แล้วการนัดแฮงเอาต์หลังเลิกงานจะไม่ใช่ปัญหาโลกแตกอีกต่อไป เพราะไม่รู้จะไปที่ไหนกันดี เอาใจคนทำงานย่านสาทร-สีลม กับ Wander (แวนเดอร์) ร้านอาหารและบาร์บนถนนปั้น ที่อาหารดี ดนตรีไพเราะ จากทีมงาน All Six to Twelve, Amontre และ Baby Bar
The Vibe
จากปากซอยหาร้านไม่ยาก เพราะอยู่ถัดจาก Luka นั่นเอง ตัวร้านอยู่ในห้องกระจกใสที่ตัดกับโทนสีดำขรึม ด้านหน้ามีเทอร์เรสเล็กๆ สำหรับนั่งรับลมหรือสูบบุหรี่ ส่วนด้านในมีทั้งโซนที่นั่งหน้าบาร์และมุมสบายสำหรับก๊วนเพื่อนทั้งเล็กและใหญ่ เราแนะนำให้จับจองมุมติดผนังปูนเปลือยที่มีกราฟิกเพนต์สีสันสดใส เหมาะถ่ายรูปเป็นที่สุด ส่วนบรรยากาศนั้นชิลยิ่งกว่า เพราะหลังพระอาทิตย์ตกดินจะเปิดเพลงแนวดิสโก้ โมทาวน์ ดึกอีกนิดก็ต่อด้วยดนตรีสดหลายแนว ฟังเพลินทุกวันอังคาร-เสาร์ แถมเร็วๆ นี้แว่วว่า จะมีดีเจมาแจมสร้างสีสันช่วงสุดสัปดาห์อีกด้วย
และพาสต้าผัดครีม ไข่ ชีส และเบคอน
The Dishes
แฟนๆ ที่เคยไป All Six to Twelve และ Amontre น่าจะรู้จักรสชาติอาหารของที่นี่ดี เพราะนำรสชาติจากซิกเนเจอร์เมนูทั้งสองร้านที่หลายคนติดใจ กลับมาชุบชีวิตใหม่ เสริมทัพด้วยอาหารจานเดียวและกับแกล้มรสนัว ส่วนนักดื่มก็ไม่ต้องน้อยใจ หากหาเครื่องดื่มไม่เจอ เพราะเขามีเมนูค็อกเทลแยกอีกเล่ม เน้นคาแรกเตอร์เหล้าเป็นหลัก มากกว่าความหวานเจี๊ยบแบบค็อกเทลร้านทั่วไป ส่วนใครที่ไม่เน้นดื่ม ก็มีคอฟฟี่ม็อกเทลเป็นตัวเลือก จะได้ไม่ต้องนั่งเขินคนเดียว
กว่าจะฝ่ารถติดกันมาครบ คนที่มาจองโต๊ะรอก็คงหิวไส้กิ่ว อย่าให้ท้องว่าง หยิบเมนูขึ้นมาสั่งของกินเล่นกัน เราสะดุดตาเมนู โมจิลาบเป็ด (155 บาท) ไอเดียของกินเล่นที่เก๋ไก๋ไม่เบา แป้งข้าวเหนียวก้อนกลมสอดไส้เป็ดสับคลุกเคล้าเครื่องลาบและสมุนไพรทอดจนกรอบได้ที่ แต่ด้านในยังคงความเหนียวนุ่มชุ่มลิ้น รีบกินขณะร้อนๆ จะดีมาก
หมูกรอบพริกกระเทียม ปูผัดพริกมะนาว และโมจิลาบเป็ด
ต่อด้วยกับแกล้มกึ่งกับข้าวอีกสัก 2-3 อย่าง หมูกรอบพริกกระเทียม (230 บาท) จานโปรดของเราที่ต้องสั่งแทบทุกครั้งเมื่อไปกินข้าวนอกบ้าน หมูสามชั้นทอดหนังกรอบกำลังดี ไม่อมน้ำมัน ผัดกับพริกและกระเทียม ปรุงรสเล็กน้อยด้วยน้ำปลา จะกินแกล้มเบียร์ หรือสั่งพร้อมข้าวสวยกินจริงจังก็โอเค กะเพราเนื้อสันนอก (320 บาท) ก็ดูเข้าท่า จากกะเพราเนื้อธรรมดา ที่นี่อัปเกรดให้เป็นเนื้อสตริปลอยน์ออสเตรเลียผัดกะเพรา ใส่พริกให้รสจัดจ้านแบบไทยๆ
กะเพราเนื้อสันนอก
ส่วนคนชอบอาหารทะเล โดยเฉพาะปู ลองเปลี่ยนบรรยากาศจากปูผัดพริกเหลืองมาเป็น ปูผัดพริกมะนาว (460 บาท) กันบ้าง เนื้อปูก้อนโตผัดกระเทียม พริก และมะนาว รสชาติเปรี้ยวเค็มตัดเลี่ยน และดูเฮลตี้พอสมควรเลยนะ
มาม่าคั่วไก่ไข่ออนเซน และแซลมอนแซ่บ
ใครว่ามาม่าจะดูดีไม่ได้? คิดใหม่แล้วลองชิม มาม่าคั่วไก่ไข่ออนเซน (130 บาท) จานประยุกต์จากก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ โดยใช้เส้นมาม่าคั่วไข่กับชิ้นไก่ ผัดจนแห้งและหอม แล้วโรยปาท่องโก๋กรอบจิ๋ว ท็อปไข่ออนเซน เจาะไข่แดงให้แตก แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันเพื่อความอร่อย
อีกหนึ่งเมนูอิตาเลียน พาสต้าที่นำมาประยุกต์แบบไทยๆ Rigatoni Carbo Nam (180 บาท) ริกาโทนี พาสต้าที่มีรูกลวงใหญ่ตรงกลาง ผัดครีม ไข่ ชีส และเบคอน ฟีลคล้ายๆ คาร์โบนารา แต่เพิ่มรสไทยจัดจ้านด้วยพริกกับแหนม เข้มข้น จัดจ้าน และไม่เลี่ยนจนเกินไป เข้ากันได้แบบพอดิบพอดี
Wanderer, Into the Wood รัมอีสานสไตล์ผลไม้
และ Gimme Some Roses ค็อกเทลใสๆ แต่มาแรง
ดริงก์ที่นี่ก็ดูดีไม่เบา แถมเหล้าก็เข้มอีกต่างหาก Into the Wood (320 บาท) ค็อกเทลที่ให้ฟีลวู้ดดี้ เบสด้วยอีสานรัม ตามด้วยเหล้าพีชและเหล้าลิ้นจี่เติมแต่งรส พิวเร่มะม่วง น้ำมะนาว เอลเดอร์ฟลาวเวอร์ซิรัป เสียบชิ้นสับปะรดมาให้เคี้ยวเพลินระหว่างจิบค็อกเทล Gimme Some Roses (320 บาท) เครื่องดื่มสีชมพูแลดูใส แต่ดีกรีแอลกอฮอล์ไม่ใสตาม แก้วนี้ใช้จินสีชมพูและเหล้าหวานกลิ่นกุหลาบ โซดาออนท็อป โรยหน้าด้วยกลีบกุหลาบแห้ง ดื่มง่าย รสหวานหอมสดชื่น
Wanderer (320 บาท) เห็นลุคใสๆ แปะดอกไม้ ดูไม่มีพิษภัยแบบนี้ แต่เขาเบสด้วยไอริชวิสกี้เชียวนะ เพิ่มฟีลเอิร์ธตี้เบาๆ ด้วยพิวเร่มะขาม จิบแรกไม่คุ้นลิ้น จิบที่สองทำเอาเกือบหมดแก้ว
Wanderer และม็อกเทลที่เบสด้วยกาแฟ
หากไม่ดื่มแอลกอฮอล์ แต่กลัวมือว่าง เราแนะนำ Lychicano (145 บาท) ม็อกเทลที่เบสด้วยกาแฟ ผสมน้ำลิ้นจี่และมะนาว แถมลิ้นจี่เสียบก้านวางบนปากแก้ว ดูดีไม่น้อยหน้าค็อกเทลเลยทีเดียว
What You Should Know:
- เสร็จจาก Wander แฮงเอาต์ครั้งหน้า เราแนะนำให้ไปกันต่อที่ Baby Bar บาร์สวยสุดแซสซี่ในเครือเดียวกันได้นะ
Wander
Open: เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-24.00 น.
Address: 64 ถนนปั้น กรุงเทพฯ
Budget: 300-500 บาท
Contact: 0 2235 6848
Website: www.facebook.com/wanderbkk
Map:
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล