×

‘วอริกซ์’ เปิดตัวชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยใหม่ ปี 2022/23 เตรียมประเดิมใช้ในศึกคิงส์คัพ ครั้งที่ 48 ที่เชียงใหม่

15.09.2022
  • LOADING...

วันนี้ (15 กันยายน) วอริกซ์ สปอร์ต ผู้นำผลิตภัณฑ์ด้าน Sport Health Active & Lifestyle แถลงข่าวเปิดตัวชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยใหม่ล่าสุด ปี 2022/23 ภายใต้คอนเซปต์ ‘UNITE หลอมรวมไทย ใจเป็นหนึ่ง’ พร้อมสำหรับการแข่งขันในรายการคิงส์คัพ ครั้งที่ 48 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 22 และ 28 กันยายนนี้ เป็นรายการแรก

 

วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การออกแบบชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยครั้งนี้ ได้รับแรงบันดาลใจจาก ‘สายน้ำ’ ที่สื่อถึงวิถีชีวิตของคนไทยที่ผูกพันอยู่กับสายน้ำมาอย่างเนิ่นนาน เป็นที่มาของการสรรสร้างชุดแข่งขันโดยดึงเอาจุดเด่นลวดลายของสายน้ำ ถูกถ่ายทอดเรื่องราวลงบนเสื้อ ให้ความรู้สึกถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

 

พร้อมนำเสนอความทันสมัยในรูปแบบสีพิเศษแบบนีออน โดยปีนี้เรามุ่งเน้นสื่อสารผ่านกลุ่มแฟนบอลพันธุ์แท้ รวมไปถึงกลุ่ม Non Football Fan ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อความหลากหลายและตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์มากยิ่งขึ้น ภายใต้มาร์เก็ตติ้งเคมเปญ ‘บอลไทย ใครๆ ก็เชียร์ได้’ แสดงถึงการรวมพลังของกองเชียร์ชาวไทยที่เป็นแหล่งพลังงานหลักอันยิ่งใหญ่ หล่อหลอมทุกหัวใจให้เป็นหนึ่งเดียว อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนให้นักฟุตบอลทีมชาติไทยก้าวไปสู่ทุกความสำเร็จ

 

สำหรับชุดแข่งขันคอลเล็กชัน ‘UNITE’ Thailand National Team Kit 2022/23 มีทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ ชุดแข่งขันสำหรับนักเตะ (Player Version) ในราคา 2,490 บาท, ชุดแข่งขันสำหรับแฟนบอล (Replica Version) ในราคา 1,290 บาท และเสื้อเชียร์ทีมชาติไทย (Cheer Version) มีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน (Home Kit) และสีแดง (Away Kit) ในราคา 399 บาท

 

สำหรับชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทย ปี 2022/23 เปิดจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผ่านทุกช่องทางการจัดจำหน่ายของวอริกซ์ ได้แก่ ฟอร์ต วอริกซ์ สเตเดียม วัน, Outlet Square เมืองทองธานี, โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และทุกช่องทางออนไลน์ของวอริกซ์ ได้แก่ Shopee, Lazada และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางโมเดิร์นเทรดที่เป็นพันธมิตร เช่น Supersports, Sports Mall, FBT, Big C และทาง 24 Shopping ของ 7-Eleven

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising