ทำเนียบขาวยอมรับ สหรัฐฯ มีอุปกรณ์ตรวจหาไวรัสโคโรนาไม่เพียงพอ

รัฐบาลสหรัฐฯ ยอมรับว่ามีเครื่องมือตรวจหาไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ไม่เพียงพอ และไม่สามารถจัดหาได้ครบตามเป้าหมายภายในสัปดาห์นี้ ในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีผู้ป่วยแล้วกว่า 200 ราย ใน 20 รัฐของสหรัฐฯ

ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งได้รับมอบหมายจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้เป็นแม่ทัพต่อสู้กับโควิด-19 เปิดเผยว่ารัฐบาลไม่สามารถทำตามเป้าหมายในการจัดหาเครื่องมือทดสอบไวรัสได้ 1 ล้านชุดในสัปดาห์นี้

ตัวเลข 1 ล้านมาจาก สเตฟาน ฮาห์น ผู้อำนวยการสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ ที่เปิดเผยในระหว่างแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า สหรัฐฯ อาจพร้อมใช้งานอุปกรณ์ตรวจหาไวรัสเกือบ 1 ล้านชุดภายในสุดสัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตาม เพนซ์ยอมรับว่าอาจทำไม่ได้ตามเป้าหมาย และตอนนี้มีเครื่องมือไม่เพียงพอกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น

แต่กระนั้นก็ยังไม่ชัดเจนว่ารัฐจะจัดหาเครื่องมือมาได้จำนวนเท่าใด แต่คาดว่าจะน้อยกว่าตัวเลขเป้าหมายนี้ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขวิตกว่าไวรัสโคโรนาอาจแพร่กระจายในชุมชนสหรัฐฯ โดยที่ตรวจไม่ได้ เนื่องจากขาดแคลนอุปกรณ์

เพนซ์ระบุว่าเวลานี้รัฐบาลโฟกัสไปที่เรือสำราญ Grand Princess ที่จอดอยู่นอกชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีผู้โดยสารและลูกเรืออยู่บนนั้นราว 3,500 คน โดยรัฐบาลจะอนุญาตให้ลงจากเรือได้ก็ต่อเมื่อทั้งหมดผ่านการตรวจแล้ว หลังมีผู้ป่วยโควิด-19 จากเรือดังกล่าวเสียชีวิตที่โรงพยาบาลใกล้ซาคราเมนโต ซึ่งเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ชายฝั่งของสหรัฐฯ ได้ใช้เฮลิคอปเตอร์หย่อนเครื่องมือตรวจหาไวรัสบางส่วนด้วยเชือกลงไปบนเรือสำราญแล้ว

ด้านประธานาธิบดีทรัมป์เตรียมลงนามรับรองกฎหมายจัดสรรงบประมาณฉุกเฉินจำนวน 8.3 พันล้านดอลลาร์ให้แก่รัฐต่างๆ และรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อต่อสู้กับโควิด-19 หลังร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบในวุฒิสภาเมื่อวานนี้

สำหรับสถานการณ์การระบาดในสหรัฐฯ นั้น กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 20 รายในรัฐวอชิงตัน ขณะที่ผู้เสียชีวิต 9 รายในสหรัฐฯ มาจากสถานดูแลคนชราแห่งเดียวกันในซีแอตเทิล ซึ่งเวลานี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบแล้วว่าทางบ้านพักคนชราได้ปฏิบัติตามขั้นตอนป้องกันไวรัสอย่างเคร่งครัดหรือไม่

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง: