แค่เปิดประตูเข้ามาก็รู้แล้วว่าบาร์นี่มันเท่ อาจด้วยเปิดอยู่ชั้นใต้ดินสลัวๆ ผสมการตกแต่งแนววินเทจ และบาร์เทนเดอร์หน้าเข้มที่ทำให้ ‘161 Crypt Bar’ ดูสมกับเป็น Gentleman Club ตามรสนิยมเจ้าของบาร์ที่ชอบเรื่องราวเก่าๆ และบรรยากาศย้อนยุค
The Vibe
161 Crypt Bar อยู่ในบ้านเก่าเลขที่ 161 ย่านเอกมัย จึงเป็นที่มาของชื่อบ้านทั้งหลังที่มีร้านอาหาร 161 Cafeteria เปิดอยู่ด้านบน ส่วนบาร์ค็อกเทลอยู่ชั้นล่าง ซึ่งส่วนของร้านอาหารค่อยมาว่ากันอีกที วันนี้เรามานั่งดื่มกันก่อน
เมื่อเปิดบานประตูไม้เข้ามา ทุกคนจะพบบาร์ค็อกเทลกลิ่นอายดิบๆ สไตล์ลูกผู้ชาย มีความคลาสสิกผสมวินเทจ เพราะเฟอร์นิเจอร์เป็นสไตล์ย้อนยุคและคละรูปแบบกันไป ใครอยากนั่งมุมไหนก็เลือกเอาเลย โดยจะมีเคาน์เตอร์บาร์ 5 ที่นั่งไว้สำหรับคนอยากคุยกับบาร์เทนเดอร์ เนื่องจากค็อกเทลที่นี่มีเรื่องราวและความซับซ้อนพอสมควร
เช่นเดียวกับรูปภาพ Lady Godiva ที่ประดับเด่นอยู่บนผนังด้านหลัง เป็นภาพที่เจ้าของตั้งใจเลือกมาไว้ในบาร์แห่งนี้ เพื่อแสดงถึงความเฟมินีน ความกล้า และความเด็ดเดี่ยวของผู้หญิงที่ต้องต่อกรกับผู้ชาย
The Taste
ค็อกเทลของ 161 Crypt Bar ดึงคอนเซปต์มาจากยุค 1870 เป็นช่วงที่แต่ละประเทศ แต่ละทวีปมีเรื่องราวน่าสนใจเกิดขึ้นเป็นของตัวเอง บาร์เทนเดอร์จึงหยิบเรื่องเหล่านั้นมาตีความเป็นซิกเนเจอร์ค็อกเทล แถมบาร์เทนเดอร์บอกอีกว่าหลายๆ เมนูดื่มไปแล้วจะได้รสชาติวัตถุดิบบางอย่าง ทว่าเขาไม่ได้ใส่สิ่งนั้นลงไปเลย เพราะเกิดจากการนำวัตถุดิบมาผสมกันจนเกิดรสชาติใหม่ล้วนๆ
เช่นแก้วแรก Guess? (420 บาท) ค็อกเทลที่สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ แต่ไม่บอกส่วนผสม เพราะอยากให้ทุกคนลองจิบแล้วคิดดูว่าจะนึกถึงอะไร โดยแก้วนี้ทวิสต์มาจากมาร์ตินี เป็นแก้วดื่มง่ายสบายๆ สั่งเป็นแก้วแรกก็เหมาะ
Hunting Hog (480 บาท) ได้แรงบันดาลใจมาจากการใช้หมูล่าทรัฟเฟิลในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งปัจจุบันยังคงมีให้เห็นอยู่บ้าง โดยแก้วนี้จะทวิสต์มาจากคลาสสิกค็อกเทลชื่อ Sidecar และนำทรัฟเฟิลออยล์ไปวอชกับคอนญัก มีราสป์เบอร์รีเป็นส่วนผสมด้วย เพราะคืออาหารของหมูสายพันธุ์นี้
Coventry (440 บาท) แก้วนี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก Lady Godiva สุภาพสตรีในภาพวาดบนผนัง เนื่องจากเธอยอมอับอายเพื่อทำให้คนอื่นมีความสุข จึงกลายเป็นค็อกเทลที่จิบแรกขมฝาด ก่อนตามด้วยความหอมฟุ้งในปากอยู่นาน โดยเบสใช้วิสกี้ผสมไวน์ มีรสชาติของช็อกโกแลตที่ผสมขึ้นจากผลไม้ และขอบๆ แก้วคือผงมะเขือเทศอบแห้ง
Six Feet Under (480 บาท) ค็อกเทลที่ทวิสต์มาจาก Sazerac และมีคาแรกเตอร์สมกับชื่อ ด้วยความแรง หนักแน่น สมกับเป็นลูกผู้ชายที่ชอบมานั่งดื่มใน Gentleman Club โดยบาร์เทนเดอร์เล่าว่าได้แรงบันดาลใจมาจากพิธีศพของชาวยุโรปที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ คือการขุดหลุมลงไปลึก 6 ฟุต จึงทำค็อกเทลแนวสปิริตฟอร์เวิร์ดที่ใช้เบสเข้มๆ 2 ชนิด แถมยังอินฟิวส์กาแฟเพิ่มความเข้ม มีไซรัปเพิ่มความเอิร์ธตี้ และเสิร์ฟมาในขวดแบนสเตนเลสเหมือนที่เราชอบเห็นตัวละครถือในหนังนัวร์
เดี๋ยวจะหาว่ามาบาร์นี้ต้องเก๊กดื่มเข้มอย่างเดียว ค็อกเทลดื่มง่ายๆ สบายๆ ก็มี เช่น The Corpse Flower (420 บาท) ตั้งชื่อตามดอกไม้ยักษ์ชนิดหนึ่งที่ถูกค้นพบในช่วงปี 1870 ที่สหรัฐอเมริกา ดมแล้วจะบอกว่าหอมก็ใช่ เหม็นก็ไม่เชิง จึงเกิดเป็นค็อกเทลเบสสาเกที่เปรี้ยวหวานดื่มง่าย นุ่มนวล ครบรส ดื่มแล้วสั่งแก้วต่อไปได้แน่นอน
Good for
เสน่ห์ของดริงก์บาร์นี้เราว่าอยู่ตรงความชัดเจน แต่ละแก้วมีคาแรกเตอร์ไม่เหมือนกัน โดยจะเน้นหยิบเมนูคลาสสิกมาทวิสต์ใหม่ให้น่าสนใจ เน้นความซับซ้อน แต่ก็ดื่มง่าย มีเรื่องราวให้นั่งฟัง
และไม่จำเป็นว่าคุณต้องเป็นสุภาพบุรุษเท่านั้นถึงจะมาได้นะ ขอแค่เป็นคนชอบค็อกเทล อยากลองดื่มอะไรใหม่ๆ ที่มีลูกเล่นในไวบ์คลาสสิกๆ แค่นี้ก็แวะมาได้แล้ว
161 Crypt Bar
Open: เปิดทุกวัน เวลา 18.00-00.00 น.
Address: ซอยเอกมัย 10
Contact: 161 Cafeteria and Crypt
Budget: เริ่มต้น 500-1,500 บาท
Map:
