ยุนซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้แถลงขอโทษกรณีประกาศกฎอัยการศึกเมื่อช่วงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ พร้อมย้ำว่า เขาจะไม่ประกาศกฎอัยการศึกอีกแล้ว
ยุนพูดอะไรบ้าง
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงคืนวันที่ 3 ธันวาคม ยุนประกาศกฎอัยการศึกโดยอ้างว่า ประเทศเผชิญภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ แต่ภายหลังชัดเจนว่าคำสั่งของเขาไม่ได้เกิดจากภัยคุกคามของต่างชาติอย่างที่กล่าวอ้าง ทำให้บรรดาสมาชิกรัฐสภา 190 คนจาก 300 คนลงมติโหวตคว่ำคำสั่งของประธานาธิบดี ส่งผลให้ยุนตกที่นั่งลำบากและอาจเผชิญกับการถูกถอดถอนได้
“ผมรู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง และขอแสดงความขอโทษอย่างจริงใจต่อประชาชนเกาหลีใต้ที่ตกใจกับเหตุการณ์นี้” ยุนกล่าวในสุนทรพจน์สั้นๆ ทางโทรทัศน์
“ผมจะไม่หลีกเลี่ยงความรับผิดชอบทั้งทางกฎหมายและการเมืองที่เกี่ยวข้องกับการประกาศกฎอัยการศึกครั้งนี้” ยุนกล่าว และให้คำมั่นว่า จะยกการตัดสินใจทั้งหมดให้กับพรรคพลังประชาชน (People Power Party: PPP) ของตน เพื่อรักษาเสถียรภาพให้กับประเทศ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกนั้นผู้คนต่างคิดว่ายุนจะใช้โอกาสปราศรัยนี้ในการแถลงลาออก แต่เขาก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น โดยบอกแต่เพียงว่า เขาจะมอบหมายหน้าที่ในการรักษาเสถียรภาพของสถานการณ์ทั้งหมดให้กับพรรครัฐบาลของเขาแทน อีกทั้งยังไม่ได้กล่าวถึงกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีด้วย
ภายหลังแถลงการณ์ของยุน ฮันดงฮุน หัวหน้าพรรค PPP กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ยุนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามปกติต่อไปได้อีกต่อไป และ “การลาออกก่อนกำหนดของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”
ฝ่ายค้านดันถอดถอนประธานาธิบดี
สำหรับความคืบหน้าในวันนี้ (7 ธันวาคม) พรรคฝ่ายค้านยังคงพยายามที่จะผลักดันให้มีการโหวตถอดถอนยุนออกจากตำแหน่ง โดยสำนักข่าว BBC รายงานว่า หากมีสมาชิกพรรคของยุนโหวตเห็นชอบให้ถอดถอนด้วยอย่างน้อย 8 คน ก็จะทำให้เขาหลุดจากเก้าอี้
อนึ่ง รัฐสภาสามารถถอดถอนประธานาธิบดีได้หากสมาชิกมากกว่า 2 ใน 3 ลงมติเห็นชอบ จากนั้นศาลรัฐธรรมนูญจะดำเนินการพิจารณาคดีต่อ ซึ่งศาลจะสามารถยืนยันการถอดถอนได้ด้วยการลงคะแนนเสียงของผู้พิพากษา 6 คนจากทั้งหมด 9 คน โดยปัจจุบันพรรคของยุนกุมที่นั่งไว้ได้ 108 ที่นั่งจากทั้งหมด 300 ที่นั่ง
อีแจมยอง ผู้นำฝ่ายค้านเกาหลีใต้เผยว่า ตนเองรู้สึกผิดหวังต่อแถลงการณ์ขอโทษของยุน และสิ่งที่เกิดขึ้นรังแต่จะทำให้ความโกรธของประชาชนพุ่งขึ้นไปอีก อีกทั้งยังย้ำด้วยว่า เขาจะทำเต็มที่เพื่อกดดันให้ยุนลงจากตำแหน่งให้ได้
ภาพ: Kim Hong Ji /Pool / Reuters
อ้างอิง: