×

จู่ๆ ก็อกหักช่วงกักตัว จะรับมือกับปัญหาหัวใจอย่างไรดี?

โดย Lilac Sky
08.05.2020
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • นักจิตวิทยาคลินิกและผู้เขียนหนังสือ Joy from Fear กล่าวว่า คนเราจะรู้สึกเศร้าจากการอกหักน้อยลง เมื่อพวกเขาทำชีวิตตัวเองให้ยุ่ง ซึ่งเป็นไปได้ยากในช่วงกักตัว
  • มีอุปสรรคมากมายในการฮีลตัวเองจากความเศร้า มนุษย์ผู้อกหักทั้งหลายอาจรู้สึกขาดแรงซัพพอร์ตหรือคนคอยปลอบ ถึงแม้ว่าจะได้เห็นหน้าเพื่อนหรือครอบครัวในเฟซไทม์ วิดีโอคอล หรือซูมก็ตาม แต่มันก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากการเจอหน้าจริงๆ
  • นอกจากงานอดิเรกที่ชอบแล้ว นักจิตวิทยาแนะนำวิธีดูแลตัวเองและรับมือกับความเศร้าจากการอกหักในช่วงโรคระบาด โดยการเขียนบันทึก แต่สิ่งสำคัญก็คือห้ามกลับไปอ่านสิ่งเขียนซ้ำสอง เพื่อให้ตัวเราได้ระบายความรู้สึกโดยปราศจากการวิจารณ์ตัวเอง หรือที่เรียกว่า Self-criticism

มีอะไรแย่กว่าการกักตัวหรือตกงานในช่วงโรคระบาดอีกหรือเปล่า? มีสิ ก็ ‘อกหัก’ ในช่วงโรคระบาดอย่างไรล่ะ

 

เดิมทีการอกหักก็เป็นสภาวะที่ข้ามผ่านไปยากอยู่แล้ว แต่การระบาดครั้งใหญ่ของโรคร้ายที่เพิ่มเข้ามา กลับท้าทายให้มันผ่านไปยากยิ่งขึ้นไปอีก ใครกำลังอกหักในช่วงนี้เรียกได้ว่าซวยซ้ำซวยซ้อน จนนึกว่ากำลังอยู่ในวัยเบญจเพสอีกรอบ (หรือถ้ายังไม่เคย มันก็มาเร็วกว่ากำหนด) เพราะไม่เพียงแต่จะต้องเอาชีวิตรอดไม่ให้ติดเชื้อไวรัส แต่ยังต้องประคองสภาพจิตใจไม่ให้แหลกสลายด้วย

 

ลองนึกสิว่าโดนบอกเลิกหรือโดนหักอกในช่วงปกติเราจะทำอย่างไร ส่วนใหญ่ก็คงโทรหาเพื่อน ชวนกันไปเมาหัวราน้ำให้ลืมความช้ำกันไปข้าง หรือช้อปปิ้งที่ห้างให้อารมณ์ดีขึ้น แต่ในตอนนี้นี่สิ แม้แต่จะออกไปหาอะไรกินที่เซเว่น-อีเลฟเว่นหลัง 4 ทุ่มยังทำไม่ได้เลย

 

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทุกคนก็คงมีวิธีการกำจัดความเศร้าที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะโหมทำงานอย่างหนักเพื่อเปลี่ยนจุดโฟกัสของตัวเอง ติดต่อกับเพื่อนหรือทำตัวไม่ให้ว่าง ดีไม่ดีก็มูฟออนเข้าแอปพลิเคชันเดตต่อเลย แต่ทั้งหมดที่กล่าวมา อาจทำยากขึ้นมาหน่อยในช่วงนี้ โดย คาร์ลา แมรี แมนลี (Carla Marie Manly) นักจิตวิทยาคลินิกและผู้แต่งหนังสือ Joy from Fear กล่าวว่า คนเราจะรู้สึกเศร้าจากการอกหักน้อยลง เมื่อพวกเขาทำชีวิตตัวเองให้ยุ่ง ซึ่งเป็นไปได้ยากในช่วงกักตัว

 

“การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้พวกเขามีข้อจำกัดบางอย่างให้ไม่สามารถทำตัวยุ่ง หรือติดต่อผู้คนได้อย่างเก่า แถมยังต้องถูกกักขังอีกด้วย” แมนลีกล่าว

 

และไม่เพียงแต่จะมีอุปสรรคมากมายในการฮีลตัวเองจากความเศร้า มนุษย์ผู้อกหักทั้งหลายอาจจะรู้สึกขาดแรงซัพพอร์ตหรือคนคอยปลอบ ถึงแม้ว่าจะได้เห็นหน้าเพื่อนหรือครอบครัวในเฟซไทม์ วิดีโอคอล หรือซูมก็ตาม แต่มันก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากการเจอหน้าจริงๆ เพราะอย่างน้อยๆ เจอหน้ากันก็คง ‘กอด’ ปลอบกันได้ และอย่างที่รู้ ทุกคนกำลังยุ่งและเครียดกับสิ่งที่เจออยู่เหมือนๆ กันในตอนนี้ นั่นก็คือผลกระทบจากโรคระบาดนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นความกังวลเรื่องสุขภาพ ปัญหาการเงิน และสุขภาพจิต การจะทักไปขอความช่วยเหลือก็ดูเหมือนจะเป็นการรบกวนทุกคนไปเสียหมด

 

“ขณะนี้เพื่อนๆ และครอบครัวของเราต่างก็โศกเศร้าและหวาดกลัวกันหมด ถึงแม้ปกติเราจะมีคนสัก 2-3 คนที่คอยดึงเราขึ้นมาจากความเศร้า แต่ตอนนี้พวกเขาก็กำลังเครียดเหมือนกัน” ไอมี ดารามัส (Aimee Daramus) นักจิตวิทยาคลินิกกล่าว เนื่องจากปกติเวลาคนเราอกหัก ก็มักต้องการติดต่อกับเพื่อนเพื่อรับกำลังใจและความสบายใจ

 

เพราะฉะนั้น เมื่อลองมานึกดูถึงข้อจำกัดที่เกิดขึ้น ก็ไม่ใช่เรื่องที่เราจะต้องรู้สึกผิดหากเราผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปไม่ได้เหมือนอย่างที่คิด หรือรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอเกินจะจัดการเรื่องนี้ไหว เพราะขณะนี้มัน ‘ยาก’ สำหรับทุกคนจริงๆ ไม่ว่าคุณจะแข็งแกร่งมากแค่ไหนก็ตาม

 

แมนลีจึงได้แนะนำวิธีดูแลตัวเอง และรับมือกับความเศร้าหลังจากการอกหักในช่วงโรคระบาด นอกเหนือไปจากการทำงานอดิเรกที่ชื่นชอบก็คือ ‘การเขียนบันทึก’ ซึ่งเป็นวิธีประมวลผลความรู้สึกของตัวเราได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด โดยแมนลีแนะนำว่า สิ่งสำคัญก็คือห้ามกลับไปอ่านสิ่งที่ตัวเองเขียนซ้ำสอง เพื่อให้ตัวเราได้ระบายความรู้สึกโดยปราศจากการวิจารณ์ตัวเอง หรือที่เรียกว่า Self-criticism

 

“ปล่อยให้ตัวเองได้ระบายออกมาอย่างอิสระ โดยปราศจากการตัดสินหรือการปิดกั้นตัวเอง เพื่อให้สมุดเล่มนั้นเป็นพื้นที่ปลอดภัยของเรา” แมนลีเสริม

 

แม้การจบความสัมพันธ์จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต และเป็นเรื่องที่รับมือได้ยากขึ้นไปอีกเมื่ออยู่ในช่วงโรคระบาดครั้งใหญ่ แต่เราสามารถใช้ความเปลี่ยนแปลงนี้ให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเองได้ อาจจะเป็นการค้นพบวิธีฮีลตัวเองแบบใหม่ที่ได้ผลดีกว่าเดิม หรือถ้าหากเกิดเหตุการณ์โดนหักอกขึ้นอีกครั้ง ต่อไปเราก็คงจะรู้วิธีรับมือได้ดีขึ้น 

 

อาจจะยากหน่อยในการรับมือกับปัญหาหัวใจในช่วงนี้ แต่อย่างน้อยๆ มีความเมตตาต่อตัวเอง และอย่าโทษตัวเองที่ไม่สามารถรับมือได้ไวอย่างที่คิดก็พอแล้ว ที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของเวลาค่อยๆ ช่วยบรรเทากันต่อไป

 

 

ภาพ: shutterstock

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories