ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ประกาศว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ระงับสนธิสัญญานิวเคลียร์พิสัยกลางที่ทำกับรัสเซียในปี 1987 แล้ว โดยเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันนี้ (2 ก.พ.) เพื่อตอบโต้รัสเซียกรณีละเมิดข้อตกลงโดยการทำให้ประชาชนอเมริกันและยุโรปหลายล้านคนตกอยู่ในความเสี่ยงของอาวุธทำลายล้าง
ปอมเปโอระบุว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รัสเซียได้ละเมิดเงื่อนไขในสนธิสัญญานิวเคลียร์พิสัยกลาง ซึ่งทำให้ประชาชนหลายล้านคนในสหรัฐฯ และยุโรปเผชิญกับความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น
“มันเป็นหน้าที่ของเราที่จะตอบโต้ด้วยวิธีการที่เหมาะสม” รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าว พร้อมเสริมด้วยว่า สหรัฐฯ ให้เวลามากพอสำหรับรัสเซียในการตัดสินใจกลับมาปฏิบัติตามสนธิสัญญา
ปอมเปโอระบุว่า สหรัฐฯ ได้กำหนดกรอบเวลาให้รัสเซียกลับมาทำตามข้อตกลงภายใน 180 วัน มิเช่นนั้นสหรัฐฯ จะถอนตัวจากสนธิสัญญาดังกล่าวอย่างเต็มตัว
การประกาศระงับข้อตกลงของสหรัฐฯ ได้จุดกระแสวิตกกังวลว่าจะเกิดการแข่งขันสะสมอาวุธระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียอีกครั้ง นอกจากนี้ยังทำให้ชาติพันธมิตรในยุโรปต้องยกระดับการป้องกันภัยคุกคามมากขึ้น
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุในแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า “สหรัฐฯ ได้ยึดมั่นในสนธิสัญญานิวเคลียร์พิสัยกลางมานานกว่า 30 ปี แต่เราจะไม่ถูกควบคุมด้วยเงื่อนไขของข้อตกลงฉบับนี้อีกต่อไป ในขณะที่รัสเซียได้กระทำผิด โดยละเมิดข้อตกลงตั้งแต่ปี 2014
“เราไม่อาจเป็นประเทศเดียวในโลกที่มีข้อผูกมัดกับสนธิสัญญาเพียงฝ่ายเดียว รวมถึงข้อตกลงอื่นๆ ด้วย” ทรัมป์กล่าว
ด้านองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ได้ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลถึงภัยคุกคามของรัสเซียที่มีต่อความมั่นคงในภูมิภาคยูโร-แอตแลนติก พร้อมแสดงจุดยืนสนับสนุนการตัดสินใจของสหรัฐฯ และเรียกร้องให้รัสเซียกลับมาปฏิบัติตามสนธิสัญญาภายใน 6 เดือน
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: