×

หุ้นเทคโนโลยี สหรัฐฯ ฟื้นตัวต่อเนื่อง 5 สัปดาห์ เป็นแรลลี่ที่นานที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2021 รับข่าวปลดคน-ลดค่าใช้จ่าย

04.02.2023
  • LOADING...
หุ้นเทคสหรัฐ

การปลดพนักงานของบรรดาบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกาที่เป็นกระแสมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แม้จะเป็นข่าวร้ายของพนักงานแต่กลับเป็นข่าวดีของนักลงทุน สะท้อนจากราคาหุ้นกลุ่มเทคที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง 5 สัปดาห์ นับเป็นการแรลลี่ที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2021 โดยสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาจากความคาดหวังว่าบริษัทเทคกำลังเร่งคุมต้นทุนด้วยการปลดพนักงานและลดค่าใช้จ่ายต่างๆ

 

ความเคลื่อนไหวหุ้นกลุ่มเทคสหรัฐฯ ซึ่งสะท้อนจากดัชนี Nasdaq ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 กุมภาพันธ์) ปิดตัวในแดนบวก และเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 ซึ่งเป็นสถิติที่ยาวที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2021 และเป็นเดือนที่ดัชนีถึงจุดสูงสุด โดยดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 15% ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน หลังจากที่ดิ่งลง 33% ในปี 2022 ซึ่งเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดสำหรับดัชนีนับตั้งแต่ปี 2008

 

อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของดัชนีนั้นสวนทางกับผลประกอบการหุ้นกลุ่มเทคที่เพิ่งประกาศออกมาเมื่อปลายสัปดาห์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วรายได้และกำไรล้วนทำให้นักลงทุนและนักวิเคราะห์ผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็น Alphabet, Amazon รวมถึง Apple โดยปัจจัยที่ทำให้ราคาหุ้นกลุ่มเทคปรับตัวขึ้นมาได้นั้นมาจากความคาดหวังจากนักลงทุนที่เชื่อในการดำเนินการ ‘ลดค่าใช้จ่าย’

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

ทั้งนี้ ครั้งสุดท้ายที่หุ้นเทคโนโลยีมีการปรับตัวขึ้นอย่างยาวนานเช่นนี้ คือเมื่อปี 2021 โดยตอนนั้นนักลงทุนต่างเตรียมความพร้อมต้อนรับการเข้าระดมทุนของ Rivian ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยวันแรกที่หุ้น Rivian เข้าซื้อขายนั้น ราคาหุ้นพุ่งถึง 30% และระดมทุนได้มากกว่า 12,000 ล้านดอลลาร์

 

ส่วนการแรลลี่ครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากดีล IPO แต่เป็นเพราะนักลงทุนคาดหวังกับปัจจัยบวกครั้งใหม่ นั่นก็คือแผนการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่บรรดาบริษัทเทคกำลังเร่งมือ รวมไปถึงการเร่งพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และแผนการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก

 

บิ๊กเทครายงานผลประกอบการ ‘ต่ำคาด’

เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา Apple รายงานผลประกอบการซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2016 ส่วน Meta บริษัทแม่ของ Facebook รายงานว่ามีรายรับลดลงเป็นไตรมาสที่สามติดต่อกัน ขณะที่ธุรกิจโฆษณาของ Google นั้นมีรายได้ลดลง และ Amazon ปิดฉากการเติบโตในปีที่อ่อนแอที่สุดในประวัติศาสตร์ 25 ปีในฐานะบริษัทมหาชน

 

แต่ท่ามกลางตัวเลขผลประกอบการที่ปรับตัวลดลง ราคาหุ้นต่างพาเหรดกันเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยราคาหุ้น Apple, Meta, Alphabet และ Amazon ปิดสัปดาห์ในแดนบวกอย่างแข็งแกร่ง เช่นเดียวกับหุ้น Microsoft ที่รายงานผลประกอบการในสัปดาห์ก่อนนั้นตั้งเป้าการเติบโตรายไตรมาสเพียง 3%

 

‘ควบคุมต้นทุน’ คือตัวพลิกเกม

หุ้น Meta ทำผลงานได้ดีที่สุดในกลุ่มในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยราคาหุ้นพุ่งขึ้น 23% ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ดีที่สุดเป็นอันดับสาม ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันราคาหุ้นคือคำประกาศของ Mark Zuckerberg ซีอีโอของบริษัท ในแถลงการณ์ผลประกอบการว่าปี 2023 จะเป็น ‘ปีแห่งประสิทธิภาพ’ และคำสัญญาของ Mark ที่ว่า ‘เรามุ่งเน้นไปที่การเป็นองค์กรที่แข็งแกร่งและว่องไวมากขึ้น’

 

ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤศจิกายน 2022 Meta ประกาศเลิกจ้างงาน 11,000 ตำแหน่ง หรือ 13% ของพนักงานทั้งหมด

 

“นั่นคือตัวเปลี่ยนเกมจริงๆ” Stephanie Link หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนของ Hightower Advisors กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC และเสริมมุมมองว่า “ท้ายที่สุดแล้ว ความคิดเรื่องลดต้นทุนจะเป็นแก่นดีเอ็นเอขององค์กร และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงเชื่อว่า Meta จะไปได้ไกลจริงๆ”

 

อ้างอิงจากแถลงการณ์ของ Meta เมื่อเร็วๆ นี้ Mark ยอมรับว่าเวลากำลังเปลี่ยนแปลง และเขาไม่คิดว่าการเติบโตขององค์กรจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงที่เสนอขายหุ้น IPO ในปี 2012-2021 บริษัทเติบโตระหว่าง 22-58% ต่อปี แต่รายได้ในปี 2022 ลดลง 1% และนักวิเคราะห์คาดว่าจะมีการเติบโตเพียง 5% ในปี 2023

 

Link กล่าวว่า สาเหตุที่หุ้นของ Meta ดีดกลับขึ้นมาครั้งใหญ่หลังจากรายงานผลประกอบการนั้น เป็นเพราะความคาดหวังนั้นต่ำมากและการประเมินมูลค่าก็น่าสนใจมาก โดยหุ้น Meta สูญเสียมูลค่าไปเกือบสองในสามของปีที่แล้ว ซึ่งมากกว่าหุ้นที่มีมูลค่ามหาศาล

 

ผู้นำและการฝ่าฟันวิกฤตเป็นอีกปัจจัยพลิกเกม

ราคาหุ้น Apple ซึ่งร่วงลง 27% ในปีที่แล้ว ดีดกลับขึ้นมา 6.2% ในสัปดาห์นี้ แม้ว่ารายได้จะลดลงมากที่สุดในรอบ 7 ปีก็ตาม ซึ่ง Tim Cook ซีอีโอของ Apple กล่าวว่า ผลประกอบการได้รับผลกระทบจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า ปัญหาการผลิตในจีนที่ส่งผลกระทบต่อ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max และสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจมหภาคโดยรวม

 

Daniel Flax นักวิเคราะห์จาก Neuberger Berman กล่าวกับ CNBC เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า Apple สามารถนำทางตลาดได้ค่อนข้างดี ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากมาก ในขณะที่เรากำลังก้าวผ่านเดือนแรกและไตรมาสแรกของปีอยู่ตอนนี้ เราจะเห็นการกลับมาเติบโตและตลาด (หุ้น) จะเริ่มลดราคาลง เรายังคงชอบ Apple แม้ว่าจะเผชิญกับความท้าทายระดับมหภาคก็ตาม

 

Andy Jassy ซีอีโอของ Amazon ซึ่งรับตำแหน่งต่อจาก Jeff Bezos ในช่วงกลางปี 2021 ได้ให้ข้อมูลนักวิเคราะห์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (2 กุมภาพันธ์) ว่าหลังจากการรายงานผลประกอบการที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ ในเดือนมกราคม Amazon เริ่มปลดพนักงาน ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้มีการลดพนักงานมากกว่า 18,000 ตำแหน่ง

 

โดยในการให้ข้อมูลนักวิเคราะห์ Jassy กล่าวว่า การจัดการค่าใช้จ่ายได้กลายเป็นเรื่องใหญ่สำหรับ Amazon ซึ่งก่อนหน้านี้ธุรกิจได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ของโควิด โดย Amazon ยอมรับในเวลาต่อมาว่าได้จ้างคนจำนวนมากเกินไปในช่วงเวลาดังกล่าว

 

“เรากำลังทำงานอย่างหนักเพื่อปรับปรุงค่าใช้จ่ายของเรา” Jassy กล่าวกับนักวิเคราะห์

 

ในส่วนของ Alphabet นั้นอยู่ในโหมดของการลดขนาดองค์กร โดยบริษัทประกาศเมื่อเดือนที่แล้วว่าจะปลดพนักงาน 12,000 ตำแหน่ง หลังจากรายได้ลดลงในไตรมาสที่ 4/2022 รวมถึงยอดขายที่น่าผิดหวังของ YouTube ที่มีรายได้จากเม็ดเงินโฆษณา และความอ่อนแอในแผนกคลาวด์เนื่องจากภาคธุรกิจรัดเข็มขัด

 

Ruth Porat หัวหน้าฝ่ายการเงินของ Alphabet กล่าวกับ Deirdre Bosa ของ CNBC ว่าบริษัทกำลังชะลอการจ้างงานอย่างมีความหมาย เพื่อพยายามสร้างการเติบโตที่มีกำไรในระยะยาว

 

หุ้น Alphabet สิ้นสุดสัปดาห์เพิ่มขึ้น 5.4% แม้ว่าจะมีแรงขายออกมาบ้างหลังจากการรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวัง

 

ทั้งนี้ หากดัชนี Nasdaq ยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่หก นั้นก็จะเท่ากับการปรับตัวขึ้นที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2020 ก่อนการแพร่ระบาดของโควิดจะเข้าสู่สหรัฐอเมริกา

 

และตอนนี้นักลงทุนจะหันไปหารายงานรายได้จากบริษัทเทคขนาดเล็ก ที่คาดว่าจะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์หน้า เช่น Pinterest, Robinhood, Affirm และ Cloudflare

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising