130 ประเทศ คิดเป็น 98% ของโลกกำลังสำรวจสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) จำนวนนี้เกือบครึ่งหนึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนพัฒนา นำร่อง หรือเปิดตัวแล้ว โดยตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครน และกลุ่ม G7 ออกมาตรการคว่ำบาตร การพัฒนา Wholesale CBDC ก็เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
รายงานวิจัยของ Atlantic Council สถาบันคลังสมองในสหรัฐฯ ที่เพิ่งเผยแพร่เมื่อวันพุธ (28 มิถุนายน) ระบุว่า ปัจจุบัน 130 ประเทศคิดเป็น 98% ของเศรษฐกิจโลกกำลังสำรวจ ‘สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง’ หรือ CBDC โดยเกือบครึ่งหนึ่งอยู่ในขั้นตอนพัฒนาขั้นสูง นำร่อง หรือเปิดตัวไปแล้ว
ในรายงานระบุว่า มี 11 ประเทศได้เปิดตัว CBDC ไปแล้ว ตามที่หลายคนทราบกันดีอยู่แล้ว เช่น บาฮามาส ไนจีเรีย และจาเมกา
ขณะที่การทดสอบนำร่องในจีนขณะนี้สามารถเข้าถึงผู้คนได้ 260 ล้านคน และครอบคลุมราว 200 สถานการณ์การใช้ประโยชน์ต่างๆ ตั้งแต่อีคอมเมิร์ซไปจนถึงการแจกเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
ส่วนประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ขนาดใหญ่อีก 2 แห่ง ได้แก่ อินเดีย และบราซิล ก็วางแผนที่จะเปิดตัว CBDC ในปีหน้าเช่นกัน ด้านธนาคารกลางยุโรป (ECB) กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการนำร่อง ‘ยูโรดิจิทัล’ ก่อนเปิดตัวในปี 2028 หากเป็นไปได้ ขณะที่อีกกว่า 20 ประเทศก็กำลังจะดำเนินการนำร่องที่สำคัญในปีนี้ รวมถึงออสเตรเลีย ไทย เกาหลีใต้ และรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม ในสหรัฐอเมริกา ความก้าวหน้าของ ‘ดอลลาร์ดิจิทัล’ มีเพียงเวอร์ชัน Wholesale หรือเวอร์ชันสำหรับระหว่างสถาบันการเงิน (Bank-to-Bank) เท่านั้น ส่วนเวอร์ชันสำหรับประชาชนทั่วไป (Retail CBDC) ยังคง ‘ไม่คืบหน้า’ (Stalled)
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคมปี 2022 โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เคยสั่งให้เจ้าหน้าที่รัฐประเมินความเสี่ยงและประโยชน์ของการสร้างดอลลาร์ดิจิทัล
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานะของเงินดอลลาร์สหรัฐที่มีอิทธิพลและความสำคัญอย่างมากในระบบการเงินโลก อาจส่งผลกระทบไปทั่วโลกอย่างใหญ่หลวง โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) กล่าวเมื่อเดือนมกราคมว่า สภาคองเกรสควรตัดสินใจว่าจะเปิดตัวดอลลาร์เวอร์ชันดิจิทัลหรือไม่
ขณะเดียวกัน ทั่วโลกกำลังผลักดัน CBDC ให้เกิดขึ้น เนื่องจากการใช้เงินสดจริงกำลังลดลงในหลายประเทศทั่วโลก และเจ้าหน้าที่ประเทศต่างๆ ก็กำลังมองหาการป้องกันภัยคุกคามจากบิทคอยน์และบริษัทบิ๊กเทคต่างๆ
นอกจากนี้ การคว่ำบาตรที่บังคับใช้กับรัสเซียและเวเนซุเอลาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็เป็นอีกตัวขับเคลื่อนหนึ่ง แม้กระทั่งพันธมิตรของสหรัฐฯ อย่างยุโรปก็ต้องการทำให้แน่ใจว่าจะมีทางเลือกอื่นนอกเหนือจากเครือข่ายการชำระเงินอย่าง Visa, Mastercard และ SWIFT
Atlantic Council กล่าวในรายงานว่า “ตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนและเกิดการคว่ำบาตรจากกลุ่ม G7 การพัฒนา Wholesale CBDC ก็เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า” พร้อมเสริมว่าขณะนี้มีโครงการ CBDC ข้ามพรมแดนแล้ว 12 โครงการในหลายประเทศที่กำลังดำเนินการอยู่
สำหรับสวีเดนยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่ก้าวหน้าที่สุดในยุโรปด้วยการนำร่อง CBDC ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษก็กำลังเร่งดำเนินการกับเงินปอนด์ดิจิทัล โดยหวังว่าจะสามารถใช้งานได้ภายในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษนี้
อ้างอิง:
