ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม F นัดที่ 2 เป็นเกมระกว่างทีมชาติเบลเยียมที่เอาชนะแคนาดา มาในนัดแรก ใส่เสื้สีอแดง พบกับทีมชาติโมร็อกโก ที่นัดแรกโดนเสมอกับโครเอเชีย มาในชุดสีขาว
เกมนี้เบลเยียมมาในระบบ 3-4-2-1 โดยมี ติโบต์ กูร์ตัวส์ เป็นผู้รักษาประตู กองหลัง 3 คน มี ทิโมธี คาสตานเย, โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์, แยน แฟร์ตองเกน กองกลาง 4 คน ใช้ โธมัส มูนิเยร์, อมาโด โอนานา, อักเซล วิตเซล และ ธอร์แกน อาซาร์ ตัวรุก 2 คนมี เควิน เดอ บรอยน์ กับ เอเดน อาซาร์ และหน้าเป้าใช้ มิชี บัตชูอายี
ขณะที่โมร็อกโกมาในระบบ 4-3-3 โดยมีทางด้าน มูเนียร์ โมฮาเมดี เป็นผู้รักษาประตู กองหลัง 4 คน ใช้ อัชราฟ ฮาคิมิ, นาเยฟ อาเกิร์ด, โรแม็ง ซาอิสส์, นูสแซร์ มาซราอุย กองกลาง 3 คน มี อัซเซดีน ฮูนาไฮ, ซอฟยาน อัมราบัต, เซลิม อมัลลาห์ หน้า 3 ประสานมี ฮาคิม ซิเยค, โซฟิยาน บูฟาล และ ยูสเซฟ เอ็นเนเซ
นาทีที่ 5 เบลเยียมได้ลุ้นจบสกอร์ครั้งแรกของเกม เมื่อ มิชี บัตชูอายี ได้หลุดไปยิงในกรอบเขตโทษ แต่ มูเนียร์ โมฮาเมดี ออกมาปิดมุมไว้ได้ ทำให้บอลแฉลบเขาออกหลังไป
นาทีที่ 17 เบลเยียมได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะเตะมุมของ ธอร์แกน อาซาร์ เปิดบอลเข้ามาให้ อมาโด โอนานา ได้โหม่งตัดหน้า มูเนียร์ โมฮาเมดี แต่โดนบอลไม่ดี บอลข้ามคานออกหลังไปแบบไม่ได้ลุ้น
นาทีที่ 19 จากการรุมแย่งบอลหนากรอบเขตโทษของโมร็อกโก ทำให้ โธมัส มูนิเยร์ ได้ลองยิงแถวเส้นเขตโทษฝั่งซ้าย แต่บอลไปตรงตัว มูเนียร์ โมฮาเมดี
นาทีที่ 21 ฮาคีม ซิเยค ได้ลองยิงนอกกรอบเขตโทษเพื่อลุ้นประตูให้ โมร็อกโก แต่บอลก็ข้ามคานออกหลังไป
นาทีที่ 28 โมร็อกโก ได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะขึ้นเกมมา ก่อนที่ อัชราฟ ฮาคิมี จะโหม่งย้อนมาให้ เซลิม อามาลลาห์ ได้ยิง แต่ไปช้อนใต้ลูกเหินข้ามคานไปไกล
นาทีที่ 33 เบลเยียม ได้ลุ้นอีกครั้ง หลัง โธมัส เมอนิเยร์ ได้โอกสยิงบริเวณกรอบเขตโทษฝรั่งขวา แต่บอลยังไปตรงตัว มูเนียร์ โมฮามาดี เราไว้ได้
นาทีที่ 35 อัชราฟ ฮาคิมิ หลุดขึ้นมาทางด้านซ้ายของกรอบเขตโทษ ก่อนได้โอกาสยิง แต่บอลหลุดกรอบออกหลังไป
นาทีที่ 39 เควิน เดอ บรอยน์ ได้โอกาสอีกครั้งจากจังหวะฟรีคิกมุมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย แต่บอลก็หลุดกรอบออกไปอีก
นาที 45+2 โมร็อกโกส่งบอลเข้าก้นตาข่ายได้สำเร็จ จากฟรีคิกของ ฮาคิม ซิเยค กึ่งยิงกึ่งผ่านเข้าไปในเขตโทษ ติโบต์ กูร์ตัวส์ โดน โรแม็ง ซาอิสส์ บังทางบอล ทำให้บอลโดนตัวเขาเข้าไป แต่เมื่อเช็ก VAR แล้ว ปรากฏว่า ซาอิสส์ที่มีส่วนในการขัดขวางสายตาของกูร์ตัวส์ ยืนล้ำหน้าไปตั้งแต่จังหวะแรก ทำให้ไม่เป็นประตู และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 0-0
ครึ่งหลัง นาทีที่ 50 เป็นทางโมร็อกโกได้ลุ้นจากการยิงนอกกรอบของ ฮาคิม ซิเยค แต่บอลยังไปตรงตัว ติโบต์ กูร์ตัวส์ รับเอาไว้ได้ไม่ยาก
นาทีที่ 52 เป็นเบลเยียมได้ลุ้นบ้าง จากการสับไกของ เอเดน อาซาร์ บอลไม่น่าจะตรงกรอบ แต่ มูเนียร์ โมฮาเมดี ก็ปัดบอลทิ้งไปก่อน
จังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุมในนาทีต่อมา อมาโด โอนานา ได้โหม่งลูกเตะมุมอีกครั้ง แต่ก็เป็นอีกครั้งที่เขาโดนบอลได้ลูกและข้ามคานไป
นาทีที่ 57 โซฟิยาน บูฟาล ได้หลุดขึ้นมาในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายของเบลเยียม ก่อนที่จะเลือกปั่นโค้งๆ ด้วยขวา บอลเลี้ยวช้าไปทำให้ออกหลังไปนิดเดียวเท่านั้น
นาทีที่ 65 เบลเยียมได้โอกาสจากการยิงนอกกรอบของ ดรีส์ เมอร์เทนส์ ที่ลงมาเล่นเป็นตัวสำรอง แต่บอลไปติดเซฟของ มูเนียร์ โมฮาเมดี ปัดออกไปได้
นาทีที่ 67 มิชี บัตซูอายี รับบอลในกรอบเขตโทษ ก่อนหาจังหวะยิงจนได้ แต่บอลไปติดบล็อก ลอยเข้ามือของ มูเนียร์ โมฮาเมดี รับไว้ได้อีกครั้ง
นาทีที่ 72 กลายเป็นโมร็อกโกที่ขึ้นนำก่อน จากจังหวะฟรีคิกแถวๆ มุมธงฝั่งซ้าย ก่อนที่ อับเดลฮามิด ซาบิรี จะยิงเข้าไปโดยตรงแบบที่ไม่มีใครคาดคิด ให้ ‘สิงโตแอตลาส’ นำก่อน 1-0
นาที 81 เบลเยียมได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะเดะมุมเปิดเข้ามา แยน แฟร์ตองเกน ได้โอกาสโหม่ง แต่บอลก็หลุดกรอบออกหลังไป
นาทีที่ 90+1 โมร็อกโกได้ลุ้นประตูฝัง หลัง อับเดอร์ราซัก ฮามดาลลาห์ ได้หลุดไปยิงหน้าปากประตู แต่ ติโบต์ กูร์ตัวส์ ยังออกมาปิดมุมได้มิด ทำให้ฮามดาลลาห์ยิงไปติดเซฟออกหลังไป
นาทีที่ 90+2 โมร็อกโกมาได้ประตูย้ำชัย เมื่อ ฮาคิม ซิเยค หักบอลเข้ากลางให้ ซากาเรีย อาบูคลัล ได้ยิงจังหวะเดียว บอลเสียบใต้คานเข้าไป ให้โมร็อกโกหนีห่าง 2-0
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม โมร็อกโกเอาชนะเบลเยียม 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 4 คะแนน แซงขึ้นไปนำจ่าฝูงกลุ่ม F ส่วนเบลเยียม มี 3 คะแนนเท่าเดิม หล่นมารั้งที่ 2 ของกลุ่ม
