วันนี้ (19 มิถุนายน) ประชาชนมากกว่า 25 ล้านคนในกว่า 10 รัฐของสหรัฐอเมริกา ได้รับการแจ้งเตือนให้เตรียมพร้อมกับมือกับคลื่นความร้อนที่มีแนวโน้มว่าจะพุ่งทำสถิติอีกครั้ง ตั้งแต่รัฐในที่ราบตอนเหนือไปจนถึงภาคตะวันออกเฉียงใต้ คาดอุณหภูมิจะอยู่ที่ช่วงปลาย 90 องศาฟาเรนไฮต์ และอาจพุ่งทะลุ 100 องศาฟาเรนไฮต์ หรือประมาณ 38 องศาเซลเซียสในบางพื้นที่
คลื่นความร้อนที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้นับเป็นระลอกที่ 2 หลังจากที่เพิ่งเกิดคลื่นความร้อนระลอกแรกในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองระลอกเกิดขึ้นในพื้นที่เดียวกัน โดยภายในวันอาทิตย์นี้อุณหภูมิจะสูงถึงสามหลัก ตั้งแต่เมืองลินคอล์น รัฐเนบราสกา ไปจนถึงเมืองฟาร์โก รัฐนอร์ทดาโกตา และคลื่นความร้อนบริเวณที่ราบทางตอนเหนือจะสูงกว่าปกติ 20-25 องศาฟาเรนไฮต์
พยากรณ์อากาศระบุว่า ความร้อนจะลดลงเป็นช่วงสั้นๆ ในเขตเกรตเลกส์และมิดแอตแลนติก ซึ่งขณะนี้ ประชาชนจำนวนมากในหลายรัฐยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากผลกระทบของพายุเมื่อช่วงต้นสัปดาห์
PowerOutage.us รายงานว่า ในช่วงเช้าวันเสาร์ (18 มิถุนายน) ตามเวลาสหรัฐฯ ประชาชนมากกว่า 320,000 คนในหลาย 10 รัฐ ตั้งแต่รัฐวิสคอนซินไปจนถึงจอร์เจีย ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะที่ประชาชนมากกว่า 150,000 คนในนอร์ทแคโรไลนาและเวอร์จิเนียไม่มีไฟฟ้าใช้
ในวันเสาร์ อุณหภูมิจะต่ำกว่าปกติ 10-25 องศาฟาเรนไฮต์ ตั้งแต่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ไปจนถึงเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐเมน แต่อุณหภูมิจะกลับมาพุ่งสูงอย่างรวดเร็วอีกครั้งในต้นสัปดาห์หน้า
โดยรวมแล้ว ประชาชนมากกว่า 240 ล้านคน หรือประมาณ 75% ใน 48 รัฐบนแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ (Lower 48) จะเผชิญกับอากาศร้อนจัด โดยอุณหภูมิจะอยู่ที่ช่วงปลาย 90 องศา หรือสูงกว่านั้น ในอีก 7 วันข้างหน้า
ความร้อนเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการเสียชีวิตจากสภาพอากาศในสหรัฐอเมริกา สภาพอากาศที่ร้อนจัดทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย เช่น ตะคริว อาการอ่อนเพลีย โรคหลอดเลือดสมอง และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมพร้อมรับมือคลื่นความร้อนอาจช่วยปกป้องชีวิตประชาชนได้
ภาพ: Valerie Macon / AFP
อ้างอิง: