×

อุตสาหกรรมพลาสติกโลกกำลังเดินหน้าไปทางไหน ในวันที่พลาสติกกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาชาวโลก

18.12.2019
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 MINS. READ
  • นอกจากฝั่งผู้บริโภคที่จะต้องปรับตัวให้ลดการใช้พลาสติกให้เหลือน้อยที่สุดเพื่อเยียวยาโลกใบนี้ร่วมกันแล้ว ถ้ามองไปอีกฟากผู้ผลิตพลาสติกเองก็จำเป็นต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อรองรับความกังวลที่มากขึ้นของคนทั้งโลกเช่นกัน แต่คำถามคือทิศทางของอุตสาหกรรมพลาสติกจะมุ่งไปทางไหน
  • คำตอบที่ชัดเจนอยู่ภายในงาน K 2019 งานแสดงสินค้าและนวัตกรรมพลาสติกและยางที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่จัดขึ้นเป็นประจำทุก 3 ปี ซึ่งครั้งนี้ THE STANDARD มีโอกาสเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน ภายใต้การสนับสนุนจากธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี 
  • ทิศทางที่เห็นได้อย่างชัดเจนจากผู้นำอุตสาหกรรมพลาสติกคือการเดินหน้าไปสู่ความยั่งยืน และตอบโจทย์เศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy ที่เป็นธีมใหญ่ในการจัดงานของปีนี้ 

ในรอบปีที่ผ่านมา โลกถูกขับเคลื่อนไปด้วยประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง พลาสติกที่ครั้งหนึ่งถูกคิดค้นมาช่วยรักษ์โลกจากการตัดต้นไม้เพื่อมาทำกระดาษ ในวันนี้กลับกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาชาวโลก หลายประเทศสั่งแบนพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ขณะที่ประเทศไทยกำลังจะเดินหน้าไปถึงจุดนั้นในปี 2020 ที่กำลังจะมาถึง

 

แม้ทิศทางของทั้งโลกจะเซย์โนกับการใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง และพยายามมองหาวัสดุอื่นๆ มาทดแทน แต่เมื่อวัดจากปริมาณขยะพลาสติกที่เกิดขึ้นหลักร้อยล้านตันในแต่ละปี ระยะเวลาที่พลาสติกจะหายไปจากโลกยังคงเป็นอนาคตที่รออยู่ไกลลิบ และนอกจากพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง รอบตัวเรายังคงรายล้อมไปด้วยพลาสติกจำนวนมหาศาลที่เข้ามามีส่วนในชีวิตเราตั้งแต่ตื่นนอนไปจนถึงเข้านอน

 

 

นอกจากฝั่งผู้บริโภคที่จะต้องปรับตัวให้ลดการใช้พลาสติกให้เหลือน้อยที่สุดเพื่อเยียวยาโลกใบนี้ร่วมกันแล้ว ถ้ามองไปอีกฟากผู้ผลิตพลาสติกเองก็จำเป็นต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อรองรับความกังวลที่มาขึ้นของคนทั้งโลกเช่นกัน แต่คำถามคือทิศทางของอุตสาหกรรมพลาสติกจะมุ่งไปทางไหน คงไม่มีคำตอบไหนจะชัดเท่ากับสิ่งที่เกิดขึ้นภายในงาน K 2019 งานแสดงสินค้าและนวัตกรรมพลาสติกและยางที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่จัดขึ้นเป็นประจำทุก 3 ปี ซึ่งครั้งนี้ THE STANDARD มีโอกาสเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน ภายใต้การสนับสนุนจากธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี

 

ผู้ผลิตพลาสติกทั่วโลกพร้อมใจโชว์นวัตกรรมยั่งยืน ตอบโจทย์เศรษฐกิจหมุนเวียน

งาน K 2019 ที่จัดในเมือง Dusseldorf ประเทศเยอรมนี ถือเป็นจุดชี้วัดทิศทางของอุตสาหกรรมพลาสติกโลกในช่วงที่กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทาย เพราะนอกจากจะมีผู้คนกว่า 2 แสนคนจาก 168 ประเทศทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามาร่วมชมงานตลอด 8 วันแล้ว งานนี้ยังถือเป็นงานที่รวบรวมบริษัทผู้ผลิตพลาสติกและยางเอาไว้มากที่สุดในโลกกว่า 3,300 ราย จาก 63 ประเทศ 

 

 

แม้จะเดินได้ไม่ครอบคลุมพื้นที่จัดงานที่มีมากถึง 19 ฮอลล์ แต่สำหรับฮอลล์ 6 ที่รวบรวมบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลาสติกระดับโลกเอาไว้ในฮอลล์เดียวกัน ทิศทางที่เห็นได้อย่างชัดเจนจากผู้นำอุตสาหกรรมนี้คือการเดินหน้าไปสู่ความยั่งยืน และตอบโจทย์เศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy ที่เป็นธีมใหญ่ในการจัดงานของปีนี้ 

 

 

ตลอดทั้งงานเราเห็นความพยายามของบรรดาผู้ผลิตพลาสติกทั้งรายย่อยและรายใหญ่ ในการคิดค้นนวัตกรรมที่จะผลิตพลาสติกด้วยการใช้เม็ดพลาสติกให้น้อยที่สุด แต่คงทนมากขึ้น หรือความพยายามในการนำพลาสติกใช้แล้วหมุนเวียนกลับมาผลิตซ้ำในระบบ โดยที่คุณสมบัติของพลาสติกไม่ได้ด้อยลงหรือทำให้มีคุณภาพมากขึ้น 

 

ขณะที่วัสดุทดแทนพลาสติกที่เคยมาแรงในงาน K เมื่อ 3 ปีก่อนอย่างไบโอพลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติกลับมีให้เห็นประปราย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะข้อถกเถียงในการนำมาใช้อย่างแพร่หลาย เพราะแม้จะมีจุดเด่นในการสามารถย่อยสลายได้ แต่ก็มีเงื่อนไขและใช้เวลาค่อนข้างนาน ขณะเดียวกันไบโอพลาสติกยังอาจสร้างปัญหาต่อกระบวนการรีไซเคิล เพราะไม่สามารถนำมารีไซเคิลได้เหมือนพลาสติก แต่กลับมีรูปลักษณ์เหมือนพลาสติก การแยกขยะจึงอาจเป็นเรื่องยากสำหรับผู้บริโภค 

 

 

หนึ่งในโฟกัสสำคัญที่บริษัทผู้ผลิตพลาสติกชั้นนำระดับโลกต่างพยายามแข่งขันกันคือ การคิดค้นบรรจุภัณฑ์แบบ mono-material ที่ใช้วัสดุแบบเดียวกัน 100% เพื่อให้สามารถนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้โดยง่าย โดยเฉพาะในบรรจุภัณฑ์อาหาร ที่แม้จะฟังดูไม่น่ายุ่งยาก แต่แท้จริงแล้วความท้าทายนี้ยังไม่มีบริษัทใดที่ทำสำเร็จในระดับที่นำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ 

 

หลายคนอาจไม่ทันสังเกตว่าบรรจุภัณฑ์ในชีวิตประจำวันของเราไล่ตั้งแต่ซองมันฝรั่ง ซองใส่กาแฟ ถุงน้ำยาปรับผ้านุ่ม ไปจนถึงถุงใส่ลูกอม และอีกหลากหลายบรรจุภัณฑ์ส่วนใหญ่ล้วนเป็นการผสมวัสดุหลายๆ ชนิดเข้าด้วยกันแล้วนำมาซ้อนเป็นเลเยอร์หลายๆ ชั้น เพื่อคงคุณสมบัติให้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นสามารถวางขายบนเชลฟ์ได้นานที่สุดโดยไม่รั่วซึมหรือเสื่อมคุณภาพ ยกตัวอย่างซองมันฝรั่งที่เป็นส่วนผสมระหว่างพลาสติกกับโลหะมันวาวด้านในที่เคลือบอยู่บางๆ เพื่อทำให้มันฝรั่งในซองสามารถคงความกรอบอยู่ในร้านสะดวกซื้อได้เป็นระยะเวลานาน 

 

 

แต่เมื่อมีหลายวัสดุในชิ้นเดียวกัน และบางจนแยกออกจากกันได้ยาก การนำบรรจุภัณฑ์เหล่านี้ไปรีไซเคิลจึงแทบเป็นไปไม่ได้ แนวคิด mono-material จึงเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของผู้ผลิตและผู้บริโภคในการทำให้สินค้าเหล่านั้นยังคงคุณภาพได้ดีในขณะที่นำไปสามารถเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ตามปกติ ซึ่งหากทำสำเร็จก็จะทำให้ขยะพลาสติกมหาศาลหายไป แต่ก็อยู่ในเงื่อนไขของการแยกขยะอย่างมีประสิทธิภาพด้วย

 

Ihr komplettes Leistungsspektrum und die ganze Vielfalt innovativer Anwendungen präsentiert die Kunststoff- und Kautschukbranche auf ihrer weltweit wichtigsten Messe, der K 2019 vom 16. bis 23. Oktober in Düsseldorf. 3.330 Aussteller von allen Kontinenten stellen ihre neuesten Entwicklungen vor. Die Netto-Ausstellungsfläche liegt bei 178.000 Quadratmetern, das Düsseldorfer Messegelände mit allen 19 Hallen ist komplett ausgebucht. Die Messe ist von Mittwoch, 16. Oktober, bis Mittwoch, 23. Oktober, täglich von 10.00 bis 18.30 Uhr geöffnet. | At K 2019, the most important trade fair worldwide from 16 to 23 October, the plastics and rubber industries present their entire performance spectrum and the whole diversity of innovative applications. 3.330 exhibitors from all continents introduce their latest development. The net exhibition area amounts to 178.000 square metres so all 19 halls of the Düsseldorf Exhibition Centre are fully booked. K 2019 Düsseldorf is open daily from 10.00 am to 6.30 pm from Wednesday, 16 October, to Wednesday, 23 October.

 

เมื่อมองภาพรวมของงาน K 2019 จะเห็นว่าทิศทางที่ผู้ผลิตพลาสติกจากทั่วโลกพยายามเดินไปให้ถึงคือการคิดค้นนวัตกรรมเพื่อทำให้พลาสติกกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนได้แบบไม่ทำร้ายโลก โดยจุดหมายปลายทางที่ทุกคนมองตรงกันคือการทำให้พลาสติกที่ถูกทิ้งลงกองขยะเหลือจำนวนน้อยที่สุด และมีการนำกลับมาใช้ใหม่ให้มากที่สุด เพื่อลดมลพิษที่เกิดจากขยะพลาสติกทั้งในแง่การกำจัดอย่างไม่ถูกวิธี และการปนเปื้อนในแหล่งน้ำ 

 

เอสซีจีกับนวัตกรรมพลาสติกเพื่อความยั่งยืน

ท่ามกลางบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่ขนนวัตกรรมมาออกบูธภายในงาน ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ถือเป็นตัวแทนผู้ผลิตพลาสติกจากประเทศไทยที่เตรียมความพร้อมกับโจทย์ความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน และนำนวัตกรรมที่คิดค้นได้มาอวดสายตาชาวโลก ภายใต้แนวคิด ‘Passion fo a Better World’ 

 

 

ในภาพรวมของธุรกิจเอสซีจี ได้ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนากว่า 4,600 ล้านบาท ถ้านับเฉพาะธุรกิจเคมิคอลส์ มีการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนากว่า 2,400 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 53% ของทั้งบริษัท และถือครองสิทธิบัตรรวมทั้งสิ้นกว่า 1,200 ฉบับ สะท้อนความมุ่งมั่นในการเดินหน้าไปสู่ผู้ผลิตพลาสติกระดับโลกที่อาศัยแรงส่งจากนวัตกรรม 

 

ทิศทางที่น่าสนใจของธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี คือการตั้งเป้าลดสัดส่วนการผลิตเม็ดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งให้เหลือเพียง 20% ภายในปีหน้า และหันมาโฟกัสเพิ่มสัดส่วนเม็ดพลาสติกแบบคงทน (Durable Plastic) เพื่อเพิ่มยอดขายในกลุ่มสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม หรือ HVA (High Value Added) ให้มากขึ้น ตอบโจทย์ทิศทางโลกที่มุ่งหน้าไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างเต็มตัว

 

 

นวัตกรรมไฮไลต์ของเอสซีจี ในงาน K 2019 คงหนีไม่พ้น CIERRA ® – Barrier บรรจุภัณฑ์แบบ mono-material ที่ใช้สารเพิ่มประสิทธิภาพของพลาสติกทำให้ใช้ทดแทนการเคลือบชั้นฟิล์มด้วยโลหะได้ โดยยังคงคุณสมบัติในการป้องกันอากาศและความชื้นได้เป็นอย่างดี ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างคิดค้นและพัฒนาก่อนจะผลักดันสู่การใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ในอนาคต 

 

 

อีกหนึ่งนวัตกรรมที่ตอบโจทย์เศรษฐกิจหมุนเวียน คือเม็ดพลาสติกสำหรับการผลิตสินค้าประเภทถุง ขวดบรรจุภัณฑ์สินค้าอุปโภค และขวดฝาน้ำอัดลม โดยผสมผสานระหว่างพลาสติกใหม่ กับพลาสติกที่ผ่านการรีไซเคิลมาแล้ว หรือ Post-Cunsumer Recycled Resin (PCR) เพื่อลดปริมาณการผลิตเม็ดพลาสติกใหม่ และนำสิ่งที่ไร้ค่ากลับมาเป็นวัสดุที่มีคุณค่าอีกครั้ง 

 

ทั้งหมดนี้คือทิศทางของอุตสาหกรรมพลาสติกโลกและไทย ที่จะเปลี่ยนแปลงภาพพลาสติกที่เคยเป็นผู้ร้ายให้กลายเป็นมิตรกับมนุษย์โลกและสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น 

 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising