×

โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี: นักแสดงตลกสู่ผู้นำยูเครนยามสงคราม และนิยาม ‘แจ็คผู้ท้าทายยักษ์’

07.03.2022
  • LOADING...
โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี: นักแสดงตลกสู่ผู้นำยูเครนยามสงคราม และนิยาม ‘แจ็คผู้ท้าทายยักษ์’

โวโลดิเมียร์ คือชื่อเดียวกับภาษารัสเซียว่า วลาดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้ที่ทำทั้งโลกอึ้งและชื่นชมในฐานะผู้นำประเทศมือใหม่แห่งยูเครน ผู้ต้านทานแสนยานุภาพทางทหารของรัสเซียได้อย่างไม่น่าเชื่อ และกำลังท้าทายอย่างไม่ลดละกับวลาดิเมียร์อีกคนที่เป็นถึงพญาหมีใหญ่ ผู้กำลังเดิมพันครั้งสำคัญบนแผ่นดินสีเหลืองใต้ท้องฟ้าสีฟ้าแห่งนี้ 

 

โวโลดิเมียร์ โอเลกซานโดรวีช เซเลนสกี (Volodymyr Oleksandrovych Zelensky) เกิดเมื่อวันที่ 25 มกราคม 1978 ในเมืองครีวิริก (Kryvyi Rih) ที่ผู้คนใช้ภาษารัสเซียเป็นหลัก (โดยโวโลดิเมียร์ใช้ภาษารัสเซียมาตั้งแต่เกิด เพิ่งจะมาหัดพูดภาษายูเครนอย่างจริงจังในปี 2017 นี้เอง) ในจังหวัดดนีโปรเปตรอฟสก์ (Dnipropetrovsk) ในภาคตะวันออกของยูเครนในยุคที่ยังเป็นสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตยูเครนแห่งสหภาพโซเวียต 

 

โดยบิดาของเขา โอเล็กซานเดอร์ ซีมีโยโนวีช เซเลนสกี (Oleksandr Semenovych Zelensky) เป็นศาสตราจารย์ด้านคอมพิวเตอร์และฮาร์ดแวร์แห่งมหาวิทยาลัยครีวิริก (Kryvyi Rih State University of Economics and Technology) มารดา ริมมา โวโลดีมีโรวีช เซเลนสกา (Rimma Volodymyrovych Zelenska) เป็นวิศวกร ส่วนปู่ ซีมโยน อิวาโนวิช เซเลนสกี (Semyon Ivanovich Zelensky) เป็นทหารสังกัดกองพลปืนเล็กที่ 58 แห่งกองทัพแดงในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งบิดาของปู่ (หรือทวด) ของโวโลดิเมียร์พร้อมพี่น้องปู่ถูกสังหารหมู่โดยนาซีในเหตุการณ์ Holocaust เนื่องจากเป็นเชื้อสายยิว จึงไม่ผิดที่จะกล่าวว่าภูมิหลังของครอบครัวไม่ธรรมดา

 

ในวัยเด็กโวโลดิเมียร์ต้องติดตามบิดามารดาไปประเทศมองโกเลียอยู่ 4 ปี เนื่องจากบิดาได้ไปเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยที่นั่น และเขายังจบชั้น Grade 1 จากที่นั่นอีกด้วย ก่อนที่เขากับมารดาจะย้ายกลับมายังบ้านเกิดที่ครีวิริก และเข้าเรียนต่อในระดับประถมและมัธยมในระบบการศึกษายูเครน โวโลดิเมียร์ถือเป็นเด็กที่มีความสามารถทั้งวิชาการ การกีฬา เขาสามารถสอบผ่าน TOEFL จนได้รับทุนไปเรียนต่อที่ประเทศอิสราเอล แต่บิดาคัดค้าน ในที่สุดจึงต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่บ้านเกิดและจบการศึกษาเป็นนิติศาสตรบัณฑิตจากสถาบันเศรษฐศาสตร์ครีวิริก ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นเพียงสาขาหนึ่งของมหาวิทยาลัยแห่งชาติเคียฟ 

 

แต่การเป็นนิติศาสตรบัณฑิตก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นทนายหรือนักกฎหมายเสมอไป ในช่วงที่เรียนอยู่ Grade 11 (ระดับสุดท้ายของไฮสคูล) เขาได้เริ่มตั้งตัวเป็นเป็นนักแสดงตลกเมื่อได้ก่อตั้งทีมจากเพื่อนๆ ที่กำลังจะจบการศึกษาพร้อมเขาเข้าร่วมแข่งขัน KVN ซึ่งเป็นโปรเจกต์เฟ้นหาผู้มีพรสวรรค์ด้านการสร้างอารมณ์ขันที่มีมาแต่ยุคสหภาพโซเวียต โดยตั้งชื่อทีมว่า ‘Zaporozhye-Krivoy Rog-Transit’ และในที่สุดก็คว้าแชมป์มาได้ในปี 1997 

 

การได้เป็นแชมป์ KVN ทำให้ทีมของโวโลดิเมียร์โด่งดังขึ้นมาทันทีในหมู่ประเทศอดีตสหภาพโซเวียต และปูทางไปสู่การจัดตั้งทีม Kvartal 95 ในช่วงปี 1998-2003 Kvartal 95 เนื้อหอมมาก ได้รับเชิญให้ไปจัดแสดงในลีกระดับบน รวมไปถึงลีกเปิดตัวของ Ukrainian KVN อีกทั้งยังเดินสายไปทั่วประเทศกลุ่มอดีตสหภาพโซเวียต และว่ากันว่าในช่วงนั้นคณะ Kvartal 95 กินนอนในมอสโกราวกับเป็นบ้านหลังที่สอง และในปี 2003 Kvartal 95 ได้เริ่มแปลงโฉมเป็นสตูดิโอที่ผลิตรายการป้อนสถานีโทรทัศน์ยูเครนต่างๆ มากมาย รวมไปถึงผลงานร่วมกับวงการบันเทิงรัสเซียด้วย

 

ในขณะที่เซเลนสกีสร้างผลงานในฐานะนักแสดงสมทบ ได้แก่ Love in the Big City, Love in the Big City 2, Love in the Big City 3, Rzhevsky Versus Napoleon, และนักแสดงนำ ได้แก่ 8 First Dates รวมไปถึงการพากย์เสียงของเจ้าหมีแพดดิงตัน เขาก็ยังเป็นโปรดิวเซอร์หลักให้กับโทรทัศน์ยูเครนช่อง ‘Inter’ อีกด้วยในช่วงปี 2010-2012 

 

สัดส่วนผลงานของเซเลนสกีนั้น ผลงานในภาษารัสเซียถือเป็นสัดส่วนใหญ่ แต่ไม่ว่าผลงานใดก็ไม่สู้ซีรีส์ตลกเสียดสีสังคมและการเมือง ‘ผู้รับใช้ประชา’ (Servant of the People) ที่เซเลนสกีได้รับบทเป็นประธานาธิบดียูเครนที่มีพื้นเพมาจากครูสอนวิชาประวัติศาสตร์ในโรงเรียน ผู้มีปณิธาณที่จะปราบคอร์รัปชันในรัฐบาลและจับพลัดจับผลูได้มาเป็นประธานาธิบดี ซึ่งในชีวิตจริงในเวลาต่อมาเซเลนสกีก็ได้เป็นประธานาธิบดียูเครนจริงๆ เรื่องนี้จะว่าไปก็มีส่วนคล้ายกับประวัติของอดีตนายกรัฐมนตรีไทย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ซึ่งสมัยหนึ่งท่านเป็นนักแสดงเจ้าบทบาทรับบทเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศสารขัณฑ์ในเรื่อง The Ugly American ก่อนที่ในอีกสิบกว่าปีต่อมาจะได้กลายมาเป็นนายกรัฐมนตรีประเทศไทยจริงๆ

 

เมื่อคราวเกิดการปฏิวัติไมดาน และถึงแม้เซเลนสกีสนับสนุนการปฏิวัติในครั้งนี้ แต่ก็ได้มีส่วนคัดค้านในการต่อต้านการแบนศิลปินและสื่อบันเทิงรัสเซีย ซึ่งเป็นผลพวงจากนโยบายต่อต้านรัสเซียโดยรัฐบาลขวาจัด นับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา รัฐบาลยูเครนสั่งแบนผลงานศิลปินรัสเซียและห้ามศิลปินรัสเซียเดินทางเข้ายูเครน รวมไปถึงภาพยนตร์เรื่อง ‘Love in the Big City 2’ ที่เซเลนสกีแสดงนำก็ยังถูกแบนด้วยเช่นกัน

 

นับตั้งแต่วิกฤตการณ์ไครเมียที่ชนเชื้อสายรัสเซียไม่พอใจนโยบายที่เลือกปฏิบัติต่อคนรัสเซีย จนลามไปถึงการประกาศเอกราชและนำพาไครเมียไปผนวกรวมกับรัสเซีย และตามมาด้วยการสู้รบเพื่อแบ่งแยกดินแดนในแคว้นดอนบาส Kvartal 95 ของเซเลนสกีมีบทบาทในการบริจาคเงินให้ทหารยูเครนที่สู้รบในดอนบาสกว่า 1 ล้านฮรีฟเนีย

 

เซเลนสกีตัดสินใจเข้าสู่สนามการเมือง โดยตั้งชื่อพรรคชื่อเดียวกับซีรีส์คอเมดี้ที่โด่งดังสุดคือ ‘พรรคผู้รับใช้ประชา’ โดยตั้งพรรคขึ้นในปี 2018 และมีสมาชิกจากสตูดิโอ Kvartal 95 เซเลนสกีเคยกล่าวถึงจุดมุ่งหมายการลงสนามการเมืองในครั้งนี้ว่า เพื่อนำผู้ที่เป็นมืออาชีพและมีคุณธรรมในการเปลี่ยนแปลงบรรยากาศการเมืองและกู้วิกฤตศรัทธาสถาบันทางการเมือง ซึ่งผู้คนเบื่อหน่ายกับภาวะการทุจริตและการไร้ประสิทธิภาพในการบริหารในทุกระดับ

 

ในการเลือกตั้งปี 2019 เซเลนสกีถือว่าเป็นม้ามืดตามโพลต่างๆ เซเลนสกีเน้นช่องทางการหาเสียงผ่านโซเชียลมีเดียเป็นหลัก อย่างเช่น YouTube จนสื่อหลักวิพากษ์วิจารณ์ว่าพยายามเลี่ยงการเผชิญหน้ากับสื่อ แต่เซเลนสกีก็แก้เกี้ยวว่าเขาไม่ได้พยายามหลบสื่อ เขาเพียงแค่ต้องการสื่อสารโดยตรงกับประชาชนโดยไม่ทำ PR ผ่านสื่อเหมือนนักการเมืองยุคเก่าก็เท่านั้น อีกทั้งยังโดนอดีตประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก (Petro Poroshenko) ที่เป็นคู่แข่งในขณะนั้น โจมตีว่าถ้าเลือกเซเลนสกีจะหวานหมูต่อฝั่งรัสเซีย และยังมีข้อกังวลต่อสายสัมพันธ์ระหว่างเซเลนสกีกับโอลิการ์ชยูเครนอย่าง อิโฮร์ โคโลโมยสกี (Ihor Kolomoyskyi) 

 

แต่ในที่สุดเซเลนสกีก็ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดียูเครนด้วยคะแนนถล่มทลายกว่า 73% ส่วนอดีตผู้นำอย่างโปโรเชนโกได้เพียง 24% ในขณะที่การเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภานั้นพรรคผู้รับใช้ประชาก็ครองเสียงข้างมากพรรคเดียวเช่นกัน โดยได้เสียงไปถึง 254 ที่นั่ง จาก 424 ที่นั่ง โดยนโยบายที่เซเลนสกีชูหาเสียงไว้คือการยุติการสู้รบในดอนบาส การปราบคอร์รัปชันและการปฏิรูปการเมืองเพื่อป้องกันการคอร์รัปชัน รวมไปถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

 

ทันทีที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีขึ้นดำรงตำแหน่งก็ได้ลงนามในคำสั่งโยกย้ายเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศและรัฐบาลเป็นการใหญ่ มีการโยกย้ายผู้ว่าการจังหวัด 20 แห่ง จาก 24 จังหวัด ในช่วงแรกของการดำรงตำแหน่งบรรยากาศการเมืองโดยรวมของเซเลนสกีมักจะถูกขัดแข้งขัดขาอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นการปฏิเสธการเปลี่ยนตัวของรัฐมนตรีต่างประเทศและผู้อำนวยการตำรวจลับ หรือญัตติการเปลี่ยนระบบเลือกตั้ง ซึ่งล้วนถูกเสนอโดยเซเลนสกีก็มีอันถูกปัดตกไปโดยเสียงส่วนใหญ่ของสภาเสมอ

 

นโยบายปฏิรูปของเซเลนสกีที่มีหลายอย่าง เช่น การสนับสนุนกัญชาเป็นยารักษาโรค การทำแท้งเสรี การนำการค้าประเวณีและการพนันขึ้นบนดินมาทำให้ถูกกฎหมาย รวมไปถึงนโยบาย Decommunization ที่เป็นการลดอัตลักษณ์อันมีที่มาจากยุคโซเวียตผ่านการทุบอนุสาวรีย์โซเวียตทิ้ง หรือการเปลี่ยนชื่อสถานที่ ถนน หนทางต่างๆ และนโยบายการยุติสงครามในดอนบาส ซึ่งเซเลนสกีก็พยายามเจรจากับทางรัสเซียด้วย

 

อีกนโยบายที่สำคัญคือนโยบายการปฏิรูปสื่อ โดยมีจุดมุ่งหมายที่เพิ่มการแข่งขันและลดอิทธิพลครอบงำของบรรดาโอลิการ์ชยูเครนต่อวงการโทรทัศน์และวิทยุ แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าสิ่งนี้อาจนำไปสู่การเซ็นเซอร์สื่อ เนื่องจากมีข้อกฎหมายว่าด้วยการเผยแพร่สื่อเท็จ (Distribution of disinformation) ซึ่งอาจถูกนำมาใช้แบบผิดๆ เพื่อปิดปากได้

 

แต่โดยรวมผลงานของเซเลนสกีก็ยังไม่ค่อยมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน โดยเฉพาะการรับมือกับวิกฤตโควิด คะแนนนิยมก็เริ่มลดลง จึงได้มีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและปรับ ครม. ใหม่ในปี 2020 นอกจากนี้ยังมีข้อครหาหลายอย่าง เช่น การเดินทางไปโอมานโดยไร้หมายกำหนดการ ถึงแม้ทางสำนักประธานาธิบดีจะออกมาแก้ต่างว่าไปด้วยงบส่วนตัวของเซเลนสกีเอง แต่ก็สร้างความกังวลต่อความโปร่งใสและผลประโยชน์ทับซ้อน 

 

โดยเฉพาะในเดือนมกราคม ปี 2021 เมื่อมีกรณี Pandora Papers ก็มีการแฉว่าเซเลนสกีและ อีวาน บาคานอฟ ผอ.ตำรวจลับรัฐบาลเซเลนสกี ได้บริหารเครือข่ายบริษัท Offshore ต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน ไซปรัส และเบลีซ ซึ่งได้ครอบครองสินทรัพย์มูลค่าสูงในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษหลายรายการ ถึงแม้ว่าเซเลนสกีจะส่งมอบหุ้นต่างๆ ไปยังผู้ดูแลแล้ว แต่ก็ดูเหมือนว่าทั้งสองจะยังมีการจัดการให้ครอบครัวของเซเลนสกียังคงได้รับเงินจากบริษัทเหล่านี้ต่อไป 

 

ในช่วงปลายปี 2021 เซเลนสกีได้กล่าวโจมตีโครงการท่อก๊าซ Nord Stream 2 ของรัสเซียกับเยอรมนีว่าจะเป็นอาวุธที่อันตรายไม่เฉพาะต่อยูเครนแต่ต่อทั้งยุโรป ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ายูเครนที่เคยได้ผลประโยชน์จากการเป็นทางผ่านก๊าซจากรัสเซียไปยุโรปกำลังจะถูกรัสเซียดัดหลังด้วยโครงการ Nord Stream 2 ที่ท่อก๊าซใหม่จะไม่ผ่านยูเครน และในช่วงปีเดียวกันนี้เอง เซเลนสกีได้ขอร้องให้ NATO เร่งรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก ตามมาด้วยการซ้อมรบของยูเครนประชิดน่านน้ำรัสเซียในทะเลดำ หรือการให้กองเรือ NATO มาซ้อมรบในย่านน่านน้ำแคว้นไครเมียที่รัสเซียปกครองอยู่ ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งเหล่านี้รัสเซียได้ใช้เป็นเหตุในการบุกยูเครนเช่นกัน

 

ในที่สุดเมื่อมีการบุกยูเครนโดยรัสเซีย ตอนแรกหลายคนเข้าใจว่าเซเลนสกีผู้ไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ สหรัฐอเมริกาถึงกับส่งข้อเสนอมารับประธานาธิบดีเซเลนสกีลี้ภัยเมื่อดูจากศักยภาพของกองทัพรัสเซียที่น่าจะยึดกรุงเคียฟได้ในไม่กี่วัน แต่การณ์กลับกลายเป็นว่าเซเลนสกีปักหลักสู้และใช้ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์อย่างเก่งกาจในการหาการสนับสนุนจากคนทั่วโลกในการยืนหยัดต่อต้านทหารรัสเซีย

 

การศึกครั้งนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีของสองวลาดิเมียร์ คือ วลาดิเมียร์ ปูติน และวลาดิเมียร์ (โวโลดิเมียร์) เซเลนสกี เหมือนกับผู้เป็นยักษ์และผู้เป็นแจ็ค ซึ่งหลายฝ่ายมองกันแล้วว่ากระดูกคนละเบอร์กัน

 

ถ้าหากผู้เป็นยักษ์ซึ่งมีประสบการณ์เป็นผู้นำมากว่า 20 ปี รวมไปถึงประสบการณ์การเป็นสายลับอย่างโชกโชน ยังไม่สามารถล้มแจ็คผู้เป็นเพียงอดีตนักแสดงตลกนี้ลงได้

 

ผลร้ายในเรื่องของความเชื่อมั่นในตัวผู้นำอาจกลายเป็นบูมเมอแรงปลิวกลับไปยังตัวยักษ์เสียเองก็เป็นได้

 

เกมนี้จะจบลงอย่างไรต้องติดตามกันต่อไป

ขอสันติภาพจงเกิดมีขึ้นโดยเร็ววัน

 

ภาพ: Ukrainian Presidency / Handout / Anadolu Agency via Getty Images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising