พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เปิดตัวขึ้นพร้อมกับการถูกปักธงว่าเป็นพรรคสาขาของ ‘พรรคเพื่อไทย’ โดยมี ร.ท. ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีต ส.ส. ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย นั่งเป็นหัวหน้าพรรค ขายภาพลักษณ์พรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่ภายใต้ข้อสังเกตว่าส่วนใหญ่ล้วนเป็นลูกหลานของคนพรรคเพื่อไทย
ขณะที่วันนี้ (14 พ.ย. 61) อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทย ยกขบวนมาร่วมเสริมทัพสมัครสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติกันอย่างคึกคัก ประกอบด้วย เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย บิดา ร.ท. ปรีชาพล หัวหน้าพรรค พิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน รัฐบาลยิ่งลักษณ์ มาพร้อมลูกชาย พชร นริพทะพันธุ์ ซึ่งสมัครเป็นสมาชิกพรรคไปก่อนหน้าแล้ว
ขัตติยา สวัสดิผล อดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย บุตรสาว เสธ. แดง พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล, นิติ เนื่องจำนงค์ นักธุรกิจ และผู้อำนวยการศูนย์กฎหมาย ม.ศรีปทุม อรพินท์ เพชรทัต อดีตประธานสำนักงานเขตดินแดง และอุเมสนัส ปานเดย์ อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ มาร่วมสมัครเป็นสมาชิก
ร.ท. ปรีชาพล แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนแสดงความยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ที่จะมาร่วมงานกับพรรคไทยรักษาชาติ เชื่อว่าด้วยนโยบายของพรรค และประสบการณ์ของทุกท่านจะทำให้พรรคเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการเลือกตั้ง
หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติยอมรับว่ามีการพูดคุยชักชวนกับผู้ใหญ่ในแวดวงการเมืองหลายคน โดยหลายคนก็สนใจจะร่วมงานกับพรรคไทยรักษาชาติ แต่จะเปิดตัวเมื่อไรนั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจส่วนตัวของแต่ละท่าน
หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติยอมรับด้วยว่าส่วนตัวเป็นเพื่อนกับ ร.ต.อ. สงกรานต์ เตชะณรงค์ และได้มีการชักชวนให้มาร่วมงาน เพราะ ร.ต.อ. สงกรานต์ มีความสนใจทางการเมืองอยู่แล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันตอบรับจากเจ้าตัว
สำหรับการย้ายค่ายของสมาชิกพรรคเพื่อไทยไปพรรคไทยรักษาชาติ มีขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวความขัดแย้งภายในเครือข่ายพรรคเพื่อไทย และมีรายงานข่าวว่า 2 พี่น้องอดีตนายกฯ ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะบินมาที่ประเทศสิงคโปร์เพื่อวางแผนจัดขุมกำลังและเคลียร์ความขัดแย้งดังกล่าว
สำหรับประเด็นนี้ หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติยืนยันว่า การเกิดขึ้นของพรรคไทยรักษาชาติ ไม่ได้เกิดจากความขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทย แต่ทั้งสองพรรคมีเป้าหมายเดียวกัน คือรักษาประชาธิปไตย
ทั้งนี้ผู้ที่มาร่วมทำงานกับพรรคไทยรักษาชาติ จำนวนไม่น้อยก็เคยทำงานกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งสืบสานอุดมการณ์มาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย ถ้าพูดถึงความยึดโยงก็คือทางจิตวิญญาณ และการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
ในส่วนของทักษิณ เป็นบุคคลที่ทำคุณประโยชน์ และอยู่ในหัวใจพี่น้องประชาชน และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมือง และหากมีสมาชิกเดินทางไปพบก็ถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล
ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์มติชนและข่าวสดฉบับวันนี้ (14 พ.ย. 61) อ้างรายงานข่าวว่า เมื่อวานนี้พรรคเพื่อไทยมีการประชุมระดับแกนนำและระดับนโยบายของพรรค เพื่อเตรียมเคาะตัวบุคคลว่าใครจะได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามของพรรคเพื่อไทย และใครที่ต้องย้ายออกไปอยู่กับพรรคไทยรักษาชาติ
ทั้งนี้คนที่ต้องย้ายออกไปจากพรรคเพื่อไทยเพื่อไปร่วมพรรคไทยรักษาชาติ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มคนที่จะลงปาร์ตี้ลิสต์ ซึ่งจะเป็นบิ๊กเนมหรือคนสำคัญของรัฐบาลในอดีต และกลุ่มอดีต ส.ส. สอบตกที่มีคะแนนอยู่ในมือ และอยู่ในเขตเลือกตั้งที่แพ้แน่ๆ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างตึงเครียด โดยอดีต ส.ส. หลายคนไม่อยากย้ายพรรค และอยากลงสมัครในนามของพรรคเพื่อไทย