หากปี 1881 เด็กหนุ่มวัย 21 ปีนามว่า คินทาโร่ ฮัตโตริ (Kintaro Hattori) ไม่ตัดสินใจเปิดร้านขายและซ่อมนาฬิกาในย่านกินซา วันนี้โลกคงไม่มีแบรนด์นาฬิกาที่ชื่อ ‘SEIKO’

ฮัตโตริหลงใหลในนาฬิกาตั้งแต่ยังเด็ก เขาฝึกหัดเป็นช่างนาฬิกาและเรียนรู้เกี่ยวกับกลไกของนาฬิกาจากฝั่งยุโรปมาโดยตลอด ความใคร่รู้นั้นมาพร้อมวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ในที่สุดฮัตโตริก็ตัดสินใจผลิตนาฬิกาแขวนผนังออกวางจำหน่าย โดยใช้ชื่อแบรนด์ว่า ‘SEIKO’ พร้อมกับตั้งบริษัท Seikosha และเปิดโรงงานผลิตในปี 1982 ซึ่งเป็นโรงงานผลิตนาฬิกาแห่งแรกของญี่ปุ่น

SEIKO กลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนาฬิกาของญี่ปุ่นอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งปี 1913 ได้ผลิตนาฬิกาข้อมือเรือนแรกของญี่ปุ่นออกสู่ตลาด นั่นคือรุ่น Laurel ถือเป็นก้าวแรกที่ SEIKO เข้าสู่ตลาดนาฬิกาข้อมืออย่างเต็มรูปแบบ และยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการผลิตนาฬิกาในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

วันนี้ Laurel นาฬิกาข้อมือรุ่นแรกที่ทำให้ SEIKO เป็นที่รู้จักทั่วโลกมีอายุครบรอบ 110 ปี และเพื่อเฉลิมฉลองให้กับจุดเริ่มต้นของนาฬิกาข้อมือเรือนในตำนาน SEIKO จึงเปิดตัวนาฬิกา Limited Edition ผ่าน 4 คอลเล็กชันหลักของ SEIKO ได้แก่ Presage, Prospex, Astron และ 5 Sports

และนี่คือ 7 เรือนเวลา ผลงานการสร้างสรรค์ศิลป์เหนือกาลเวลา เพื่อเฉลิมฉลองตำนานนาฬิกาข้อมือเรือนแรกที่ทำให้ SEIKO กลายเป็นที่รู้จักทั่วโลกจนถึงวันนี้ 

คอลเล็กชัน Presage 

เริ่มกันที่ Presage หนึ่งในคอลเล็กชันหลักของแบรนด์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากงานฝีมือชั้นสูงของประเทศญี่ปุ่นสู่ข้อมือของคนรักนาฬิกา เมื่อถึงเวลาที่ต้องเข้าร่วมเฉลิมฉลองก็พร้อมส่ง 3 รุ่นใหม่ ได้แก่ Presage Craftsmanship Series ถอดแบบงานดีไซน์จากรุ่น Laurel ได้ครบทุกรายละเอียด โดย มิตสึรุ โยโกซาวะ (Mitsuru Yokosawa) ช่างฝีมือระดับอาจารย์และทีมงานของเขา เผยโฉมมาในหน้าปัดแบบอีนาเมลสีขาว มาพร้อมตัวเลข 12 สีแดง โดยที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกาเป็นช่องวันที่ มีมาตรวัดแสดงระดับพลังงานสำรองอยู่ในตำแหน่ง 9 นาฬิกา โดดเด่นด้วยชุดเข็มทรงคลาสสิกสีน้ำเงิน ตัวเรือนออกแบบให้สอดรับกับความโดดเด่นของหน้าปัด ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติในรหัส 6R27 และยังคงรักษาเอกลักษณ์ของ Presage ที่เน้นความบาง เบา และสบายเมื่อสวมใส่อยู่บนข้อมือ

รุ่นต่อมา Sharp Edged Series มาในรูปลักษณ์ที่ดูทันสมัยของการออกแบบตัวเรือนที่มีเหลี่ยมมุมเฉียบคม แต่ยังสอดแทรกเสน่ห์ของตำนาน Laurel ผ่านการแต้มสีแดงบนอินเนอร์ริงของหน้าปัดในตำแหน่ง 12 นาฬิกา โดยเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีทรงปลายแหลมดูสอดรับกับลวดลาย ‘Asanoha’ หรือลาย Hemp Leaf ซึ่งเป็นลวดลายที่คนญี่ปุ่นใช้มานานนับพันปี เพราะมีความเชื่อที่ว่าจะช่วยให้มีความเจริญรุ่งเรืองที่ปรากฏอยู่บนพื้นหน้าปัด 

และ Style60’s GMT นาฬิกาเพื่อการเฉลิมฉลองในคอลเล็กชัน Presage ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ 4R34 สะท้อนความสง่างามผ่านชุดเข็มสีน้ำเงิน รวมถึงเข็มในการแสดงเวลาที่ 2 หรือ GMT มาช่วยเพิ่มความโดดเด่นที่ตัดกับพื้นหน้าปัด นอกจากนี้การออกแบบตัวเรือนและขอบตัวเรือนยังสะท้อนถึงความคลาสสิก และที่ขาดไม่ได้เลยคืออินเนอร์ริงด้านในหน้าปัดจะสังเกตเห็นเครื่องหมายสีแดงเล็กๆ อยู่ในตำแหน่ง 12 นาฬิกา ไม่เพียงช่วยเพิ่มความแม่นยำให้กับการบอกเวลาเท่านั้น แต่นี่คือสิ่งที่ย้ำเตือนถึงตำนานของรุ่น Laurel ที่สำคัญรุ่นนี้ยังนำเทคโนโลยี Lumibrite มาใช้บนเข็มชั่วโมงและนาที จึงสามารถอ่านเวลาได้ทุกช่วงเวลาและทุกสภาพแสง 

คอลเล็กชัน Prospex

สำหรับคอลเล็กชัน Prospex ได้สร้างสรรค์ 2 รุ่นพิเศษเพื่อร่วมรำลึกถึงการเดินทางตลอด 110 ปี โดยรุ่นแรก SPEEDTIMER Solar Chronograph นาฬิกาจับเวลาแบบเข็ม สามารถจับเวลาได้ละเอียดในระดับ 1 ต่อ 100 วินาที โดดเด่นด้วยเข็มโทนสีแดงที่เป็นการแสดงความเคารพและยกย่องต่อ Laurel ปรากฏอยู่บนหน้าปัดสีขาว โดยมีพื้นหน้าปัดย่อยสีดำช่วยทำให้เลย์เอาต์ของหน้าปัดหลักมีความลงตัว

ในขณะที่รุ่น Alpinist มีจุดเด่นอยู่ที่ชุดเข็มนาฬิกาสีน้ำเงินซึ่งตัดกับสีสว่างของหน้าปัดได้อย่างลงตัว โดยมีเครื่องหมายสีแดงตรงขอบหมุนปรากฏอยู่ เพื่อใช้บอกตำแหน่งของทิศ การออกแบบนี้สะท้อนถึงการเชื่อมโยงกับนาฬิการุ่น Laurel และเพื่อใช้ในการแสดงตำแหน่งสำคัญนั่นคือทิศเหนือ โดยรุ่นนี้ติดตั้งกลไกแบบ GMT โดยใช้ Caliber 6R54 ที่มีความทนทานและมั่นใจได้ในการใช้งาน พร้อมกับระดับพลังงานสำรองอยู่ที่ 72 ชั่วโมง 

คอลเล็กชัน Astron

สำหรับคนที่อยากผนึกรวมความคลาสสิกกับเทคโนโลยีล้ำสมัย Astron GPS Solar คือคำตอบ นาฬิกาเรือนนี้ถูกตั้งชื่อในฐานะที่เป็นนาฬิกาควอตซ์เรือนแรกของโลกที่ถูกผลิตขึ้นมาจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ เช่นเดียวกับ Laurel โดยกลไกภายในเรือนเวลารุ่นล่าสุดคือ Calibre 3X62 สามารถจับสัญญาณ GPS ได้แม่นยำ โดยสามารถเชื่อมต่อกับสัญญาณ GPS อัตโนมัติได้สูงสุด 2 ครั้งต่อวัน* เพื่อรักษาความเที่ยงตรงในระดับวินาทีในทุก 1 แสนปี หน้าปัดสีขาวเผยให้เห็นอินเนอร์ริงที่อยู่ด้านในหน้าปัดมีการระบุตัวเลขของช่วงเวลา โดยแบ่งออกเป็นทุกๆ 5 นาที และมีเครื่องหมาย 60 ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกาเพียงเลขเดียวที่เป็นสีแดง เพื่อเป็นการระลึกถึง Laurel โดยมีหน้าปัดย่อยที่บอกถึงการรับสัญญาณ GPS ของนาฬิกา 

คอลเล็กชัน 5 Sports

5 Sports ที่มาพร้อมกับดีไซน์ Field Watch สง่างามด้วยการสร้างสรรค์รายละเอียดบนหน้าปัด เพื่อเป็นการแสดงความยกย่องต่อ Laurel ไม่ว่าจะเป็นชุดเข็มสีน้ำเงินตัดกับตัวเลขแดงที่ถูกใช้สำหรับการแสดงเวลาในส่วนของ 24 ชั่วโมง การออกแบบที่ให้ความสำคัญกับฟังก์ชัน ความทนทานและความสนุกสนาน มาพร้อมกับกลไกแบบอัตโนมัติ เครื่อง 4R36 มีช่องแสดงวันที่และวันประจำสัปดาห์ มาพร้อมกระจกหน้าปัด Hardlex Crystal และสามารถเรืองแสงได้ในที่มืด นาฬิกามาพร้อมกับสายโลหะแบบ 5 แถวผลิตจากสเตนเลสสตีล

ในแต่ละรุ่นจะมีความพิเศษและเอกลักษณ์ที่โดดเด่น แตกต่าง ทั้งการออกแบบและนวัตกรรม เพื่อให้นักสะสมได้เลือกเก็บช่วงเวลาแห่งความทรงจำตามสไตล์ของตัวเอง มีเพียงจุดร่วมเดียวที่เหมือนกันคือ การใช้กิมมิกของสีแดงที่ปรากฏอยู่ในนาฬิการุ่น Laurel มาใช้กับตำแหน่งมาร์กเกอร์สำคัญบนหน้าปัด และนาฬิการุ่นพิเศษนี้ยังมาพร้อมกับสายหนังจาก Leather Working Group ที่ได้รับการรับรองจากโรงฟอกหนัง 

การออกแบบทั้ง 7 เรือนเวลา นอกจากจะแสดงความเคารพต่อ Laurel แล้ว ยังได้แสดงให้เห็นถึงการเดินทางของนวัตกรรมการผลิตนาฬิกาของแบรนด์และการรักษาคุณภาพระดับสูงของการผลิตนาฬิกาสมัยใหม่อีกด้วย

นาฬิกาทุกรุ่นผลิตจำนวนจำกัด และวางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ไซโก บูติก เซ็นทรัลพระราม 9, เคาน์เตอร์ไซโกที่ห้างสรรพสินค้าและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (ยกเว้น Presage Craftsmanship Series: SPB401J และ Astron GPS Solar: SSJ019J) รวมทั้งช่องทางเว็บไซต์ seikoboutiquethailand.com