×

ตลาดหุ้นเวียดนามฟื้นตัวแล้ว 9.8% นับตั้งแต่ต้นปี ปิดฉากตลาดที่ยํ่าแย่ที่สุดในโลกเมื่อปีที่แล้ว

20.06.2023
  • LOADING...
ตลาดหุ้นเวียดนาม

ตลาดหุ้นเวียดนามโดดเด่นกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค เนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาล นับเป็นการพลิกฟื้นครั้งใหญ่หลังจากเป็นตลาดหุ้นที่มีผลประกอบการแย่ที่สุดในโลกเมื่อปีที่แล้ว

 

ดัชนีตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวขึ้น 9.8% ตั้งแต่เริ่มปี 2023 ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากของบรรดาตลาดหุ้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดัชนี Jakarta Composite ซึ่งเคยเป็นดาวเด่นเมื่อปีที่แล้ว หดตัวลง 2.4%

 

นักลงทุนกลับมาสู่เวียดนามอีกครั้ง หลังจากที่ตลาดหุ้นดิ่งลงเมื่อปีที่แล้ว ทำให้มูลค่าหุ้นในปัจจุบันน่าดึงดูดใจ ในขณะที่รัฐบาลให้คำมั่นว่าจะมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือธุรกิจที่ประสบปัญหาและหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ

 

ข้อมูลจาก Bloomberg รายงานว่า มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 732 ล้านดอลลาร์ ในเดือนมิถุนายน ซึ่งนับเป็นมูลค่าสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2022 ในเดือนนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 38.2 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่มียอดซื้อขายสุทธิติดลบในเดือนเมษายนและพฤษภาคม ขณะที่ตลาดอื่นๆ ในภูมิภาค เช่น อินโดนีเซีย ไทย และมาเลเซีย มียอดเงินไหลออกสุทธิในเดือนนี้

 

เมื่อต้นปีนี้รัฐบาลเวียดนามอนุญาตให้บริษัทต่างๆ ขยายระยะเวลาการครบกำหนดชำระหนี้ออกไปได้นานถึง 2 ปี และใช้สินทรัพย์อื่นๆ เพื่อชำระเงินต้นและดอกเบี้ยในพันธบัตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามบรรเทาสภาพคล่องที่ติดขัด เวียดนามให้ความสำคัญกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพื่อสนับสนุนธุรกิจที่พึ่งพาการส่งออกซึ่งกำลังติดขัดจากคำสั่งซื้อต่างประเทศที่ลดลง

 

นอกจากนี้ ธนาคารแห่งชาติเวียดนามยังประกาศลดอัตราดอกเบี้ยก่อนกำหนดเพื่อกระตุ้นการเติบโตและลดต้นทุนทางการเงินสำหรับบริษัทต่างๆ ซึ่งเป็นมาตรการผ่อนคลายครั้งที่สี่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (19 มิถุนายน) แม้ว่ามาเลเซียและไทยจะเพิ่มต้นทุนการกู้ยืมอย่างต่อเนื่องก็ตาม ด้านอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดีนี้ (22 มิถุนายน)

 

นักวิเคราะห์คาดว่าเวียดนามอาจเพิ่มมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ทางการคงเป้าหมายการเติบโตประจำปีที่ 6.5% แม้ว่าตัวเลขในไตรมาสแรกจะไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ก็ตาม

 

Marco Martinelli พาร์ตเนอร์ของ Turicum Investment Management กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ความปั่นป่วนจะยังคงอยู่ในระยะสั้น เนื่องจากผลประกอบการที่อ่อนแอและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ประกอบกับปัจจัยภายนอก เช่น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น และอุปสงค์ที่อ่อนแอจากประเทศที่พัฒนาแล้ว อาจส่งผลกระทบต่อบริษัทในท้องถิ่นเช่นกัน

 

ถึงกระนั้นนักลงทุนต่างชาติยังคงให้ความสนใจในตลาดเวียดนามเป็นอย่างมาก ค่า P/E Forward อยู่ที่ 10 เท่า Martinelli เผยว่า ตลาดหุ้นเวียดนามมีความน่าดึงดูดใจมากกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบกับดัชนี SET Index ของไทย และ Jakarta Composite ของอินโดนีเซีย ที่ซื้อขายกันถึง 15.5 เท่า และ 13.3 เท่า ตามลำดับ

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising