×

ประธาน World Economic Forum เตือน สัดส่วนหนี้ทั่วโลกพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่สงครามนโปเลียน

29.04.2024
  • LOADING...

Borge Brende ประธาน World Economic Forum แสดงมุมมองต่อเศรษฐกิจโลกในขณะนี้ว่ากำลังอยู่ในวิกฤตที่น่ากังวล เนื่องจากการเติบโตที่อ่อนแอและสัดส่วนหนี้ทั่วโลกพุ่งแตะระดับสูงสุด ซึ่งเป็นหนี้ปริมาณมหาศาลที่โลกไม่ได้ประสบมาเลยนับตั้งแต่สงครามนโปเลียน พร้อมกล่าวเตือนอย่างชัดเจนว่า โลกมีโอกาสที่จะเผชิญกับการเติบโตที่ต่ำที่สุดในรอบทศวรรษ หากไม่นำมาตรการทางเศรษฐกิจที่เหมาะสมมาใช้อย่างจริงจัง

 

ความเห็นกึ่งคำเตือนในครั้งนี้มีขึ้นระหว่าง ‘การประชุมพิเศษว่าด้วยความร่วมมือระดับโลก การเติบโต และพลังงานเพื่อการพัฒนา’ (Special Meeting on Global Collaboration, Growth and Energy for Development) ของ WEF ที่จัดขึ้นที่กรุงริยาด เมืองหลวงของซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (28 เมษายน)

 

โดย Brende ชี้ว่า อัตราส่วนหนี้สินทั่วโลกใกล้เคียงกับระดับที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนนับตั้งแต่ทศวรรษ 1820 และมีความเสี่ยงที่ประเทศพัฒนาแล้วทั้งหลายจะประสบกับ ‘ภาวะเงินเฟ้อติดลบ’ หรือ ‘Stagflation’ ได้

 

สงครามฉุด GDP โลกโตต่ำกว่า 4%

 

ขณะเดียวกัน Brende ยังกล่าวย้ำระหว่างการให้สัมภาษณ์ในรายการของสถานีโทรทัศน์ CNBC ว่า การประมาณการของการเติบโตทั่วโลกในปี 2024 อยู่ที่ประมาณ 3.2% ซึ่งก็ไม่ได้ถือว่าเลวร้ายอะไร แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่โลกคุ้นเคย หลังจากที่เผชิญกับการเติบโตโดยเฉลี่ยประมาณ 4% มานานหลายทศวรรษ ซึ่งรูปการณ์ดังกล่าวทำให้มีความเสี่ยงที่ประเทศเศรษฐกิจหลักๆ ของโลกบางแห่งจะชะลอตัว เช่นเดียวกันกับที่พบเห็นในช่วงทศวรรษ 1970 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิด The Great Inflation กับ Yom Kippur War ที่ชาติตะวันตกให้การสนับสนุนอิสราเอลรบกับชาติอาหรับ ทำให้ OPEC ร่วมกันคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันไปยังชาติพันธมิตรตะวันตก ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบโลกเพิ่มขึ้นกว่า 300%

 

Brende ระบุว่า โลกในขณะนี้ไม่สามารถแบกรับภาระจากสงครามการค้าใดๆ ได้แล้ว ทั่วโลกต้องการการค้าขายระหว่างกัน เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกที่เติบโตตกต่ำ พร้อมประเมินว่าการค้าโลกและระบบห่วงโซ่อุปทานโลกจะต้องเปลี่ยนไป ที่ประเทศต่างๆ จะหันมาค้าขายกับประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง หรือประเทศที่เป็น ‘พรรคพวก’ ของตนมากขึ้น (Nearshoring and Friendshoring) ซึ่งอาจทำให้เสียโอกาสหรือเสียประโยชน์มหาศาล เพราะมัวแต่ไปจับผิดกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ

 

หนี้ทั่วโลกพุ่งเกือบแตะ 100% ของ GDP

 

ทั้งนี้ นอกจากแนวโน้มการเติบโตที่อ่อนแอแล้ว Brende ยังกระตุ้นเตือนให้นานาประเทศทั่วโลกให้น้ำหนักกับการจัดการหนี้ โดยชี้ว่าสถานการณ์หนี้ทั่วโลกในเวลานี้น่าหวาดหวั่นมาก เพราะระดับหนี้ในปัจจุบันเป็นระดับที่ไม่ได้เห็นมาเลยนับตั้งแต่สงครามนโปเลียน โดยหนี้ทั่วโลกในเวลานี้พุ่งแตะเกือบ 100% ของ GDP โลก

 

Brende ชี้ว่า รัฐบาลทั่วโลกจำเป็นต้องพิจารณาวิธีการลดหนี้และใช้มาตรการทางการคลังที่ถูกต้อง โดยไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนี้ Brende ยังกล่าวถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และเทรนด์ของ Generative AI ที่อาจเป็นโอกาสสำหรับประเทศกำลังพัฒนา

 

ความเห็นกึ่งคำเตือนของ Brende สอดคล้องกับรายงานล่าสุดจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งระบุว่าหนี้สาธารณะทั่วโลกขยับขึ้นถึง 93% ของ GDP ในปีที่แล้ว และยังคงสูงกว่าระดับก่อนเกิดวิกฤตโควิดอยู่ 9% โดย IMF คาดการณ์ว่าหนี้สาธารณะทั่วโลกอาจสูงถึงเกือบ 100% ของ GDP ภายในสิ้นทศวรรษนี้

 

นอกจากนี้ IMF ยังกล่าวถึงระดับหนี้ที่สูงในจีนและสหรัฐอเมริกา โดยชี้ว่า นโยบายการคลังที่ผ่อนคลายในช่วงหลังจะสร้างแรงกดดันต่ออัตราดอกเบี้ยและเงินดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินทั่วโลกสูงขึ้นจนทำให้ความเปราะบางที่มีอยู่เดิมรุนแรงขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ทาง IMF ยังได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์การเติบโตทั่วโลกเล็กน้อย โดยชี้ถึง ‘ความยืดหยุ่นอย่างน่าประหลาดใจ’ ของเศรษฐกิจโลก แม้จะมีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินก็ตาม โดยขณะนี้คาดว่าการเติบโตทั่วโลกจะอยู่ที่ 3.2% ในปี 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.1% จากการคาดการณ์ก่อนหน้าในช่วงต้นเดือนมกราคม

 

เตรียมเผชิญ ‘ภาวะถดถอยทางภูมิรัฐศาสตร์’ ทั่วโลก

 

Brende ได้กล่าวเตือนปิดท้ายว่า ความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดสำหรับเศรษฐกิจโลกในขณะนี้คือ ‘ภาวะถดถอยทางภูมิรัฐศาสตร์’ หรือ ‘The Geopolitical Recession’ ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ โดยเฉพาะความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและอิสราเอลที่ปะทุขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้เกิดปัจจัยไม่แน่นอนที่ยากจะคาดเดาได้มากมาย และทำให้เศรษฐกิจโลกหลุดออกจากการควบคุมได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอิสราเอลและอิหร่านเพิ่มความขัดแย้งนั้น โดยBrende คาดว่าหากอิหร่านและอิสราเอลยกระดับการสู้รบ โลกก็อาจได้เห็นราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะ 150 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในชั่วข้ามคืน และไม่ต้องสงสัยเลยว่าผลลัพธ์ที่ตามมาจะสร้างความเสียหายอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลกอย่างสาหัสสากรรจ์แน่นอน

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X