×

ไทยร่วมโหวต ‘สนับสนุน’ ให้การรับรองกรุงเยรูซาเลมของสหรัฐฯ เป็นโมฆะ ในที่ประชุม UNGA

22.12.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

2 Mins. Read
  • ไทยและบรรดาประเทศสมาชิกกว่า 128 ประเทศ โหวตสนับสนุน ‘ให้การรับรองกรุงเยรูซาเลมของสหรัฐฯ เป็นโมฆะ และไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย’
  • ในขณะที่ฟิลิปปินส์ คือประเทศสมาชิกอาเซียนเพียงชาติเดียวที่งดออกเสียง และเมียนมาคือ 1 ใน 21 ประเทศที่ไม่ได้เข้าร่วมการลงคะแนนในครั้งนี้

สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) จัดประชุมฉุกเฉิน เพื่อพิจารณากรณีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศรับรองให้กรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลอย่างเป็นทางการ เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ไม่เคยมีประเทศใดประกาศรับรองให้ ‘พื้นที่ทั้งหมด’ ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวอยู่ภายใต้อำนาจของอิสราเอลหรือปาเลสไตน์อย่างแน่ชัดมาก่อน การรับรองดังกล่าวส่งผลให้ความขัดแย้งครั้งใหญ่ปะทุขึ้นอีกครั้ง

 

 

หลังจากที่สหรัฐฯ ยกวีโต้ คัดค้านมติในที่ประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ที่จะให้การประกาศรับรองดังกล่าวของสหรัฐฯ เป็นโมฆะ ส่งผลให้ที่ประชุมไม่สามารถผ่านร่างมติดังกล่าวได้ แม้ชาติสมาชิกอีก 14 ชาติจะเห็นชอบกับร่างมตินั้นก็ตาม

 

 

ที่ประชุมสมัชชาใหญ่ คัดค้านการตัดสินใจของสหรัฐฯ

บรรดาชาติอาหรับและมุสลิมในตะวันออกกลางต่างเดินหน้ายื่นเรื่องต่อสหประชาชาติให้เร่งจัดการประชุมของสมัชชาใหญ่ เพื่อพิจารณาวาระเร่งด่วนนี้โดยเร็ว

 

ผลปรากฏว่าประเทศไทยและบรรดาประเทศสมาชิกกว่า 128 ประเทศ (ซึ่งรวมถึงสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงอีก 4 ประเทศ) จากทั้งหมด 193 ประเทศ โหวต ‘สนับสนุน’ ร่างมติดังกล่าวที่ระบุให้การประกาศรับรองกรุงเยรูซาเลมของสหรัฐฯ รวมถึงการตัดสินใจใดๆ หรือการกระทำใดๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงสถานะ ลักษณะ หรือองค์ประกอบของประชากรแห่ง ‘นครศักดิ์สิทธิ์เยรูซาเลม’ ถือเป็นโมฆะ ไม่มีผลทางกฎหมายและจะต้องถูกยกเลิกไป (Null and Void)

 

 

9 ชาติสมาชิกได้แก่ สหรัฐฯ, อิสราเอล, กัวเตมาลา, ฮอนดูรัส, หมู่เกาะมาร์แชลล์, ไมโครนีเซีย, นาอูรู, ปาเลา และโตโก โหวตคัดค้าน ‘ไม่เห็นด้วย’ กับร่างมติดังกล่าว

 

นอกจากนี้ยังมีอีก 35 ประเทศที่งดออกเสียง และ 21 ประเทศที่ไม่ได้มาเข้าร่วมการลงคะแนนในครั้งนี้ โดยฟิลิปปินส์คือประเทศสมาชิกอาเซียนเพียงชาติเดียวที่งดออกเสียง ในขณะที่เมียนมาคือ 1 ใน 21 ประเทศที่ไม่ได้เข้าร่วมการลงคะแนน

 

ผลมติดังกล่าวถือเป็นเสียงสะท้อนจากประชาคมโลกที่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ แม้ว่าทรัมป์จะขู่ตัดงบเงินสนับสนุนและเงินช่วยเหลือแก่บรรดาประเทศที่โหวตสนับสนุนมติดังกล่าวก็ตาม

 

Photo: AFP

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising