×

ยัง หรือ สเตราด์ สองควอเตอร์แบ็กดาวเด่นที่จะถูกดราฟต์คนแรก

21.04.2023
  • LOADING...

นับตั้งแต่ NFL มีข้อตกลงเพื่อประโยชน์ร่วมกันกับทางสหภาพผู้เล่นเกี่ยวกับโครงสร้างสัญญาผู้เล่นรุกกี้ที่ออกจากมหาวิทยาลัย ก็ทำให้การสร้างทีมด้วยวิธีดราฟต์เป็นที่นิยมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตำแหน่งพรีเมียมอย่างควอเตอร์แบ็ก ไม่มีปัญหาซับซ้อนลากยาวและแพงมหาศาลอีกต่อไป

 

สำหรับท่านที่อาจไม่คุ้นกับกีฬาในแบบอเมริกัน ก็ขออธิบายสั้นๆ ว่า กีฬาอาชีพของที่นั่นเหมือนเป็นโครงสร้างพีระมิด ตั้งแต่มัธยมขึ้นสู่มหาวิทยาลัยและอาชีพ

 

ขั้นตอนที่เรียกว่า ดราฟต์ แปลไทยจะประมาณ การคัดเลือกตัว

 

โดย NFL จะให้สิทธิ์กับทีมที่อยู่อันดับบ๊วยสุดฤดูกาลที่ผ่านมา เลือกตัวผู้เล่นจากมหาวิทยาลัยก่อนใครเพื่อน เพื่อเอามาปรับปรุงทีมเอาไว้สู้กับคู่แข่ง

 

ควอเตอร์แบ็กคือตำแหน่งที่ทรงคุณค่าสุด เหมือนกับเวลาคุณสร้างภาพยนตร์สักเรื่องก็ต้องมีพระเอก เวลาออกสงครามก็ต้องมีแม่ทัพ

 

ปีนี้ชิคาโก้ แบร์ส คือทีมที่จะได้โอกาสเลือกก่อนใคร แต่แคโรไลน่า แพนเธอร์ส คือทีมที่ต้องการควอเตอร์แบ็กอย่างมาก จึงยอมทุ่มทุนเสียทั้งสิทธิ์ดราฟต์ อันดับ 9 และ 61 ในปีนี้ พ่วงด้วยรอบแรกปี 2024 รอบสองปี 2025 กับปีกตัวเก่ง ดีเจ มอร์ ให้แบร์ส เพื่อเลื่อนอันดับขึ้นมาเหนือสุด

 

แม้ว่าการเซ็นสัญญาฟรีเอเจนต์ หรือการเทรดผู้เล่น อาจเป็นอีกแนวทางให้สร้างทีมประสบความสำเร็จ อย่างที่แอลเอ แรมส์ เคยได้ แมตธิว สแตฟเฟิร์ด มาเป็นควอเตอร์แบ็ก คว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์สองซีซันก่อน หรือแทมป้า เบย์ บัคคาเนียร์ส ได้ ทอม เบรดี้ เข้ามาสามซีซันที่แล้ว

 

 

แต่แพนเธอร์สไม่ใช่ทีมที่พื้นฐานเก่งอยู่ก่อน ยังต้องปรับปรุงและใช้เวลาพักใหญ่เพื่อประสบความสำเร็จ

 

วิธีดราฟต์ควอเตอร์แบ็กจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะกว่า

 

คู่ชิงซูเปอร์โบวล์เมื่อต้นปีทั้ง แพทริก มาโฮมส์ และ เจเลน เฮิร์ตส ก็เป็นคนพาทีมที่ดราฟต์พวกเขาทะลุเข้ามาได้

 

 

วันที่ 28 เมษายนนี้ จะมีควอเตอร์แบ็กน่าสนใจลุ้นถูกเลือกขึ้นมาก่อนอยู่สองคน นั่นคือ ไบรซ์ ยัง จากมหาวิทยาลัยอลาบาม่า และ ซี.เจ.สเตราด์ จากโอไฮโอ สเตท

 

หลายฝ่ายในลีกมองว่า สเตราด์ ซึ่งสูง 6 ฟุต 3 หนัก 214 ปอนด์ มีโครงสร้างเข้ากับ แฟรงค์ ไรช์ โค้ชปีแรกของแคโรไลน่ามากกว่า

 

ตลอดอาชีพ 17 ปีของไรช์ไม่เคยใช้งานควอเตอร์แบ็กที่เตี้ยกว่า 6 ฟุต 2 (1.88 เมตร)

           

หลายฝ่ายในลีกกลับมองว่า แม้ยังตัวเล็กกว่า (5 ฟุต 10 หนัก 204 ปอนด์) แต่มีคุณสมบัติครบกว่า

 

“ไบรซ์เก่งกว่า แม้จะตัวเล็กก็ตาม” หนึ่งในฝ่ายบริหาร NFL แสดงความเห็น

 

ส่วนอีกคนก็ชมว่า “แทบหาจุดอ่อนจากไบรซ์ไม่เจอ”

 

เรื่องที่ไรช์เคยแสดงความชื่นชอบสเตราด์ที่ตัวใหญ่กว่าก็อาจเป็นสัญญาณลวง หรือว่าเขาอาจกังวลว่ายังอาจทรหดสู้ศึกใหญ่ใน NFL ไม่ไหวจริงๆ (แม้ว่าตลอดสองซีซัน ยังลงตัวจริง 27 จาก 28 เกม)

 

แหล่งข่าวบอกว่า ในเมื่อแพนเธอร์สอุตส่าห์ลงทุนเทรดขึ้นจากอันดับ 9 ก็เพื่อเลือกสเตราด์หรือยังเท่านั้น แม้ที่ผ่านมาฝ่ายบริหารทีมยังพยายามยกชื่อ แอนโธนี่ ริชาร์ดสัน จากมหาวิทยาลัยฟลอริดา กับ วิลล์ ลูวิส จากมหาวิทยาลัยเคนทักกี อีกสองควอเตอร์แบ็กดีกรีลุ้นโดนดราฟต์ท็อปเท็นขึ้นมาโยงด้วยก็ตาม

 

สก็อตต์ ฟิทเทอเรอร์ ผู้จัดการทีม และไรช์ รวมทั้งทุกคน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขั้นตอน ต่างยืนยันว่าพวกเขามีความเห็นเป็นไปในทางเดียวกัน ไม่คิดว่าจะเกิดความขัดแย้งเมื่อได้บทสรุปออกมา

 

ไรช์โดนถามว่า คุณสมบัติเด่นที่เขาอยากได้จากควอเตอร์แบ็กคืออะไร?

 

เขาเอ่ยถึง มาร์ฟ ลีวี่ ปรมาจารย์โค้ชเมื่อยุค 90 ของบัฟฟาโล่ บิลล์ส “สมัยที่ผมแข่งให้กับเขา เขามักพูดอยู่ตลอด หาผู้เล่นที่คาแรกเตอร์ดีๆ มีความฉลาดด้านฟุตบอลมาให้ด้วย พวกเขาแต่ละคนจะหาทางยกระดับการเล่นของตัวเองอยู่ตลอดเวลา”

 

สเตราด์กับยังมีความอ่อนน้อมถ่อมตัว แต่มั่นใจในตัวเอง วัดจากการให้สัมภาษณ์เมื่อสื่อโยนคำถามเรื่องที่ทำไมพวกเขาถึงต้องถูกเลือกคนแรก

 

“ผมคงไม่มีอะไรจะหยิบยกขึ้นมา” ยังตอบคำถาม “ผมพยายามเป็นตัวเอง ผมต้องการเป็นตัวเองเวลาโดนแสงไฟสาดส่อง ผมถูกเลือกไปที่ไหน ใครเลือกผม ผมก็รู้สึกขอบคุณกับทีมไหนก็ตามที่ให้โอกาสกับผม”

 

ส่วนสเตราด์บอกว่า “มันคงไม่ใช่งานผม (ที่ต้องโฆษณาตัวเองให้ถูกเลือกคนแรก) งานผมคือเป็นตัวของตัวเองให้ดีที่สุด อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ผมคอนโทรลไม่ได้”

 

 

ไรช์พูดถึงสองคนนี้อย่างไรบ้าง?

 

“มีความเป็นผู้นำที่ต่างสไตล์ แต่ทั้งสองคนคือผู้นำที่ดี หนึ่งในภารกิจผู้นำก็คือสร้างสรรค์โอกาส ไม่ใช่บนสนามแข่ง ความเป็นผู้นำคุณสร้างขึ้นมาไม่ได้ มันต้องเกิดจากภายในตัวตน คุณต้องมีสัญชาตญาณผู้นำ และรู้ว่าเมื่อไรที่ต้องฉวยโอกาส รู้ว่าเมื่อไรต้องก้าวขึ้นมาเพื่อสร้างโอกาส คุณเห็นคุณสมบัติพวกนี้จากทั้งคู่”

 

ผู้บริหาร NFL ไม่เอ่ยชื่อ กล้าฟันธงมากกว่า “เป็นผมจะเลือกไบรซ์ จากที่เห็นทั้งสองคนแข่งฟุตบอล ความฉลาด และความเป็นผู้นำ”

 

ว่ากันด้านรับแรงโจมตีของทั้งสองคนในช่วงเวลาสองฤดูกาล ถือว่าทำดีทั้งคู่ แต่ยังทำดีกว่าชัดเจน

 

สถิติจาก ESPN ช่วยยืนยัน

 

เวลาโดนคู่แข่งบี้ใส่ ยังรั้งอันดับหนึ่งเรื่องการขว้างได้ระยะหลา (2,132), ขว้างทัชดาวน์ (24) และปาระดับ 20 หลาขึ้นไปเข้าเป้า (34)

 

สเตราด์ อันดับ 16 เรื่องการขว้างได้ระยะหลา (1,364), ขว้างทัชดาวน์ (15) และปาระดับ 20 หลาขึ้นไปเข้าเป้า (20)

 

สาเหตุสำคัญที่สเตราด์ไม่ค่อยต้องสร้างเพลย์จากนอกพ็อกเก็ต เนื่องจากออฟเฟนซีฟไลน์เพื่อนร่วมทีมบัคอายส์ ปกป้องเขาสุดยอด ตลอดชีวิตนักศึกษา ไม่มีเกมไหนต้องออกวิ่งเองเกิน 8 หน

 

กลายเป็นยังกลับต้องเอาตัวรอดมากกว่า เพราะแนวป้องกันอลาบาม่าฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐาน แต่ผลงานของเขาก็ไม่ได้แย่แต่อย่างใด

 

ปี 2022 ออฟเฟนซีฟไลน์อลาบาม่าปล่อยให้ควอเตอร์แบ็กโดนกดดันภายใน 2.5 วินาทีมากถึง 9.9% แย่เป็นอันดับ 29 ประเทศ

 

ขณะที่ออฟเฟนซีฟไลน์โอไฮโอ สเตท โดนแค่ 8% อยู่อันดับ 17

 

อัตราการโดนกดดันอลาบาม่าก็ 29.2% อันดับ 80 ทีเดียว ส่วนโอไฮโอ สเตท อันดับแค่ 22 โดน 23.4%

 

อย่างไรก็ตาม เพราะยังว่องไว เอาตัวรอด ไม่เสียแซ็กง่ายๆ เปอร์เซ็นต์การถูกแซ็กของอลาบาม่าอยู่แค่ 7.5% ส่วนโอไฮโอ สเตท 8.0%

 

           

ว่ากันเรื่องผลงาน ยังมีศักยภาพควอเตอร์แบ็กหรือ QBR เวลาออกนอกพ็อกเก็ต 95.7 ดีสุดจากควอเตอร์แบ็กทั้งหมด 98 คน ซึ่งต้องขว้างลูกอย่างน้อย 250 หนด้วย ส่วนสเตราด์ QBR เพียง 69.0 หรืออันดับ 49

 

ท็อดด์ แม็คเชย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ดราฟต์ของ ESPN ให้มุมมอง “ไบรซ์เป็นผู้เล่นที่ต่อยอดเพลย์ได้ ร่ายเวทมนตร์ทั้งในและนอกพ็อกเก็ต”

 

จอร์แดน หรีด อดีตควอเตอร์แบ็กคอลเลจ ซึ่งผันตัวเองมาเป็นนักวิเคราะห์ให้ ESPN บอกว่า “(ไบรซ์) สามารถฆ่าคุณได้เวลาอยู่ในพ็อกเก็ต เขาเล่นงานคุณเวลาออกนอกพ็อกเก็ตเช่นกัน แต่สิ่งที่ผมทึ่งสุดก็คือความเยือกเย็น”

 

สเตราด์ไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว “เวลาผมต้องต่อยอดเพลย์ ผมก็ทำได้ ไม่ต่างจากใครก็ตามในประเทศหรอก”

 

ผลงานตลอดสองฤดูกาลของสเตราด์ ขว้างเข้าเป้า 66.3% ได้ 85 ทัชดาวน์ เสียแค่ 12 อินเทอร์เซปต์

 

ยังคอมพลีต 65.8% ได้ 80 ทัชดาวน์ เสีย 12 อินเทอร์เซปต์

 

ทั้งสองคนน่าทึ่งเวลาโดนกดดันและโดนบลิตซ์

 

ตั้งแต่ปี 2013 ควอเตอร์แบ็กดังๆ สมัยอยู่คอลเลจแล้วมีศักยภาพควอเตอร์แบ็กอย่างน้อย 30 เวลาโดนกดดัน ประกอบด้วย แพทริก มาโฮมส์, โจ เบอร์โรว์, คายเลอร์ เมอร์รี่ย์, เทรเวอร์ ลอว์เรนซ์ และ แม็ค โจนส์

 

พวกเขากำลังไปได้สวยกับระดับ NFL 

 

ส่วนสองคนนี้ล่ะ?

 

ปี 2022 สเตราด์มีศักยภาพเวลาโดนกดดัน 30.6 และ 85.3 เวลาโดนบลิตซ์ ส่วนยังศักยภาพ 30.1 เมื่อโดนกดดัน กับ 89.9 เวลาโดนบลิตซ์

 

แม็คเชย์อวยยังไม่หยุด “สำหรับไบรซ์ ยังมันก็เหมือนนั่งดู สเตฟเฟ่น เคอร์รี่ แข่งบาสเกตบอล ทุกอย่างดูช้าเพราะพวกเขาสามารถประมวลผลอย่างว่องไว มองเห็นทั่วสนามหรือทั่วคอร์ต ก็คล้ายๆ กัน”

 

มาว่ากันเรื่องพลังแขน อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ควอเตอร์แบ็กต้องมี

 

สเตราด์โดดเด่นอยู่แล้ว เขาขว้างยาว แม่นยำ โดยแทบไม่ต้องออกแรงมากมาย

 

แต่ฟิทเทอเรอร์ ผู้จัดการทีมแพนเธอร์ส ก็กลับจากการไปดูฟอร์มยังซ้อมโชว์ที่มหาวิทยาลัยอลาบาม่าแล้วชมเปาะ พลังแขนแกร่งกว่าที่คิด แถมยังโชว์ด้วยว่าให้เขาปาลูกด้วยองศาแขนแบบไหนก็ยังมีแรง

           

พลังแขนสองคนถือว่าน่าพอใจ แล้วถ้าต้องขว้างสั้น?

 

ยังขว้างแบบไม่เกิน 10 หลา พลาดเป้าแค่ 1.8% และถ้า 11-20 หลา พลาด 11.9% ส่วนสเตราด์ 6% กับ 17% ตามลำดับ

 

นิก ซิเรียอานี่ เฮดโค้ช ฟิลาเดลเฟีย อีเกิ้ลส์ เคยเป็นเพื่อนร่วมงานไรช์มาหลายปี บอกว่า “เขาให้คุณค่าควอเตอร์แบ็กเหมือนกับพวกเราแหละ ต้องปาแม่น ตัดสินใจว่องไวและดี สามารถต่อยอดการเล่น และต้องพอมีพลังแขนเอาไว้สู้แรงลมบ้าง”

           

ไรช์ให้ความสำคัญกับร่างกายที่ทรหดอดทน ไม่เจ็บง่าย มากกว่าความสูงของยัง

 

แล้วเขามองเรื่องความสูงว่าเป็นปัจจัยอย่างไรบ้าง?

 

ไรช์กลับตอบคำถามแบบกวนโอ๊ย “มันก็เหมือนการยอมบอกสูตรไก่ทอดเคนทักกีนั่นแหละ”

           

นี่คือควอเตอร์แบ็กใน NFL ซึ่งไรช์เคยสอน จะเห็นว่าไม่มีใครเตี้ยกว่า 6 ฟุต 2

 

  • นิก โฟลส์ 6-6
  • จอห์น สเกลตั้น 6-6
  • เพย์ตั้น แมนนิ่ง 6-5
  • เคอร์รี่ คอลลิ่นส์ 6-5
  • แดน ออร์ลอฟสกี้ 6-5
  • ฟิลลิป ริเวอร์ส  6-5
  • คาร์สัน เวนท์ซ  6-5
  • เคอร์ทิส เพนเตอร์  6-4
  • แอนดรูว์ ลัก 6-4
  • แจโคบี้ บริสเซ็ตต์  6-4
  • แมตต์ ไรอัน 6-4
  • ไรอัน ลินด์ลี่ย์ 6-2
  • แซม เออห์ลินเกอร์ 6-2

 

เมื่อไรช์โดนถามความเห็นเกี่ยวกับวี่แววความทรหดของยัง เขากลับเลี่ยงไปยกตัวอย่าง มาร์วิน แฮร์ริสัน (6 ฟุต, 185 ปอนด์) ปีกนอกระดับตำนาน กับ แบร์รี่ แซนเดอร์ส (5 ฟุต 8, 203 ปอนด์) อดีตสุดยอดรันนิ่งแบ็ก ว่าเป็นผู้เล่นตัวเล็กที่รอดบาดเจ็บหนักๆ ก็เพราะเก่งเรื่องหลบไม่ให้โดนซัดใส่หนักหน่วง

           

ไรช์เคยชื่นชอบ รัสเซลล์ วิลสัน (5 ฟุต 11) สมัยยังไม่เป็นเสี่ยอย่างทุกวันนี้ โดยเมื่อปี 2011 ซีแอตเทิ่ล ซีฮอว์คส ดราฟต์ขึ้นมาในรอบสาม

 

ฟิทเทอเรอร์คือหนึ่งในทีมบริหารซีฮอว์คส ชุดที่ตัดสินใจดราฟต์วิลสัน จึงเท่ากับเขาไม่มีปัญหาอะไรกับควอเตอร์แบ็กตัวเล็ก

           

ออร์ลอฟสกี้ ซึ่งตอนนี้ก็มาวิเคราะห์เช่นกัน และเคยเล่นให้ไรช์ที่อินเดียนาโพลิส ปี 2011 มีมุมมองคล้ายอีกหลายคน เชื่อว่าสเตราด์เหมาะกับแคโรไลน่ามากกว่า

 

“เวลาคุณเทรดขึ้นไปอันดับหนึ่ง คุณก็ต้องการตัวที่เปลี่ยนเกมได้ และบางทีก็ควรหลีกเลี่ยงความเสี่ยง การเลือกยังเสี่ยงกว่า ซี.เจ. ก็เพราะรูปร่างนี่แหละ”

 

แต่ไม่ทันไร ออร์ลอฟสกี้ดันบอกว่าไรช์เองอยู่ในวงการมานานพอจะรู้ว่าทีม NFL ยุคใหม่สามารถประสบความสำเร็จกับควอเตอร์แบ็กตัวเล็ก คล่องแคล่ว ได้เช่นกัน ดังนั้นความสูงก็ไม่น่าเป็นอุปสรรค

           

ฟังและอ่านความเห็นผู้เชี่ยวชาญหลายคนแล้ว ผมหยิบความเห็นผู้ที่น่าจะเชี่ยวชาญสุดมาทิ้งท้าย นั่นคืออัตราต่อรองจาก ลาส เวกัส ว่าใครจะถูกเลือกคนแรก

 

เวกัสฟันธงว่า ยังคือคนแรกแน่นอน เพราะราคาไปไกล -1,200 (แทง 1,200 ได้คืน 100)

 

ส่วนสเตราด์อันดับสอง +800 (แทง 100 ได้คืน 800)

 

เท่านั้นไม่พอ ผมเหลือบมองอัตราต่อรองเต็งดราฟต์อันดับสอง ซึ่งตอนนี้สิทธิ์อยู่กับฮิวสตั้น เท็กแซนส์

 

พบว่าน่าสนใจมาก เพราะ วิลล์ แอนเดอร์สัน ตัวโจมตีจากอลาบาม่า ขึ้นมาอยู่เหนือกว่าใคร +200

 

ส่วนสเตราด์กลับมีราคา +250 เท่ากับ ลูวิส ควอเตอร์แบ็กเคนทักกี

           

ตอนนี้เริ่มลือกันว่าเท็กแซนส์อาจไม่เลือกควอเตอร์แบ็กอันดับสองก็เป็นได้ หรือยอมเทรดลงล่าง แล้วทีมปริศนาที่จะเทรดอัปขึ้นมาคือใคร?

 

น่าสนใจไม่น้อยว่าใครจะถูกเลือกเป็นคนแรกในวันศุกร์ที่ 28 เมษายนนี้

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising