×

ฟิลิป คอตเลอร์ บิดาแห่งการตลาดยุคใหม่ชี้ ธุรกิจต้องมีศักยภาพที่จะสร้างสังคม ไม่ใช่แค่ ‘กำไร’

โดย THE STANDARD TEAM
07.10.2019
  • LOADING...
World Marketing Summit Asia 2019

บริษัท BRANDi ร่วมกับ Kotler Impact (KI) จัดงาน World Marketing Summit Asia 2019 ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมเปิดตัว ดัชนีชี้วัดโลกที่ดีกว่า (Better World Index: BWi) เพื่อเป็นกรอบการพัฒนาองค์กรธุรกิจไปสู่สิ่งที่ดีกว่า โดยคำนึงถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย ซึ่งจะนำไปสู่เป้าหมายการพัฒนาโลกที่ดีกว่าเดิม

 

ภายในงาน ฟิลิป คอตเลอร์ นักการตลาดผู้ทรงอิทธิพลระดับโลก ได้กล่าวถึงความท้าทายของธุรกิจในปัจจุบันที่จะมุ่งสร้างแต่ ‘กำไร’ ตามแนวคิดระบบทุนนิยมแบบตลาดเสรีไม่ได้อีกต่อไปแล้ว แม้แต่กลยุทธ์การตลาดก็ต้องเปลี่ยนไปเช่นกัน เพราะปัจจุบันผู้บริโภคยุคใหม่ไม่ได้เลือกซื้อสินค้าและบริการจากราคาเพียงอย่างเดียว แต่คาดหวังให้แบรนด์ธุรกิจมีศักยภาพที่จะพัฒนาสังคมให้ดียิ่งขึ้นด้วย

 

World Marketing Summit Asia 2019

 

“คนรุ่นมิลเลนเนียลอยากให้บริษัทสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดี แต่แค่นั้นไม่พอ บริษัทต้องบอกด้วยว่าคุณให้ความสำคัญกับเรื่องอะไร เช่น ปัญหาสิ่งแวดล้อม บริษัทจะจัดการขยะอย่างไร หรือให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือคนยากจนมากแค่ไหน”

 

ฟิลิปย้ำว่า ‘กำไร’ ของบริษัทไม่ได้สร้างขึ้นจากผู้บริหารคนเดียว แต่เกิดจากความร่วมมือทั้งฝ่ายผู้ผลิต ลูกจ้าง ทีมงานในบริษัท และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ดังนั้นธุรกิจจะต้องเปลี่ยนแนวคิดใหม่ไปสู่สิ่งที่เรียกว่า ‘Business Roundtable’ ซึ่งตรงข้ามกับแนวคิดธุรกิจแบบเดิมที่มุ่งหาแต่ความสำเร็จ สร้างกำไรให้กับตัวเองและผู้ถือหุ้น โดยที่ไม่ได้สนใจว่าผู้ถือหุ้นจะนำกำไรไปทำอะไรก็ได้

 

“แนวคิดธุรกิจแบบเก่า คือ เราต้องจ่ายเงินลูกจ้างในราคาถูกที่สุด หาซัพพลายเออร์ที่ถูกสุด ทำยังไงก็ได้ให้ต้นทุนถูกที่สุด และมีกำไรสูงสุด”

 

“เราต้องท้าทายแนวคิดนี้ เพราะลูกจ้างที่ได้เงินต่ำสุด เขาไม่มีความสุขหรอก เขาไม่มีเงินไปซื้อผลิตภัณฑ์ของคุณด้วยซ้ำ เขาก็ไปซื้อสินค้าของแบรนด์อื่นอยู่ดี ดังนั้นโมเดลเก่ามันใช้ไม่ได้อีกแล้ว”

 

โจทย์ของธุรกิจในวันนี้ คือ หาทางกระจายกำไรที่ได้ไปพัฒนาสังคมให้ดียิ่งขึ้น

 

“บริษัทไม่เพียงแต่จะต้องมีศักยภาพในการสร้างกำไรเท่านั้น แต่ต้องมีศักยภาพที่จะสร้างสังคมที่ดีขึ้นด้วย ดังนั้นต่อไปมันจะเป็นโจทย์ที่ยากมาก บริษัทที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ก็อาจถูกตีตราว่าเป็นบริษัทที่ไม่ได้สนใจสังคมที่ดี”

 

เขาแสดงความคิดเห็นว่าดัชนีวัดโลกที่ดีกว่า หรือ BWi เป็นสิ่งที่ดี เพราะให้ความสำคัญทั้งด้านรายได้ (Profit) โลกที่เราอาศัยอยู่ (Planet) และผู้คน (People)

 

“ที่ผ่านมาเรามี GDP เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของประเทศ แต่จริงๆ แล้วเราไม่รู้หรอกว่าเศรษฐกิจมันเติบโตดีหรือไม่ดี หรือเติบโตเพราะอะไร สหรัฐอเมริกาอาจจะโตเพราะมีการผลิตอาวุธ คนสูบบุหรี่หรือใช้ยา ดังนั้นมันไม่ได้วัดการเติบโตทางสังคมเลย”

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising