เฉพาะทางสาขานาสิกวิทยาและภูมิแพ้ โรงพยาบาลวิมุต ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น หรือ Obstructive Sleep Apnea เกิดจากระบบทางเดินหายใจส่วนต้นมีการตีบแคบลง ทำให้ออกซิเจนไม่สามารถเข้าสู่ปอดไปเลี้ยงสมองและอวัยวะอื่นๆ ได้ ส่งผลให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ เช่น ความดันโลหิตสูง หัวใจล้มเหลว ภาวะหัวใจห้องบนผิดปกติ เบาหวานชนิดที่ 2 โรคหลอดเลือดสมอง รวมถึงภาวะซึมเศร้าและโรคอ้วน
การร่วมมือครั้งนี้นำไปสู่การเปิดตัว iNAP Sleep Therapy System ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ในการรักษาอาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โดยใช้เทคโนโลยี Oral Negative Air Pressure Therapy ที่สร้างแรงดูดอ่อนๆ ทำให้ลิ้นและเนื้อเยื่ออยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ช่วยให้หายใจได้อย่างเป็นธรรมชาติขณะนอนหลับ เบื้องต้นวางราคา 49,000 บาท จนถึงสิ้นปีนี้
ที่ผ่านวิมุตเองได้เริ่มเปิดเข้าสู่ตลาด Sleep Economy ผ่านบริการการตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) เดือนละ 50-60 เคส ขณะที่นำวิวัฒน์นั้นครั้งนี้ถือเป็นการเปิดตลาดเข้าสู่การทำธุรกิจแบบ B2C หลังจากที่ผ่านมาเน้นการทำแบบ B2B มาโดยตลอด สำหรับตัวเครื่อง iNAP ยังไม่มีการตั้งเป้ายอดหมายการขาย เนื่องจากมองว่าเป็นตลาดที่ยังใหม่
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ประชาชนสังเกตอาการของตนเองและคนรอบข้าง หากพบว่ามีอาการนอนกรนเป็นประจำ มีอาการสะดุ้งเฮือก นอนเต็มที่แต่ตื่นมายังง่วงมาก ปากแห้ง-คอแห้งและเจ็บคอเมื่อตื่นนอน หรือปวดศีรษะหลังตื่นนอนเป็นประจำ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและหาแนวทางรักษาที่เหมาะสมต่อไป เพื่อป้องกันผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพในระยะยาว