อิ่มหนำสำราญวันหยุด กับ ‘W Does Brunch’ บรันซ์วันเสาร์แสนสุขของคนรักอาหารและงานศิลป์

ในวันทั้ง 7 วัน เสาร์และอาทิตย์เป็นสองวันหยุดสุปดาห์ที่ควรค่าแก่การพักผ่อนมากที่สุด ช่วงเวลาเอกเขนกตามใจฉันที่เราหมายจะนอนตื่นสายกี่โมงก็ได้ ทำกิจกรรมใดก็ไม่ต้องวิตกกังวลกับภาระหน้าที่ใดๆ และจะยิ่งดีใหญ่ถ้าวันหยุดวันนั้นมีของกินแสนอร่อยคุณภาพดีให้กินแบบไม่รู้เบื่อ เปรมกระเพาะ โดยที่เราไม่ต้องลงมือทำให้เหนื่อยเลยแม้แต่นิดเดียว

บรันช์ (Brunch) คือ การกินอาหารมื้อเช้าควบเที่ยง ตามคำดั้งเดิม มาจากคำว่า Breakfast ซึ่งแปลว่า ‘อาหารเช้า’ และ Lunch ที่หมายถึง ‘มื้อเที่ยง’ ปัจจุบัน ตามร้านอาหารและโรงแรมใหญ่ในประเทศไทยมีบริการบรันช์ให้เลือกกินเต็มไปหมด บางแห่งขยายจากช่วงสายไปจนถึงช่วงบ่าย บางแห่งเพิ่มกิจกรรมสร้างสีสันลงไปด้วย แต่เกือบร้อยทั้งร้อยมักให้บริการวันอาทิตย์และวันหยุดเทศกาล นิยมเสิร์ฟแบบบุฟเฟต์ แต่พิเศษตรงที่วัตถุดิบดีกว่า สดกว่า และหลากหลายมากกว่าบุฟเฟต์ทั่วไป จ่ายครั้งเดียวรวมไปถึงเมนูเครื่องดื่มเสร็จสรรพ ดื่มได้ไม่อั้นอย่างที่เราเรียกกันติดปากว่า ‘Free Flow’

ก่อนจะไปเต็มอิ่มกับมื้ออาหาร เราขอให้คุณลืมไปว่า ‘บรันช์’ ต้องกินแค่ ‘วันอาทิตย์’ (จากคำว่า Sunday Brunch) แล้วมาสนุกกับบรันช์วันเสาร์ ที่ทาง W Hotel เตรียมไว้ให้กับ ‘W Does Brunch’ ณ ห้องอาหาร The Kitchen Table ทุกเสาร์ที่ 1 และ 3 ของเดือน

บรรยากาศในห้องอาหาร

W Does Brunch x Pree

เสียงเพลงบีตสนุกดังคลอโสตประสาททันทีที่ย่างก้าวเข้าสู่เขตห้องอาหาร The Kitchen Table ห้องอาหารแบบ all-day-dining ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยของกินนับร้อยรายการ ทั้งยังลุกลามออกมายังด้านนอกอีกหลายเคาน์เตอร์ โต๊ะหินอ่อนนับสิบจัดวางตามมุมต่างๆ ถูกนักชิมจับจองกันหนาตา บนโต๊ะครบครันด้วยอุปกรณ์เนื้อดีที่ชวนให้หยิบจับ

มีช่วงเดินแบบ ชุดออกกำลังกาย จาก Pree

ดีเจเปิดแผ่นสนุกๆ ตลอด 4 ชั่วโมงเต็ม

W Does Bruch นับเป็นบรันช์ที่สนุกและเต็มไปด้วยอาหารคุณภาพพรีเมียม ซึ่งทางห้องอาหาร The Kitchen Table จัดขึ้นเพียง 2 ครั้ง ต่อเดือน คือ ทุกเสาร์แรกและเสาร์ที่สามของเท่านั้น โดยมีกิจกรรมพิเศษร่วมกับศิลปินไทยในแขนงต่างๆ ซึ่งตอนที่เราไปเป็นคิวของ ‘Pree Boutique Sportswear’ แบรนด์ชุดออกกำลังกาย ที่ออกแบบมาเพื่อสาวๆ โดยเฉพาะ ครบเครื่องทั้งงานดีไซน์ที่สามารถใส่ออกข้างนอกอย่างเปรี้ยวเท่ และยังคงคุณสมบัติของชุดออกกำลังกายที่พึงมี

ซี่โครงเนื้อย่าง หอมมาก

The Dishes

มีอะไรบ้างที่คุณคาดหวังจะได้กินในมื้อบรันช์ที่ต้องจ่ายในวันหยุด ขาปูยักษ์อลาสก้าแบบไม่อั้น หอยนางรมสดๆ ตัวเป้ง กับซอสนับสิบชนิด กุ้งกั้งเนื้อแน่นที่กินเท่าไรก็ได้ตามใจอยาก ปลาดิบคุณภาพให้เลือกกินแบบละลานตา ยังไม่รวมเนื้อวัวติดมันย่างหอมๆ อาหารมื้อเช้ายอดนิยมอย่างไข่เบเนดิกต์ ขนมปังอบสดใหม่กรุ่นจากเตา และของหวานแสนอร่อยอีกนับสิบอย่าง ทั้งหมดที่ว่านั้น W Does Bruch มีเสิร์ฟให้กินแบบจุใจ นั่งกินไปเรื่อยๆ ตั้งแต่เที่ยงวันยันบ่ายแก่ ทั้งยังมีเมนูพิเศษที่ทำร่วมกับศิลปินโดยเฉพาะ

มุมหอยนางรมและกั้ง เลือกได้ด้วยนะว่าจะกินสดหรือเอาไปปรุงจานอะไร

ของกินละลานตา

อย่างรอบนี้เป็นมุมของ ‘Vegetable Butcher’ โซนเสิร์ฟจานผักที่ให้คุณออกแบบเมนูผักด้วยตนเองจากผักสดเกือบ 20 ชนิด อยากกินอะไร ชอบแบบไหน ก็แค่เอื้อนเอ่ย เชฟจะจัดการปรุงตามใจแล้วเสิร์ฟความอร่อยกันถึงโต๊ะ และยังมีเมนูม็อกเทลเพื่อสุขภาพ เป็นน้ำบีตรูตผสมกับเสาวรส และอื่นๆ ส่วนค็อกเทลมาในแก้วทรงสูงสีดำเคลือบทองนาม ‘Charcoal’ ที่มีส่วนผสมของผงถ่าน ที่ช่วยดีท็อกซ์ร่างกาย พร้อมสนุกได้ยาวขึ้นตลอด 4 ชั่วโมงเต็ม

มุม Vegetable Butcher

เชฟกำลังปรุงจานผักที่นักชิมเลือก

ม็อกเทลสูตรสุขภาพ และเสื้อผ้าจาก Pree

The Promotion

ราคาค่างวดของมื้ออาหาร มี 2 แพ็กเกจให้เลือกตามไลฟ์สไตล์การกินดื่ม ใครที่ไม่ชอบดื่มน้ำเมา แนะนำให้เลือก ‘Just For Food’ สนนราคาอยู่ที่ 2,500++ บาท สำหรับอาหารพร้อมซอฟต์ดริงก์และน้ำผลไม้ สั่งกินเท่าไรก็ได้ไม่อั้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำผลไม้ปั่น สมูทตี้ ม็อกเทล ฯลฯ แต่ถ้าคุณกินแบบ แชมเปญบรันช์ ให้ตัดสินใจเลือกแพ็กเกจ The Experince แบบไม่ต้องรั้งรอ ตกคนละ 3,500++ บาท แต่กินได้หมดทุกประเภทน้ำเมา ค็อกเทล เบียร์สด สปาร์กลิงไวน์แบบไม่อั้น