เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา (8 พฤษภาคม) ตามเวลาประเทศไทย เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ศึก F1 สนามที่ 5 ของฤดูกาล ซึ่งเป็นการแข่งขันครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่ไมอามี รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ในรายการไมอามีกรังด์ปรีซ์
โดยกริดออกสตาร์ทเป็น เซร์คิโอ เปเรซ จากเรดบูลล์ ในอันดับที่ 1 ตามด้วย เฟอร์นานโด อลอนโซ จากแอสตัน มาร์ติน อันดับที่ 2 และ คาร์ลอส ไซนซ์ จากเฟอร์รารี ในอันดับที่ 3 ขณะที่ แม็กซ์ แวร์สเตปเพน จากเรดบูลล์ ออกสตาร์ทในอันดับที่ 9
ผลการแข่งขันหลังผ่านไป 16 รอบ ปรากฏว่า แวร์สเตปเพนแซงจากอันดับที่ 9 ขึ้นมาในอันดับที่ 2 ก่อนที่จะแซงขึ้นที่ 1 หลังเปเรซเข้าพิตในรอบที่ 22
ผ่านไป 35 รอบ แวร์สเตปเพนที่ยังไม่เปลี่ยนยาง Hard สามารถทำ Fastest Lap ได้ ต่อด้วย 44 รอบ แวร์สเตปเพนทิ้งห่างเพื่อนร่วมทีมในอันดับที่ 2 ถึง 18 วินาที ก่อนจะเข้าพิตเปลี่ยนเป็นยาง Medium ในรอบต่อมา และโดนเปเรซแซงขึ้นอันดับที่ 1 แทน
รอบที่ 48 แวร์สเตปเพนเข้าทางตรงและแซงขึ้นอันดับที่ 1 ใหม่อีกครั้งได้สำเร็จ ก่อนเข้าสู่ 10 รอบสุดท้ายของการแข่งขัน
จบการแข่งขันครบ 57 รอบ เป็น แม็กซ์ แวร์สเตปเพน ที่คว้าแชมป์ไปครองจากการออกสตาร์ทในอันดับที่ 9 พร้อมรางวัล Driver of the Day และ Fastest Lap ทำคะแนนสะสมนักแข่งเพิ่มได้ 25 แต้ม +1 แต้ม จาก Fastest Lap
ผลการแข่งขันสนามนี้ยังทำให้แวร์สเตปเพนกลายเป็นนักแข่งคนแรกที่คว้าแชมป์จากการออกสตาร์ทในอันดับที่ 9 ต่อจาก นิกิ เลาดา ที่เคยทำไว้เมื่อปี 1984 ที่เฟรนช์กรังด์ปรีซ์
ตามด้วย เซร์คิโอ เปเรซ เพื่อนร่วมทีม ในอันดับที่ 2 และ เฟอร์นานโด อลอนโซ จากแอสตัน มาร์ติน ในอันดับที่ 3
ขณะที่ ลูอิส แฮมิลตัน จากทีมเมอร์เซเดส ออกสตาร์ทในอันดับที่ 13 แซงขึ้นมาจบอันดับที่ 6
ส่วน อเล็กซ์ อัลบอน นักแข่งลูกครึ่งไทย-อังกฤษ จากวิลเลียมส์ ที่ออกสตาร์ท ในอันดับที่ 11 จบการแข่งขันในอันดับที่ 14
สำหรับสนามต่อไป จะไปแข่งขันกันในรายการเอมิเลียโรมินากรังด์ปรีซ์ ประเทศอิตาลี ในวันที่ 19-21 พฤษภาคมนี้