×

ตลาดหุ้นทั่วโลกเปิดสัปดาห์ร่วงเกือบยกแผง! เวียดนามดิ่ง 4% ส่วนหุ้นไทยปิดลดลง 18 จุด วอลุ่มเบาบาง

19.07.2021
  • LOADING...
World Stock markets

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นทั่วโลกหลังจากเปิดสัปดาห์นี้ (19 กรกฎาคม) ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ จากแรงกดดันของการแพร่ระบาดของโควิดที่กลับมารุนแรงขึ้นอีกครั้ง 

 

กรณีของหุ้นเวียดนามที่ก่อนหน้านี้ปรับตัวขึ้นได้โดดเด่น แต่ล่าสุดดิ่งลงกว่า 4% ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปที่เพิ่งเปิดตลาดในช่วงบ่าย (ตามเวลาประเทศไทย) ต่างปรับตัวลดลงมากกว่า 1% 

 

ส่วนตลาดหุ้นไทยวันนี้(19 กรกฎาคม) ปิดที่ 1,556.01 จุด ลดลง 18.36 จุด หรือ -1.17% มูลค่าการซื้อขายเบาบางเพียง 66,700 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,900 ล้านบาท เช่นเดียวกับนักลงทุนสถาบันที่ขายสุทธิ 1,156 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,751 ล้านบาท และพอร์ตลงทุนบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 305 ล้านบาท 

 

ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า วันนี้ถือว่าตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงน้อยกว่าหลายประเทศในเอเชีย อย่างเวียดนามที่เผชิญกับการล็อกดาวน์เข้นข้นขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยผ่านจุดของการตกใจในช่วงแรกไปแล้ว 

 

ส่วนตลาดยุโรปที่เริ่มเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง หลังจากชะลอไปตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ความกังวลที่เกิดขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นผ่านบอนด์ยีลด์ 10 ปีของสหรัฐฯ ซึ่งใกล้จะลดลงมาอยู่ในระดับ 1.26% ทำให้เงินทุนอาจจะไหลจากหุ้นไปเข้าตราสารหนี้ในระยะสั้น สะท้อนความไม่มั่นใจของนักลงทุนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และทำให้หุ้นกลุ่มเติบโต เช่น กลุ่มเทคโนโลยีกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง 

 

“วันนี้วอลุ่มการซื้อขายของหุ้นไทยเบาบางลง ด้วยแรงซื้อหายไปจากตลาด และนักลงทุนอยู่ในโหมด Wait and See เพราะไม่รู้ว่าสถานการณ์จะจบตรงไหน ตราบใดที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังสูงขึ้นต่อเนื่อง เราน่าจะเห็นการซื้อขายเบาบางต่อไปเช่นนี้” 

 

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการปรับฐานของหุ้นไทยในรอบนี้ไม่น่าจะหลุดลงไปต่ำกว่าจุดต่ำสุดเดิมของรอบที่แล้วบริเวณ 1,535 จุด เพราะที่ผ่านมาราคาหุ้นสะท้อนเรื่องของมาตรการควบคุมไปมากแล้ว และสิ่งที่ตลาดจับตาดูหลังจากนี้จะเป็นเรื่องของผลประกอบการไตรมาส 2 ที่จะเริ่มเห็นมากขึ้นในเดือนหน้า 

 

ขณะที่ความกังวลในเรื่องของการส่งสัญญาณ QE Tapering น่าจะเลื่อนออกไป หลังจากสถานการณ์โควิดทั่วโลกกลับมากดดัน ทำให้ Fed ยังไม่น่าจะรีบส่งสัญญาณใดๆ ที่เป็นลบกับตลาด และมีโอกาสที่การปรับฐานของตลาดซึ่งเดิมทีมองว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 3 อาจจะยืดออกไปอีก 

 

“สิ่งที่ต้องติดตามหลังจากนี้คือมุมมองของผู้บริหารบริษัทต่างๆ ต่อภาพธุรกิจในปีนี้และปีหน้า ซึ่งจะส่งผลต่อการปรับประมาณการของนักวิเคราะห์ ส่วนกำไรไตรมาส 2 ที่จะประกาศออกมาไม่น่าจะกระทบกับตลาดมากนัก เพราะราคาหุ้นได้สะท้อนไปมากแล้ว”

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising