×

สหรัฐฯ เตรียมสอบสวนการปฏิบัติงานของตำรวจ ต่อเหตุกราดยิงโรงเรียนประถมในเท็กซัส เหตุ จนท. ไม่ลงมือสกัดคนร้ายทันที

30.05.2022
  • LOADING...
เหตุกราดยิง

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เตรียมดำเนินการสอบสวนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อเหตุกราดยิงที่โรงเรียนประถมในเมืองอูวัลเด รัฐเท็กซัส ซึ่งคร่าชีวิตเด็กนักเรียนไป 19 คน และครูอีก 2 คนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

เมื่อวานนี้ (29 พฤษภาคม) กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยว่า การสอบสวนการรับมือกับเหตุวิกฤตนี้มีขึ้นเพื่อพิจารณาการกระทำและการตอบโต้ตามหลักกฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันเกิดเหตุ และเพื่อถอดบทเรียนและแนวปฏิบัติ ที่จะช่วยผู้เผชิญเหตุคนแรกให้สามารถเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่มือปืนเข้ากราดยิงได้

 

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นเนื่องจากประชาชนต่างโกรธแค้น หลังได้รับทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนรีรออยู่บริเวณห้องโถง ไม่เข้าสกัดคนร้ายทันที ในขณะที่เด็กๆ ซึ่งติดอยู่ในที่เกิดเหตุกับมือปืนนั้นพยายามโทรติดต่อ 911 ด้วยความสิ้นหวัง 

 

เมื่อวันศุกร์ (27 พฤษภาคม) เจ้าหน้าที่ยอมรับว่าตำรวจเดินทางมายังโรงเรียนล่าช้าไปกว่า 40 นาที เพราะไม่เชื่อว่าเหตุกราดยิงดำเนินอยู่ในขณะนั้น โดยเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุตัดสินใจรอจนกระทั่งภารโรงนำกุญแจมาให้ เพราะพวกเขาคิดว่าเด็กไม่ได้ตกอยู่ในความเสี่ยง หรือ ‘ไม่มีใครรอดชีวิตแล้ว’

 

ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ได้เดินทางไปยังเมืองอูวัลเด เพื่อพบปะกับครอบครัวของเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ตลอดจนผู้ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ 

 

ส่วนจิล ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ ซึ่งมีอาชีพเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยด้วยนั้น ก็ได้เดินทางประกบคู่สามีไปร่วมในพิธีไว้อาลัย ณ โรงเรียนประถมศึกษาร็อบบ์ โดยทั้งสองได้ปลอบโยน แมนดี กูเทียร์เรซ ครูใหญ่ของโรงเรียน ขณะประชาชนได้มาร่วมวางดอกไม้เพื่อไว้อาลัยแก่ผู้วายชนม์

 

จากนั้นทั้งคู่ก็เข้าร่วมพิธีมิสซาคาทอลิก ณ โบสถ์ Sacred Heart ท่ามกลางกลุ่มผู้ประท้วงที่อยู่ภายนอกโบสถ์ ซึ่งพวกเขาตะโกนออกมาว่า “ช่วยทำอะไรสักอย่างสิ!” และผู้นำสหรัฐฯ ก็ได้ให้สัญญาว่า “ผมจะทำอย่างแน่นอน”

 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ส่งผลให้ประชาชนส่วนหนึ่งออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการควบคุมอาวุธปืน โดยนับตั้งแต่ต้นปี 2022 มานี้ สหรัฐฯ เผชิญกับเหตุกราดยิงไปแล้วมากกว่า 200 ครั้ง

 

รายงานระบุว่า ซัลวาดอร์ รามอส มือปืนวัย 18 ปี ได้ก่อเหตุกราดยิงนานกว่าหนึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรม ณ สถานที่เกิดเหตุ ภายหลังตรวจสอบพบว่าคนร้ายเตรียมกระสุนมาถึง 1,657 นัด และมีซองกระสุนกว่า 60 แม็กในครอบครอง

 

ประชาชนที่มาร่วมไว้อาลัยหลายคนได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว BBC ว่า พวกเขาสนับสนุนให้รัฐออกกฎหมายควบคุมอาวุธปืนที่เข้มงวด

 

เมลิสสา แรนเจล หนึ่งในประชาชนที่มาร่วมไว้อาลัยกล่าวว่า เธอสนับสนุนให้มีการตรวจสอบอายุของผู้ซื้ออาวุธปืน โดยเธอไม่เห็นด้วยที่สหรัฐฯ เปิดช่องให้เด็กอายุ 18 ปีสามารถซื้อปืนได้อย่างอิสระ

 

ประชาชนอีกรายหนึ่งได้สนับสนุนแนวทางดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดยระบุว่า ในขณะที่รัฐบาลกำหนดอายุผู้ที่มีสิทธิซื้อบุหรี่และสุรา ทำไมถึงไม่เลือกที่จะกำหนดอายุของผู้ที่มีสิทธิซื้อปืนด้วย เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นสะเทือนใจชาวเมืองเป็นอย่างมาก

 

เมื่อวันเสาร์ (28 พฤษภาคม) คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการแบนอาวุธจู่โจม (Assault Weapon) ขณะเข้าร่วมพิธีศพของ รูธ วิทฟิลด์ ชายวัย 86 ปีที่ถูกสังหารในเหตุกราดยิงซูเปอร์มาร์เก็ต ณ เมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นมือปืนวัยรุ่นที่เกลียดชังคนผิวดำ

 

“คุณรู้ไหมว่าอาวุธจู่โจมคืออะไร” แฮร์ริสตั้งคำถาม “มันคืออาวุธที่ออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์เดียว นั่นคือการสังหารมนุษย์จำนวนมากอย่างรวดเร็ว อาวุธจู่โจมเป็นอาวุธสงคราม ไม่ควรอยู่ปะปนในสังคมของประชาชนทั่วไป”

 

อย่างไรก็ตามยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่สนับสนุนให้มีการครอบครองอาวุธปืนได้อย่างเสรีต่อไป ซึ่งรวมถึงสมาชิกอาวุโสของพรรครีพับลิกัน โดยเมื่อวันศุกร์ อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในระหว่างการประชุมประจำปีของสมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติว่า ชาวอเมริกันควรได้รับอนุญาตให้ใช้อาวุธปืนป้องกันตนเองจาก ‘ความชั่วร้าย’ ขณะที่ เท็ด ครูซ วุฒิสมาชิกรัฐเท็กซัส กล่าวโจมตีว่า พรรคเดโมแครตและสื่อพยายามใช้เหตุกราดยิงในเมืองอูวัลเดมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อจำกัดสิทธิอันชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญว่าด้วยกฎหมายการครอบครองอาวุธปืน

 

ภาพ: Michael M. Santiago / Getty Images

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising