×

หุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกขานรับสัญญาณเศรษฐกิจฟื้น พร้อมดันราคาน้ำมันขึ้น ส่วนราคาทองหลุดต่ำกว่า 1,900

28.05.2021
  • LOADING...
หุ้นสหรัฐ

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทของสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคมปิดตลาดปรับตัวในแดนบวก ขานรับตัวเลขจีดีพีไตรมาสแรกที่เพิ่มสูงขึ้น และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง บ่งชี้ถึงสัญญาณฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนแห่ลงทุนในหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

 

โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 141.59 จุด หรือ 0.41% ปิดที่ 34,464.64 จุด, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 4.89 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ 4,200.88 จุด ทว่า ดัชนีแนสแด็ก คอมโพสิต ปรับลดลง 1.72 จุด หรือ 0.01% ปิดที่ 13,736.28 จุด ผลจากจากเทขายหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี

 

ทั้งนี้ ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ความเคลื่อนไหวในตลาดหุ้นไม่ค่อยราบรื่นสักเท่าไรนัก เนื่องจากนักลงทุนต่างรอดูสัญญาณการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งก็ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง โดยจีดีพีไตรมาสแรกที่เพิ่มขึ้นกว่า 6% บวกกับข้อมูลภาคแรงงานที่จำนวนชาวอเมริกันผู้ยื่นรับสวัสดิการคนว่างงานรายใหม่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ เมื่อเดือนมีนาคม 2020 ได้ฟื้นความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน

 

ความเชื่อมั่นในการเติบโตที่แข็งแกร่งยังส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นด้วย โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสงวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 64 เซนต์ ปิดที่ 66.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 59 เซนต์ ปิดที่ 69.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของราคาทองคำกลับขยับต่ำกว่าระดับ 1,900 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยราคาทองคำแท่งปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 1,896.76 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำฟิวเจอร์สลดลง 0.3% มาอยู่ที่ 1,898.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

 

ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน ชี้ให้แนวโน้มของการลดการถือครองทองคำ เพราะข้อมูลบวกทางเศรษฐกิจและภาคแรงงานผลักดันให้นักลงทุนขายสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ

 

ทั้งนี้ นักลงทุนในตลาดกำลังเฝ้ารอรายงานดัชนีราคาจากรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล ที่คำนวณจากรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (Personal Consumption Expenditures) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งดัชนีสำคัญที่บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกม

อ้างอิง:

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising