ยักษ์ใหญ่มือถือสัญชาติจีน ‘เสียวหมี่’ เตรียมตบเท้าเข้าตลาดหุ้น นักลงทุนมองเป็นดีลใหญ่สุดรอบ 4 ปีหลังอาลีบาบา
เสียวหมี่ คอร์ป ยื่นเอกสารเพื่อเข้าระดมทุนในตลาดฮ่องกงแล้ว โดยคาดว่าการเปิดขายหุ้นต่อสาธารณชนครั้งแรก (IPO) จะสามารถระดมเม็ดเงินได้ถึง 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และทำให้มูลค่าของบริษัททะยานไปถึง 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะถือเป็นการทำสถิติใหม่ด้วยมูลค่า IPO สูงสุดในรอบ 4 ปี และจะใช้ระบบรูปแบบใหม่ของตลาดฮ่องกงด้วย ซึ่งถือเป็น IPO ครั้งใหญ่นับจากอาลีบาบาที่เข้าระดมทุนในตลาดนิวยอร์กเมื่อปี 2014 และระดมทุนได้ถึง 2.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
จากผลประกอบการของเสียวหมี่ในปี 2017 พบว่ามีรายได้แตะ 1.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 67.5% หลังปี 2016 ที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงเวลายากลำบากของเสียวหมี่ที่ธุรกิจโตเพียง 2.4% เท่านั้น ซึ่ง เหลยจุน ซีอีโอของเสียวหมี่ เปิดเผยว่ายอดขายสมาร์ทโฟนลดลงจนผลประกอบการตกต่ำ จนเมื่อปี 2017 ยอดขายกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง จากเดิมยอดการจัดส่ง 55.4 ล้านเครื่อง เพิ่มเป็น 91.4 ล้านเครื่อง และเสียวหมี่ยังพยายามขยายเข้าไปในตลาดที่มีศักยภาพอย่างอินเดียและอินโดนีเซีย โดยเฉพาะอินเดียที่เสียวหมี่ทำยอดขายถล่มทลายจนขึ้นอันดับ1 ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2017 และปีนี้ประกาศคงมาร์จินของผลิตภัณฑ์กลุ่มฮาร์ดแวร์ที่ 5% เท่านั้น
นอกจากนี้จะยังเดินหน้าพัฒนาสินค้าไลฟ์สไตล์และสินค้าสำหรับบ้านมากขึ้น ในปี 2017 ยอดขายเฉลี่ยของ Mi Home Store อยู่ที่ 2.4 แสนหยวน หรือ 3.77 หมื่นเหรียญสหรัฐต่อตารางเมตร และ iResearch ประเมินว่านี่เป็นยอดขายร้านค้าปลีกที่สูงที่สุดอันดับที่ 2 ของร้านค้าปลีกทั่วโลก จากข้อมูล ณ สิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เสียวหมี่มีร้านค้าปลีก 331 แห่งในประเทศจีน และช่องทางการจัดจำหน่ายกระจายทุกจุดทั่วโลก
จากนี้ความเคลื่อนไหวของเสียวหมี่ทุกก้าวจะอยู่ในสายตาของแวดวงธุรกิจ ไม่ใช่เพียงแต่แวดวงไอทีและฮาร์ดแวร์เท่านั้น แต่เป็นพลังทุนจากจีนที่จะเข้ามามีบทบาทในเวทีโลกมากขึ้น
อ้างอิง:
