×

World Cup Diary Day 22: Don’t Look Back in Anger อังกฤษนายทำเต็มที่แล้ว

12.07.2018
  • LOADING...

ธงชาติอังกฤษโบกสะบัดไปทั่วกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ใช่แล้ว นี่คือวันสำคัญของพวกเขา เพราะวันนี้คือการเดินทางเข้าสู่รอบรองชนะเลิศนัดสุดท้ายของฟุตบอลโลก

 

“จะเป็นครั้งแรกในรอบ 52 ปีของอังกฤษ และจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของโครเอเชีย หากทีมใดผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกนัดชิงชนะเลิศได้ในค่ำคืนนี้”

 

 

ผู้สื่อข่าวจากทั่วโลกเดินหน้าเข้าสู่สนาม Luzhniki Stadium เพื่อเก็บภาพบรรยากาศสำหรับเกมประวัติศาสตร์ของทั้งสองทีมที่กำลังจะเกิดขึ้น

 

แต่ท่ามกลางแฟนบอลหลากหลายชาติที่เดินทางมาวันนี้ เราก็เห็นชุดประจำชาติที่คุ้นเคยที่สุดพร้อมกับธงชาติไทย ก่อนจะได้พบกับ พิมพรัตน์ คันธฐากูร และ ธิดา คชสาร แฟนบอลแมนฯ ยู ที่เดินทางมาชมการแข่งขันในเกมนี้

 

โดยเธอได้ให้เหตุผลกับ THE STANDARD ว่า บนไว้ว่าหากได้ตั๋วเข้าชมรอบรองชนะเลิศ และหากเป็นทีมชาติอังกฤษ พวกเธอจะสวมชุดไทยมาเชียร์ที่ประเทศรัสเซีย

 

นอกจากนี้เธอยังได้เผยอีกว่า สำนักข่าวต่างประเทศส่วนใหญ่ได้เรียกพวกเธอในชุดไทยไปสัมภาษณ์ถึงเรื่องทีมหมูป่าและถ้ำหลวง ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้น ณ จังหวัดเชียงราย เป็นประเด็นที่สำนักข่าวทั่วโลกให้ความสำคัญและสนใจเป็นอย่างมาก

 

It’s Coming Home!

 

 

เสียงแฟนบอลกลุ่มใหญ่ดังขึ้น เสียงของพวกเขาลากยาวเข้าไปจนถึงภายในสนาม แฟนบอลอังกฤษก้าวเข้าสนามพร้อมกับความมั่นใจว่าอีกเพียง 2 สถานีเท่านั้นก่อนที่ฟุตบอลอันเป็นที่รักจะเดินทางกลับถึงบ้าน

 

เกมผ่านไปเพียง 5 นาที รถไฟก็เริ่มเดินเครื่องออกจากชานชาลาไปสู่สถานีสุดท้ายก่อนถึงบ้าน จากลูกฟรีคิกของ คีแรน ทริปเปียร์ ส่งผลให้อังกฤษขึ้นนำ 1-0 พร้อมกับสถิติ 9 จาก 12 ลูกที่ได้จากลูก set piece

 

แต่แล้วรถไฟก็เกิดขัดข้อง เมื่อ อีวาน เปริซิช ยิงประตูตีเสมอได้สำเร็จในนาทีที่ 68 ชะลอการออกเดินทางไปสู่สถานีสุดท้ายของรัสเซียที่สนามแห่งนี้ออกไป และแล้วสถานการณ์ก็เปลี่ยนไปเมื่ออังกฤษต้องเข้าสู่การต่อเวลาอีกครั้ง  

 

 

“ประสบการณ์น้อย นักเตะไม่พร้อม โค้ชไม่มีชื่อชั้น” คำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ เริ่มกลับมาอีกครั้ง และเสียงเหล่านั้นก็ดังกระหึ่มกลบเพลง It’s Coming Home เมื่อ มาริโอ มานด์ซูคิช ยิงประตูชัยให้กับทีมโครเอเชีย ส่งพวกเขาเข้ารอบชิงชนะเลิศในศึกฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ขณะที่อังกฤษตกรอบรองชนะเลิศ และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่พวกเขาไม่สามารถไปถึงฝั่งฝันได้

 

น้ำตาของนักเตะที่ล้มทั้งยืนลงบนพื้นหญ้าที่เล่นตลกกับชีวิตพวกเขาในวันนี้ แม้ว่าความคาดหวังจะไม่สูงมากนัก แต่การเห็นโอกาสเข้าไปลุ้นคว้าแชมป์โลกหลุดลอยไปจากมือแบบนี้ คงมีน้อยคนที่จะสามารถรับความรู้สึกนี้ได้

 

 

แต่แล้วเสียงเพลงในสนามก็ดังขึ้นเหมือนราวกับว่าเจ้าภาพรัสเซียรู้ทันทีว่าทั้งแฟนบอลและทีมชาติอังกฤษต้องการเพลงใดที่จะพาพวกเขาผ่านค่ำคืนและความรู้สึกอันโหดร้ายนี้ไปได้

 

อังกฤษ ทีมขวัญใจมหาชน หลายคนมีหลายความรู้สึกเมื่อได้ยินคนพูดถึงทีมชาติอังกฤษ บางคนหมั่นไส้กับการอวยแบบไม่ลืมหูลืมตาจากสื่ออังกฤษในฟุตบอลโลกครั้งก่อนๆ

 

 

แต่ครั้งนี้พวกเขามาด้วยความคาดหวังที่ต่ำกว่าปกติ โดยเลือกที่จะให้โอกาสนักเตะหน้าใหม่ ซึ่งเป็นการเลือกลงทุนกับเวลามากกว่าความชัวร์ที่เลือกเอานักเตะมากประสบการณ์หน้าเดิมๆ มาทำในสิ่งที่พวกเขาเคยผ่านมาก่อน

 

ซึ่งการทดลองครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ เนื่องจากเยาวชนกลุ่มนี้ที่มีอายุเฉลี่ยน้อยที่สุดที่ 26 ปีเท่ากับฝรั่งเศส สร้างความตื่นเต้นและความรู้สึกที่ดีให้กับแฟนบอลอังกฤษในแบบที่ไม่มีมานานแล้ว

 

และเชื่อว่าสิ่งที่พวกเขาเลือกทำ ได้ส่งผลให้ตัวละครหลักในเวทีนี้อย่างเยอรมนี สเปน อาร์เจนตินา บราซิล หรือแม้กระทั่งอิตาลีกับเนเธอร์แลนด์เอง ก็ต้องหันมามองด้วยความสนใจไม่น้อยว่า โมเดลที่อังกฤษใช้คว้าแชมป์โลกรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี และ 17 ปี แชมป์ยูโรรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี รวมถึงพาทีมมาถึงรอบรองชนะเลิศได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปีนี้ จะสามารถนำมาปรับใช้กับชาติของพวกเขาได้อย่างไรบ้าง

 

 

ฉะนั้นอังกฤษอาจจะไม่เสียใจเท่าไรกับความสำเร็จที่มาไกลกว่าครั้งก่อนๆ แม้ว่าจะไม่ถึงที่สุด แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ต้องมองกลับไปด้วยความโกรธว่า ไม่ได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในวันนี้ (At least not today)

 

Don’t Look Back in Anger England

 

 

 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising