×

เกาะติดเลือกตั้งสหรัฐฯ 2020 ทรัมป์ หรือ ไบเดน ใครจะคว้าเก้าอี้ประธานาธิบดี

03.11.2020
  • LOADING...
US election 2020

 


 

*เนื่องจากมีการประกาศผู้ชนะการเลือกตั้งแล้ว ทางทีมงานจึงได้ยุติการรายงานข่าวบนเพจเกาะติดสถานการณ์นี้ โดยหลังจากนี้ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวอัปเดตเกี่ยวกับการเลือกตั้งอย่างต่อเนื่องได้ที่หมวดข่าว (News) หรืออ่านบทความเจาะลึก (In-Depth) และอื่นๆ ในเว็บไซต์พิเศษเลือกตั้งสหรัฐฯ 2020 ได้ต่อไป https://thestandard.co/us-election-2020/

 


 

8 พฤศจิกายน 2020

 

09.16 น.

โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 46 ขึ้นเวทีประกาศชัยชนะพร้อมกับ คามาลา แฮร์ริส ว่าที่รองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ ที่เมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ เมื่อค่ำวันที่ 7 พฤศจิกายน ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับช่วงเช้าวันที่ 8 พฤศจิกายน ตามเวลาประเทศไทย

 

ไบเดนให้คำมั่นว่าจะเป็นประธานาธิบดีที่มุ่งสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่แบ่งแยกรัฐสีแดงหรือสีน้ำเงิน และจะทำหน้าที่ด้วยหัวใจ พร้อมเรียกร้องให้เปิดโอกาสสำหรับแต่ละฝ่ายในการหันมามองและรับฟังซึ่งกันและกัน และหยุดปฏิบัติต่ออีกฝ่ายในฐานะศัตรู ขณะที่ยืนยันว่า เขาจะทำงานหนักเพื่อประชาชนที่ไม่โหวตเลือกเขาให้เหมือนกับประชาชนที่โหวตเลือกเขา

 

ไบเดนยังกล่าวว่า ภารกิจแรกที่เขาจะทำหลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคือ การควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งในวันที่ 9 พฤศจิกายน เขาจะประกาศชื่อคณะนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำและผู้เชี่ยวชาญเป็นที่ปรึกษา เพื่อช่วยนำแผนรับมือโควิด-19 ของเขากับแฮร์ริสไปแปลงเป็นพิมพ์เขียวสำหรับดำเนินการ ซึ่งจะเริ่มต้นหลังวันสาบานตนรับตำแหน่งในเดือนมกราคมปีหน้า

 

ขณะที่แฮร์ริสชี้ว่า ความก้าวหน้าของประชาธิปไตยที่เกิดขึ้นเป็นเพราะประชาชนมีพลังที่จะสร้างอนาคตที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นไปตามสโลแกนหาเสียงของไบเดนที่ว่า ‘Build Back Better’ หรือ ‘สร้างใหม่ให้ดีกว่าเก่า’ ขณะเดียวกันเธอระบุว่า แม้เธอจะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้ก้าวขึ้นเป็นรองประธานาธิบดี แต่ยืนยันว่านี่จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของประเทศอย่างแน่นอน

 

ไบเดน-แฮร์ริส ขึ้นเวทีประกาศชัยชนะเลือกตั้ง ให้คำมั่นสร้างความเป็นหนึ่งเดียว ทำหน้าที่เพื่อชาวอเมริกันทุกคน

 


 

09.00 น.

สถานการณ์การนับคะแนนจนถึงเวลา 09.00 น. วันนี้ โจ ไบเดน มีคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral Vote) เพิ่มเป็น 279 เสียง โดยชนะเพิ่มในรัฐเนวาดาที่รอการนับคะแนนหลายวัน โดยรัฐนี้มี Electoral Vote 6 เสียง และผู้สมัครเดโมแครตชนะ 3 สมัยต่อเนื่องก่อนหน้านี้

 

 


 

00.02 น. จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ทวีตข้อความแสดงความยินดีกับ โจ ไบเดน และ คามาลา แฮร์ริส โดยระบุว่า ทั้งสองประเทศเป็นมิตรที่แน่นแฟ้น เป็นพาร์ตเนอร์ และเป็นพันธมิตร พร้อมรอคอยที่จะร่วมงานกัน

 

justin trudeau

 


 

7 พฤศจิกายน 2020

 

23.50 น.

ตามเวลาประเทศไทย บรรยากาศด้านนอกทำเนียบขาว ประชาชนจำนวนมากออกมาร่วมเฉลิมฉลอง หลังทราบผลว่าโจ ไบเดน กวาดคะแนนเสียงเกิน 270 เสียง และเตรียมขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 46

 

 

 


 

  • ชมคลิป: โจ ไบเดน คว้าชัยเลือกตั้ง เตรียมนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่

 

 

 


 

23.45 น.

ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการจาก AFP หลัง โจ ไบเดน กวาดคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral Vote) เกิน 270 เสียง โดยรัฐที่ทำให้เขาทำคะแนนทิ้งขาดทรัมป์คือรัฐเพนซิลเวเนีย หลังจากการนับคะแนนในหลายรัฐสวิงสเตทดำเนินไปอย่างดุเดือดหลายวัน นอกจากนี้ไบเดนยังสร้างสถิติใหม่ กวาดคะแนนเสียง Popular Vote เกิน 73.7 ล้านเสียง แซงหน้าสถิติเดิมของ บารัก โอบามา (69.49 ล้านเสียง)

 

us election final score biden win

 


 

23.00 น.

โจ ไบเดน คว้าชัยชนะในรัฐเพนซิลเวเนียที่มี 20 เสียง ทำให้เขากวาดคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral Vote) เกิน 270 เสียง ส่งผลให้เขาชนะการเลือกตั้ง และเตรียมก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนที่ 46

 

จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ไบเดนกลับสู่เส้นทางทำเนียบขาวคือ การพลิกกลับมาชนะ โดนัลด์ ทรัมป์ ในมลรัฐสวิงสเตท หรือ Battleground State ที่สำคัญในแถบมิดเวสต์ ทั้งมิชิแกนและวิสคอนซิน ซึ่งเป็นสองรัฐปราการสีน้ำเงินที่เดโมแครตเสียให้ทรัมป์ในการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีก่อน

 

ชัยชนะของไบเดนยังทำให้ คามาลา แฮร์ริส สร้างประวัติศาสตร์ เตรียมก้าวขึ้นเป็นรองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ ด้วย

 

ไบเดนชนะเลือกตั้ง

 


 

22.36 น.

โดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตเมื่อเวลา 10.36 น. วันนี้ ตามเวลาท้องถิ่นว่า “เขาชนะเลือกตั้งครั้งนี้ มากด้วย!” ซึ่งทวิตเตอร์ได้ติดข้อความแจ้งผู้ใช้ด้านล่างว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ยังไม่ได้ประกาศผลอย่างเป็นทางการ ณ ตอนที่ทรัมป์ทวีต

 

 

 


 

20.14 น.

ผลการนับคะแนนรัฐสำคัญ ณ เวลา 08.24 น. วันที่ 7 พฤศจิกายน (ตามเวลาเขตตะวันออกสหรัฐฯ)​ อ้างอิงจาก NBC

 

– จอร์เจีย (16)​ นับแล้ว 99% ไบเดนนำ 7,248 คะแนน
– เนวาดา (6) นับแล้ว 93% ไบเดนนำ 22,657 คะแนน
– เพนซิลเวเนีย (20) นับแล้ว 96% ไบเดนนำ 28,833 คะแนน
– แอริโซนา (11) นับแล้ว 97% ไบเดนนำ 29,861 คะแนน

 

joe biden

 

 

 

 


 

13.35 น.

เจ้าหน้าที่เลือกตั้งประกาศนับคะแนนใหม่ในรัฐจอร์เจียเมื่อวานนี้ (6 พฤศจิกายน)​ หลังสองผู้สมัครได้คะแนนสูสีห่างกันไม่มากจนยังไม่สามารถประกาศผู้ชนะได้ (Too close to call)​ โดย ณ เวลา 04.30 น. ตามเวลาเขตตะวันออก โจ ไบเดน นำโดนัลด์ ทรัมป์ เพียง 1,579 คะแนน ซึ่งตามกฎหมายเลือกตั้งแล้ว หากสองผู้สมัครมีคะแนนห่างกันไม่ถึง 1% สามารถประกาศนับคะแนนใหม่ได้

 

เลือกตั้งสหรัฐ

 


 

13.13 น.

ทางการรัฐแอริโซนาเผยว่ายังมีบัตรลงคะแนนที่ยังไม่ได้นับราว 2.5-2.7 แสนใบ คาดว่าจะนับต่อเนื่องไปจนถึงสุดสัปดาห์นี้

 

ผลล่าสุด โจ ไบเดน จากเดโมแครต นำ โดนัลด์ ทรัมป์ จากรีพับลิกัน 49.7% ต่อ 48.8%

 


 

11.24 น

สื่อต่างประเทศรายงานว่า ซามูเอล อลิโต ผู้พิพากษาศาลสูงสุดสหรัฐฯ มีคำสั่งให้หลายเขตในรัฐเพนซิลเวเนีย เก็บและแยกนับบัตรลงคะแนนที่ส่งทางไปรษณีย์ถึงหน่วยเลือกตั้งหลังเวลา 20.00 น. ของวันเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน

 

คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังตัวแทนพรรครีพับลิกันในเพนซิลเวเนียได้ยื่นคำร้องต่อศาลสูงสุด เพื่อให้หน่วยนับคะแนนไม่นับบัตรลงคะแนนที่ส่งไปถึงหน่วยเลือกตั้งล่าช้า แต่ศาลไม่รับคำร้องกรณีดังกล่าว

 

ผลนับคะแนนล่าสุด โจ ไบเดน ผู้สมัครจากเดโมแครต เป็นฝ่ายนำประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครของรีพับลิกัน อยู่ที่ 49.6 ต่อ 49.2% โดยมีจำนวนโหวตมากกว่าราว 27,000 คะแนน หากไบเดนชนะในรัฐนี้ จะทำให้เขาชนะการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างเด็ดขาด

 

ซามูเอล อลิโต ผู้พิพากษาศาลสูงสุดสหรัฐฯ มีคำสั่งให้หลายเขตในรัฐเพนซิลเวเนีย เก็บและแยกนับบัตรลงคะแนนที่ส่งทางไปรษณีย์ถึงหน่วยเลือกตั้งหลังเวลา 20.00 น. ของวันเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน

 


 

6 พฤศจิกายน 2020

 

23.57 น.

โจ ไบเดน ได้คะแนนเสียงนำ โดนัลด์ ทรัมป์ ห่างขึ้นในการนับคะแนนที่รัฐเนวาดา จากราว 10,000 คะแนน เป็น 22,000 คะแนน หรือห่าง 1.7 จุด โดยรัฐนี้มี Electoral Vote 6 คะแนน

 

ไบเดนยังรอลุ้นการประกาศผลนับคะแนนในรัฐเพนซิลเวเนีย หากชนะจะได้ Electoral Vote เกิน 270 เสียง และชนะการเลือกตั้งทันที

 

โดยเวลานี้ไบเดนมีอยู่ในมือ 253 เสียง หากไม่นับแอริโซนาที่สื่อสำนักใหญ่หลายแห่งยังไม่ประกาศผู้ชนะ

 

 

 

21.40 น.

CNN รายงานว่า องค์การบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐฯ (FAA) ได้กำหนดเขตห้ามบินชั่วคราวเหนือบ้านพักของ โจ ไบเดน ในเมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ ตั้งแต่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (4 พฤศจิกายน) หรือหลังวันเลือกตั้ง โดยข้อความแจ้งนักบินของ FAA ได้แสดงเขตห้ามบินในรัศมี 1 ไมล์รอบๆ บ้านของไบเดน ซึ่งจะมีผลบังคับไปจนถึงเช้าวันพุธหน้า

 

นอกจากบ้านของไบเดนแล้ว FAA ยังกำหนดเขตห้ามบินชั่วคราวเหนือเชสเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งเวทีสำหรับการปราศรัยและประกาศชัยชนะของไบเดน หากเขาชนะการเลือกตั้ง

 

นอกจากนี้ CNN ยังรายงานว่า ทางการยังส่งเจ้าหน้าที่ Secret Service หน่วยอารักขาประธานาธิบดีและครอบครัวไปยังเมืองวิลมิงตันเพิ่มมากขึ้นในช่วงนี้ด้วย

 

เลือกตั้งสหรัฐ

 


 

20.52 น.

โจ ไบเดน พลิกนำ โดนัลด์ ทรัมป์ ในรัฐเพนซิลเวเนีย จำนวน 5,587 คะแนน จากการรายงานของ CNN ขณะที่การนับคะแนนช่วงสุดท้ายยังดำเนินต่อไป หากรัฐนี้ไบเดนชนะ จะทำให้เขามีคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้งเกิน 270 เสียง ชนะเลือกตั้งสหรัฐฯ ทันที

 

โจ ไบเดน พลิกนำ โดนัลด์ ทรัมป์ ในรัฐเพนซิลเวเนีย จำนวน 5,587 คะแนน

 


 

17.20 น. 

ไบเดนพลิกแซงทรัมป์ในรัฐจอร์เจีย หากชนะรัฐนี้จะทำให้ไบเดนได้จำนวนเสียงคณะผู้เลือกตั้งเพิ่มอีก 16 เสียง เป็น 269 เสียง ซึ่งขาดอีกเพียงเสียงเดียวจะถึงเป้าหมาย 270 เพื่อชนะการเลือกตั้ง โดยเวลานี้ไบเดนมีอยู่ในมือ 253 เสียง หากยังไม่นับรวมแอริโซนาที่เวลานี้กลายเป็นรัฐที่กลับมาขับเคี่ยวสูสี หรือยังคาดคะเนและประกาศผู้ชนะไม่ได้ (Too close to call)

 

ณ เวลา 05.00 น. เช้านี้ตามเวลาสหรัฐฯ ไบเดน นำ ทรัมป์ 917 คะแนน

 
 

 


12.12 น.

ณ เวลาเที่ยงคืน วันที่ 5 พฤศจิกายน ตามเวลาสหรัฐฯ ไบเดนได้คะแนนโหวตตีตื้นไล่ตามทรัมป์ เหลือห่างเพียง 1,805 คะแนนในรัฐจอร์เจีย และ 23,953 คะแนนในรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งถือว่ากระชั้นมากจนยังไม่สามารถคาดคะเนและประกาศผู้ชนะได้ (Projection) สำหรับทรัมป์แล้ว เขาต้องชนะในสองรัฐนี้ให้ได้ เพื่อเป้าหมายคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral Vote) ให้ถึง 270 เสียงในการรักษาตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ขณะที่รัฐนอร์ทแคโรไลนาและอะแลสกายังรอการนับคะแนนต่อไป โดยเพนซิลเวเนียเหลือบัตรให้นับราว 5 แสนใบ ขณะที่จอร์เจียเหลืออีกราว 15,000 ใบ

 

 


 

09.08 น.

สรุปสถานการณ์การนับคะแนนในรัฐสำคัญที่ทรัมป์-ไบเดน ขับเคี่ยวกันอยู่ (อัปเดต ณ เวลา 08.00 น. วันที่ 6 พฤศจิกายน)

 

  • เพนซิลเวเนีย (20) นับแล้ว 94% ทรัมป์นำ 63,725 คะแนน เหลือราว 550,000 ใบ
  • จอร์เจีย (16) นับแล้ว 99% ทรัมป์นำ 3,486 คะแนน เหลือราว 19,000 ใบ
  • เนวาดา (6) นับแล้ว 89% ไบเดนนำ 11,438 คะแนน เหลือราว 63,000 ใบ
  • แอริโซนา (11) นับแล้ว 87% ไบเดนนำ 56,547 คะแนน เหลือราว 458,000 ใบ

 

หมายเหตุ: รัฐแอริโซนา สื่อบางสำนักยกไบเดนเป็นผู้ชนะไปแล้ว แต่บัตรชุดใหม่ที่กำลังนับอยู่ ทรัมป์ได้โมเมนตัมเพิ่มขึ้น ซึ่งหากไบเดนรวมคะแนนเสียง Electoral Vote ในรัฐนี้ที่มีอยู่ 11 เสียง จะทำให้เขามีคะแนนรวม 264 เสียง แต่ถ้าไม่รวมรัฐนี้ จะยังมีอยู่ 253 เสียง

 


 

06.30 น.

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แถลงจากทำเนียบขาว เรียกร้องให้หยุดนับคะแนนในบางรัฐที่กำลังนับอยู่ เขาอ้างโดยปราศจากหลักฐานว่า การนับคะแนนบัตรเลือกตั้งที่หย่อนอย่างถูกกฎหมายจะทำให้เขาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี นอกจากนี้ทรัมป์ยังอ้างว่า เขากำลังถูกปลดจากตำแหน่งประธานาธิบดีด้วยการฉ้อโกง

 

“หากคุณนับคะแนนโหวตที่ถูกกฎหมาย ผมจะชนะอย่างง่ายดาย หากคุณนับคะแนนโหวตที่ผิดกฎหมาย พวกเขาสามารถขโมยการเลือกตั้งไปจากเราได้” ทรัมป์กล่าว

 

 


 

06.15 น.

โจ ไบเดน ทวีตข้อความว่า “ประชาชนจะไม่นิ่งเฉย ถูกรังแก หรือยอมจำนน ทุกคะแนนเสียงจะต้องนับ”

 

โดยก่อนหน้านั้นราว 1 ชั่วโมง ไบเดนขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบและอดทน ในขณะที่กระบวนการนับคะแนนยังดำเนินอยู่

 

 


 

00.20 น.

ผู้พิพากษารัฐเพนซิลเวเนียอนุญาตให้ทีมแคมเปญของทรัมป์เข้าสังเกตการณ์การนับคะแนนอย่างใกล้ชิด (ในระยะ 6 ฟุต)​ ตามคำขอ หลังมีกฎเกณฑ์ก่อนหน้านี้ให้ผู้สังเกตการณ์ยืนห่างออกไปตามมาตรการป้องกันการแพร่โควิด-19 แต่กำหนดให้ต้องสวมหน้ากากและรักษาระยะห่างกับคนอื่น

 

โดยช่วงเช้าวันเดียวกันตามเวลาสหรัฐฯ ทรัมป์ทวีตข้อความสั้นๆ ว่า “ชัยชนะทางกฎหมายครั้งใหญ่ในเพนซิลเวเนีย” แต่เขาไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมแต่อย่างใด

 

 


 

5 พฤศจิกายน 2020

 

21.12 น.

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความสั้นๆ ว่า “หยุดนับคะแนน”

 

โดยสหรัฐฯ ยังคงรอผลการนับคะแนนในรัฐสวิงสเตทอย่างเพนซิลเวเนีย ซึ่งเวลานี้นับไปได้ 89% และทรัมป์ยังนำโจ ไบเดนอยู่ แต่ระยะห่างลดน้อยลงเรื่อยๆ

 

 


20.26 น.

ที่สหรัฐฯ เข้าสู่ช่วงเช้าวันที่ 5 พฤศจิกายน โดยเรายังรอผลการนับคะแนนในรัฐสำคัญอย่างเพนซิลเวเนีย ซึ่งคาดว่าอาจจะนับเสร็จในวันพรุ่งนี้ (6 พฤศจิกายน) เนื่องจากต้องรอบัตรลงคะแนนที่ส่งทางไปรษณีย์ภายในระยะเวลา 3 วันตามที่กฎหมายกำหนด โดยสถานการณ์ล่าสุด นับไปแล้ว 89% ทรัมป์ยังนำไบเดนอยู่ 3 จุด

 

นอกจากเพนซิลเวเนียแล้ว รัฐเนวาดาก็มีกำหนดนับคะแนนต่อในวันนี้ตามเวลาสหรัฐฯ เช่นกัน โดย ณ เวลานี้ นับไปแล้ว 75% ไบเดนนำทรัมป์อยู่ประมาณ 1 จุด โดยรัฐนี้มีคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral Vote) 6 คน ซึ่งหากไบเดนชนะ จะทำให้เขาได้คะแนนเสียงถึง 270 เสียง และชนะการเลือกตั้งทันที

 


 

19.00 น.

ชาวอเมริกันในหลายเมืองออกมาเดินขบวนประท้วงตามถนน พร้อมถือป้ายข้อความ ‘Count Every Vote’ เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่นับคะแนนบัตรเลือกตั้งทุกใบ หลังทรัมป์พยายามยื่นฟ้องร้องต่อศาล เพื่อขอให้ระงับการนับคะแนนในหลายรัฐ รวมถึงรัฐสวิงสเตทอย่าง มิชิแกน เพนซิลเวเนีย และจอร์เจีย

 

ที่นิวยอร์ก ผู้ประท้วงหลายร้อยคนรวมตัวในย่านแมนฮัตตัน พร้อมตะโกนให้นับคะแนนเลือกตั้งทั้งหมด ก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลาย และเกิดการปะทะกับตำรวจ

 

เช่นเดียวกับที่เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน และเมืองมินนิแอโปลิส รัฐมินนิโซตา เหตุประท้วงบานปลายจนเกิดจลาจลและการปะทะกับตำรวจ จนมีผู้ถูกจับกุมหลายคน

 

นอกจากกลุ่มต่อต้านทรัมป์แล้ว กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ในหลายเมืองก็ออกมารวมตัวกดดันการนับคะแนน และเรียกร้องให้มีการหยุดนับคะแนนในบางหน่วยนับคะแนน เช่นที่เมืองฟินิกซ์ รัฐแอริโซนา และดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน

 

 


16.00 น.

 

 


09.30 น.

โจ ไบเดน ทวีตข้อความผ่านบัญชีทวิตเตอร์ส่วนตัวระบุ “ผมมั่นใจว่าเราจะได้รับชัยชนะ แต่นี่จะไม่ใช่แค่ชัยชนะของผมหรือชัยชนะของเราแค่เพียงฝ่ายเดียว แต่นี่จะเป็นชัยชนะเพื่อคนอเมริกัน เพื่อประชาธิปไตยของพวกเรา และเพื่อสหรัฐอเมริกา”

 

 


 

09.11 น.
ผลการนับคะแนนในรัฐจอร์เจีย อีกหนึ่งรัฐสวิงสเตทที่มีคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้ง 16 เสียง ล่าสุดระยะห่างระหว่างทรัมป์กับไบเดนลดลงเหลือไม่ถึง 40,000 คะแนน ขณะที่ยังเหลือบัตรที่ต้องนับอีกกว่า 122,000 ใบ รัฐนี้เป็นอีกรัฐที่ไบเดนมีลุ้นพลิกแซงกลับมานำทรัมป์ หากชนะจะทำให้คะแนนเสียงรวมของไบเดนเกิน 270 เสียง ส่งผลให้ชนะการเลือกตั้งทันที

 

08.30 น.
ประชาชนในฟิลาเดลเฟียออกมาประท้วงเรียกร้องให้ทางการเร่งนับคะแนนเสียงบัตรเลือกตั้งทุกใบให้แล้วเสร็จ โดยรัฐเพนซิลเวเนียยังไม่ได้ประกาศผู้ชนะ และยังต้องรอนับบัตรลงคะแนนที่ส่งมาถึงหน่วยเลือกตั้งหลังวันเลือกตั้ง ขณะที่ผลโหวตของรัฐนี้มีความสำคัญต่อการชี้ขาดผู้ชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ล่าสุดทรัมป์ยังนำอยู่ แต่ระยะห่างหดแคบลงเรื่อยๆ

 

 


 

07.00 น.

โจ ไบเดน ยืนยันว่าจะยังไม่กล่าวอ้างชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่เชื่อมั่นว่าตนจะชนะการเลือกตั้งเมื่อการนับคะแนนในแต่ละรัฐแล้วเสร็จ

 


 

ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการเวลา 06.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

 

โจ ไบเดน กวาดคะแนนเสียงนำหลังคว้าชัยในวิสคอนซิน ขณะที่ทีมหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมยื่นเรื่องขอให้รัฐวิสคอนซินนับคะแนนบัตรเลือกตั้งใหม่ เนื่องจากทรัมป์เป็นฝ่ายนำในรัฐดังกล่าวเกือบตลอดในวันเลือกตั้ง แต่การนับคะแนนที่ดำเนินมาข้ามคืน และส่วนใหญ่เป็นบัตรที่ส่งทางไปรษณีย์ ทำให้ไบเดนพลิกกลับมานำทรัมป์ในช่วงท้าย ซึ่งทรัมป์กล่าวหาว่าอาจมีการทุจริตเลือกตั้ง

 

 


 

ไบเดนชนะมิชิแกน

 

05.00 น. 

ไบเดนพลิกชนะมิชิแกน ลุ้นชนะเลือกตั้งประธานาธิบดี

 

รัฐมิชิแกนเป็นสีน้ำเงิน! หลังพลเมืองในรัฐส่วนใหญ่เทคะแนนเลือก โจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดี อย่างไรก็ตาม รัฐนี้ต้องลุ้นผลกันนานข้ามคืน เนื่องจากฐานเสียงของเดโมแครตส่วนใหญ่ใช้วิธีการโหวตผ่านทางไปรษณีย์ ซึ่งหน่วยเลือกตั้งเริ่มนับคะแนนจากบัตรลงคะแนนเหล่านี้ในเช้าวันที่ 4 พฤศจิกายน ตามเวลาท้องถิ่น หรือหลังวันเลือกตั้ง ขณะที่ก่อนหน้านี้ทรัมป์มีคะแนนนำไบเดนมาตลอด

 

มิชิแกนถือเป็นอีกหนึ่งรัฐสวิงสเตท หรือ Battleground State ที่เดโมแครตเคยเสียให้ทรัมป์ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2016 ดังนั้นไบเดนจึงหมายมั่นที่จะชิงกลับคืนมาเพื่อโอกาสในการลุ้นชนะเลือกตั้งประธานาธิบดี

 

การคว้าชัยในรัฐนี้ทำให้ไบเดนได้คะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral Votes) เพิ่มอีก 16 เสียง ซึ่งอาจมากพอที่จะทำให้ไบเดนไปถึงเป้าหมาย 270 เสียง ขณะที่เดโมแครตยังรอลุ้นผลการนับคะแนนในเนวาดาที่มี 6 เสียงโดยเวลานี้ไบเดนมีในมือแล้ว 264 เสียง

 


 

ไบเดนชนะวิสคอนซิน

 

03.00 น. 

ไบเดนพลิกชนะวิสคอนซิน รัฐสำคัญ สู่เป้าหมาย 270 เสียง

 

เป็นอีกรัฐที่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดสมกับเป็น Battleground State โดยที่การนับคะแนนในวันเลือกตั้ง (3 พฤศจิกายน) เป็น โดนัลด์ ทรัมป์ จากรีพับลิกัน ที่นำหน้า โจ ไบเดน จากเดโมแครต ในรัฐวิสคอนซินมาตลอด แต่หลังจากที่เริ่มนับคะแนนบัตรเลือกตั้งที่ส่งทางไปรษณีย์ตั้งแต่เช้าวันนี้ (4 พฤศจิกายน) ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ ปรากฏว่า ไบเดนได้คะแนนเสียงตีตื้นขึ้นจนกระทั่งแซงนำทรัมป์ได้สำเร็จ ก่อนจะเข้าป้ายคว้าชัยชนะในรัฐสวิงสเตทสำคัญที่มีคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral Votes) 10 เสียง

 

การพลิกนำจากคะแนนโหวตที่ส่งทางไปรษณีย์ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจนัก เพราะนักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้แล้วว่า ฐานเสียงของไบเดนส่วนใหญ่จะใช้วิธีโหวตทางไปรษณีย์เป็นหลัก เนื่องจากไบเดนรณรงค์ให้พลเมืองใช้วิธีนี้ เพื่อควบคุมและป้องกันการระบาดของโควิด-19

 

การคว้าชัยชนะในรัฐนี้เพิ่มโอกาสให้ไบเดนกวาดคะแนน Electoral Votes ถึง 270 เสียง โดยเวลานี้ยังขาดเนวาดาและมิชิแกน ที่ตอนนี้เดโมแครต นำอยู่ แต่คาดว่า การนับคะแนนในเนวาดาจะดำเนินต่อในเช้าวันพฤหัสบดีที่สหรัฐฯ ทำให้ไบเดนและเดโมแครตยังต้องรอลุ้นผลกันต่อไป

 


 

00.00 น.

รัฐเพนซิลเวเนียนับคะแนนบัตรเลือกตั้งที่ส่งมาทางไปรษณีย์แล้วเกือบครึ่งหนึ่ง แต่คาดว่าจะประกาศผลได้ในช่วงเย็นวันพฤหัสบดี (5 พฤศจิกายน)​ ตามเวลาท้องถิ่น เนื่องจากยังต้องรอบัตรที่ส่งมาถึงหลังวันเลือกตั้ง โดยบัตรเหล่านั้นต้องประทับตราไปรษณีย์ไม่เกินวันที่ 3 พฤศจิกายน โดยกฎหมายรัฐนี้กำหนดให้ขยายเวลานับคะแนนได้ 3 วัน ขณะที่ไบเดนและทรัมป์ต่างแย่งชิงคะแนนเสียงคณะเลือกตั้ง (Electoral Votes)​ ที่มีถึง 20 เสียง

 



00.51 น.

ทีมหาเสียงของ โดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมยื่นเรื่องขอให้รัฐวิสคอนซินนับคะแนนบัตรเลือกตั้งใหม่ โดยทรัมป์เป็นฝ่ายนำในรัฐดังกล่าวเกือบตลอดในวันเลือกตั้ง แต่การนับคะแนนดำเนินข้ามคืน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบัตรที่ส่งทางไปรษณีย์ โดยไบเดนพลิก กลับมานำทรัมป์ในช่วงท้าย ซึ่งทรัมป์กล่าวหาว่าอาจมีการทุจริตเลือกตั้ง

 

เลือกตั้งสหรัฐ

 


 

4 พฤศจิกายน 2020

 

19.47 น.

เหลืออีกไม่กี่รัฐที่ยังอยู่ระหว่างนับคะแนนช่วงสุดท้าย เราก็จะได้ทราบกันแล้วว่า โดนัลด์ ทรัมป์ หรือโจ ไบเดน จะได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใน 4 ปีข้างหน้านี้ ซึ่งรัฐที่ยังนับคะแนนไม่เสร็จส่วนใหญ่เป็นรัฐสวิงสเตทที่คาดการณ์ได้ยากว่าจะเลือกใคร โดยเฉพาะเพนซิลเวเนียที่นับไปเพียง 64% ซึ่งบัตรที่เหลือเป็นบัตรลงคะแนนที่ส่งทางไปรษณีย์ (มากกว่า 1 ล้านใบ) โดยรัฐดังกล่าวกำหนดระยะเวลาสำหรับนับคะแนนไว้ 3 วัน ซึ่งทำให้เราอาจต้องรอผลอีก 3 วัน หากว่าทั้งคู่ต้องตัดสินชี้ขาดกันที่รัฐนี้

 

นอกจากเพนซิลเวเนียแล้ว รัฐสวิงสเตทอื่นๆ ที่นับใกล้จะครบหมดแล้ว (เกิน 90%) ประกอบด้วยรัฐในแถบมิดเวสต์อย่างมิชิแกนและวิสคอนซิน และรัฐที่อยู่ทางใต้อย่างนอร์ทแคโรไลนาและจอร์เจีย โดย 4 รัฐนี้ สถานการณ์ล่าสุดมีเพียงวิสคอนซินเท่านั้น ที่ไบเดนมีคะแนนนำ แต่นำเพียง 0.2 จุด ขณะที่ 3 รัฐที่เหลือทรัมป์นำไบเดนทั้งหมด

 


 

ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการล่าสุด 16.42 น. ไบเดนยังคงมีคะแนนเสียงนำทรัมป์ ขณะที่ยังเหลือผลการนับคะแนนจากรัฐสำคัญอย่าง วิสคอนซิน (10), มิชิแกน (16), เพนซิลเวเนีย (20), นอร์ทแคโรไลนา (15), จอร์เจีย (16) รวมถึงรัฐอื่นๆ อย่าง อะแลสกา (3) เนวาดา (6) ที่ยังคงนับคะแนนไม่เสร็จสิ้น ทำให้ขณะนี้ยังไม่มีใครสามารถอ้างชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้อย่างแท้จริง

 

 

 


15.40 น.

นอกจากศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีแล้ว สมรภูมิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาก็ดุเดือดไม่แพ้กัน

 

โดยผลการนับคะแนนล่าสุด ผู้สมัครจากเดโมแครตคว้าเก้าอี้ ส.ส. ไปแล้ว 180 ที่นั่ง ขณะที่รีพับลิกันได้ไป 173 ที่นั่ง โดยสองพรรคต้องการอย่างน้อย 218 ที่นั่ง เพื่อที่ครองเสียงข้างมากในสภาล่าง (ทั้งหมด 435 ที่นั่ง) โดยก่อนการเลือกตั้ง เดโมแครตมี ส.ส. รวม 232 ที่นั่ง

 

ส่วน ส.ว. มีชิงเก้าอี้ทั้งหมด 1 ใน 3 ของสภาที่หมดวาระดำรงตำแหน่ง (35 ที่นั่ง) ซึ่งรีพับลิกันได้เพิ่ม 17 ที่นั่ง รวมเป็น 47 ที่นั่ง ขณะที่เดโมแครตได้เพิ่ม 12 ที่นั่ง รวมเป็น 45 ที่นั่ง (บวกกับ ส.ว. อิสระ 2 เสียงที่อยู่ฝ่ายเดโมแครต) โดยเดโมแครตต้องการอย่างน้อยอีก 5 ที่นั่ง ก็จะได้ครองเสียงส่วนมากในสภาสูง

 

 


ผลนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ เวลา 15.00 น. หลังไบเดนพลิกชนะในรัฐแอริโซนา สวิงสเตทฐานเสียงของพรรครีพับลิกัน

 

 


 

14.50 น.

ไบเดนพลิกชนะแอริโซนา รัฐสวิงสเตทฐานเสียงรีพับลิกัน

 

กลับมามีลุ้นอีกครั้งสำหรับ โจ ไบเดน หลังจากที่เขาเสียรัฐสวิงสเตทให้ทรัมป์ไปหลายรัฐ ล่าสุดผลนับคะแนนปรากฏว่า ไบเดนคว้าชัยในรัฐแอริโซนา ซึ่งเดิมเป็นรัฐที่เอียงไปทางรีพับลิกัน ทำให้ไบเดนได้คะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งเพิ่มมา 11 เสียง ขณะที่เหลืออีกไม่กี่รัฐให้ลุ้น

 

 


 

สถานการณ์การนับคะแนนแต่ละรัฐ ใครชนะรัฐไหนได้ (อัปเดตล่าสุด 13.20 น. อ้างอิง: AP)

 

 

 


 

13.35 น.

รัฐเท็กซัสได้ผู้ชนะแล้ว และเป็นอีกรัฐที่เลือกทรัมป์ เพิ่มคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้งให้ทรัมป์อีก 38 เสียง

 

โดยผลนับคะแนนเบื้องต้น ทรัมป์ชนะไบเดน 52.19% ต่อ 46.4%

 

ก่อนการเลือกตั้ง รัฐเท็กซัสเป็นรัฐที่เดโมแครตมีลุ้นชิงมาจากรีพับลิกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สมัย จิมมี คาร์เตอร์ ในปี 1976

 

อย่างไรก็ตาม ผลการเลือกตั้งยังสะท้อนว่ารัฐเท็กซัสยังคงเป็นฐานเสียงที่เหนียวแน่นของรีพับลิกัน โดยผลการนับคะแนนดิบ ทรัมป์ชนะไบเดนถึง 6 แสนเสียง

 

 

 


 

13.17 น.

ทรัมป์ชนะในรัฐสวิงสเตทอีกรัฐคือ ไอโอวา คว้าคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งเพิ่มอีก 6 เสียง

 

ผลนับคะแนน 99% ในรัฐนี้ ทรัมป์นำไบเดน 53.2% ต่อ 45.03%

 

ล่าสุดทรัมป์ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ว่าจะออกแถลงการณ์ในค่ำคืนนี้ โดยมั่นใจว่าเขาจะชนะเลือกตั้ง

 

 


 

13.10 น.

โดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวระบุว่า “ผมกำลังเตรียมแถลงการณ์สำหรับค่ำคืนนี้ เป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่” หลังจากที่เขามีคะแนนนำและเริ่มคว้าชัยในรัฐสวิงสเตทที่สำคัญ

 


 

12.38 น.

รัฐฟลอริดาเป็นสีแดง ประชาชนโหวตเลือก โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดี คิดเป็น 51.26% ขณะที่ไบเดนได้ไป 47.84%

 

โดยฟลอริดาถือเป็นอีก 1 รัฐสวิงสเตทที่น่าจับตา โดยที่ผ่านมาเดโมแครตคาดหวังว่าจะดึงคะแนนเสียงจากกลุ่มผู้สูงวัยในรัฐนี้ได้

 

การชนะในรัฐนี้ทำให้ทรัมป์กวาดคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งเพิ่มอีก 29 เสียง

 

 


 

12.25 น.

ไบเดนชนะในรัฐมินนิโซตาได้อีก 1 รัฐ คว้าคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งเพิ่มอีก 10 เสียง รัฐนี้ไบเดนนำทรัมป์มาตลอด ขณะที่ทรัมป์ชนะในรัฐมอนแทนาเพิ่มอีก 1 รัฐ เก็บเพิ่มอีก 3 เสียง

 

 


 

12.10 น.

ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการล่าสุด หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยในสมรภูมิรัฐโอไฮโอ เหนือ โจ ไบเดน หนึ่งในรัฐสวิงสเตทสำคัญที่มีจำนวนผู้แทนคณะเลือกตั้งถึง 18 เสียง

 

 


 

BREAKING: ทรัมป์ชนะรัฐโอไฮโอ หนึ่งในสวิงสเตทสำคัญ

 

โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยในสมรภูมิรัฐโอไฮโอ เหนือ โจ ไบเดน ได้สำเร็จ รัฐดังกล่าวเป็น 1 ใน 7 รัฐสวิงสเตท หรือ Battleground State ที่สำคัญ และมีจำนวนผู้แทนคณะเลือกตั้งถึง 18 เสียง

 

ตามสถิติแล้ว ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันทุกคนในอดีตล้วนชนะในรัฐนี้ ดังนั้นจึงมีความหมายสำหรับทรัมป์อย่างมาก

 

สำหรับรัฐสวิงสเตทอื่นๆ ที่ยังนับคะแนนกันอยู่ในตอนนี้ ประกอบด้วยมิชิแกน, ไอโอวา, วิสคอนซิน, จอร์เจีย, ฟลอริดา, นอร์ทแคโรไลนา ขณะที่นิวแฮมป์เชียร์ที่ถูกยกเป็นสวิงสเตทโดยสื่อบางสำนักโหวตเลือกไบเดน

 

BREAKING: ทรัมป์ชนะรัฐโอไฮโอ หนึ่งในสวิงสเตทสำคัญ

 


 

ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 11.20 น. (ตามเวลาประเทศไทย)

 

 


 

สถานการณ์การนับคะแนนแต่ละรัฐ ใครชนะรัฐไหนได้ (อัปเดตล่าสุด 11.20 น. อ้างอิง: AP)

 

 

 


 

11.16 น.

ทรัมป์ได้เพิ่มอีก 2 รัฐในฝั่งตะวันตก ได้แก่ ยูทาห์ และไอดาโฮ มีคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้ง 6 และ 4 เสียง ตามลำดับ และยังมีคะแนนนำไบเดน 4 จุดในรัฐมอนแทนา ขณะที่การนับคะแนนยังดำเนินต่อไป

 


 

11.10 น.

โจ ไบเดน คว้าชัยในมลรัฐชายฝั่งตะวันตกสีน้ำเงินเข้มทั้งแคลิฟอร์เนีย (55), ออริกอน (7) และวอชิงตัน (12) ได้จำนวนเสียงคณะผู้เลือกตั้งรวม 74 เสียง จาก 3 มลรัฐที่เป็นฐานเสียงสำคัญของเดโมแครต

 

ขณะเดียวกันไบเดนยังนำทรัมป์ 5 จุดในรัฐแอริโซนา หนึ่งในรัฐสวิงสเตททางภาคใต้

 


 

11.00 น.

โจ ไบเดน ผู้สมัครชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต คว้าชัยในรัฐสวิงสเตทอย่างรัฐนิวแฮมป์เชียร์ สะสมจำนวนผู้แทนคณะผู้เลือกตั้งไปอีก 4 เสียง สถานการณ์ล่าสุด ไบเดนนำโดนัลด์ ทรัมป์ 135 ต่อ 108 เสียง โดยไบเดนมีแนวโน้มที่จะคว้าชัยในรัฐแคลิฟอร์เนียสูงมาก และอาจทำให้จำนวนผู้แทนคณะผู้เลือกตั้งของไบเดนอยู่ที่ 209

 


 

10.42 น. 

การนับคะแนนในรัฐสวิงสเตทยังดำเนินต่อไป ส่วนใหญ่ยังเป็นการนับบัตรลงคะแนนที่หย่อนที่คูหา โดย โดนัลด์ ทรัมป์ มีคะแนนนำ โจ ไบเดน ในรัฐมิชิแกนถึง 12 จุด ขณะที่รัฐนอร์ทแคโรไลนา, จอร์เจีย, ฟลอริดา และวิสคอนซิน ก็เป็นทรัมป์ที่นำไบเดนเช่นกัน แต่คะแนนยังขับเคี่ยวสูสี และไม่ห่างกันมาก

 


 

ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 10.40 น. (ตามเวลาประเทศไทย)

 

 


 

10.40 น.

ทรัมป์ ชนะในรัฐมิสซูรีตามความคาดหมาย คว้าคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้งไปอีก 10 เสียง สถานการณ์ล่าสุด ไบเดนนำทรัมป์ 131 ต่อ 108 เสียง

 


 

10.22 น.

ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ยังคงเป็นการขับเคี่ยวกันอย่างสูสีระหว่างคะแนนของทรัมป์กับไบเดน โดยการนับคะแนนในรัฐสวิงสเตทยังดำเนินต่อไป

 

 


 

ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 10.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)

 

 


 

09.51 น.

สองผู้สมัครขับเคี่ยวในรัฐสวิงสเตทสูสี ผลัดกันนำผลัดกันตาม โดยการนับคะแนนยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ณ เวลานี้ทรัมป์มีคะแนนนำในรัฐมิชิแกนและวิสคอนซิน และสองรัฐดังกล่าวถือเป็น ‘ความหวัง’ ของไบเดนและเดโมแครต

 

นอกจากนี้ทรัมป์ยังนำในรัฐฟลอริดา ขณะเดียวกันยังพลิกกลับมานำไบเดนในรัฐสำคัญอย่าง ‘เท็กซัส’ และโอไฮโอด้วย

 


 

09.42 น.

โจ ไบเดน ได้เพิ่มอีก 2 รัฐ คือ โคโลราโด และนิวเม็กซิโก โดยสองรัฐนี้มีคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้ง 9 และ 5 เสียงตามลำดับ

 

ส่วนการนับคะแนนในรัฐสวิงสเตทที่สำคัญอย่างมิชิแกน และวิสคอนซิน ทรัมป์เป็นฝ่ายนำไบเดนอยู่ ณ ขณะนี้

 


 

09.35 น.

ไบเดน ชนะในรัฐนิวยอร์กตามความคาดหมาย คว้าคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้งไปอีก 29 เสียง สถานการณ์ล่าสุด ไบเดนนำทรัมป์ 122 ต่อ 92 เสียง

 


 

ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 09.29 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
อ้างอิง: AP

 

 


 

09.05 น.

กวาดเรียบยังไม่พลิกล็อก เมื่อทรัมป์ชนะเพิ่มใน 3 รัฐ ได้แก่ นอร์ทดาโคตา (3), เซาท์ดาโคตา (3) และไวโอมิง (3) ทำให้คะแนนรวมคณะผู้เลือกตั้งไล่ตีตื้น โจ ไบเดนมาเป็น 119 ต่อ 92 เสียงแล้ว

 


 

08.53 น.

ผลการนับคะแนนเบื้องต้น โจ ไบเดน ชนะ โดนัลด์ ทรัมป์ ในรัฐอิลลินอยส์ ซึ่งเป็นฐานเสียงของเดโมแครต โดยรัฐนี้มีจำนวนเสียงคณะผู้เลือกตั้ง 20 คน

 

ขณะที่ทรัมป์ชนะในรัฐมิสซิสซิปปีและเซาท์แคโรไลนา ซึ่งเป็นฐานเสียงรีพับลิกันเช่นกัน โดยสองรัฐดังกล่าวมีเสียงรวมกัน 15 เสียง

 


 

08.36 น.

โจ ไบเดน ชนะในรัฐโรดไอแลนด์ ฐานเสียงเดโมแครต คว้าคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้ง 4 เสียง ขณะที่ทรัมป์ชนะในรัฐอาร์คันซอ ได้ไป 6 เสียง สถานการณ์ผลรวมล่าสุด ไบเดนยังนำทรัมป์อยู่ 85 ต่อ 61 เสียง

 


 

08.19 น.

เว็บไซต์ AP รายงาน โจ ไบเดน นำ โดนัลด์ ทรัมป์ 85 ต่อ 55 เสียง ทั้งคู่ต้องการคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งอย่างน้อย 270 เสียงเพื่อที่จะเป็นประธานาธิบดี

 

 


 

08.12 น.

ผลการนับคะแนนเบื้องต้น คาด โจ ไบเดน จะชนะในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งมีจำนวนคณะผู้เลือกตั้ง 3 เสียง โดยเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ฮิลลารี คลินตัน ของเดโมแครต ก็ชนะในสมรภูมิเมืองหลวง

 


 

08.10 น.

สถานการณ์ล่าสุด เว็บไซต์ CNN รายงาน โจ ไบเดน มีคะแนนรวมจากคณะผู้เลือกตั้งแซงหน้าโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ 30 ต่อ 26 เสียง ทั้งคู่ต้องการคะแนนอย่างน้อย 270 เสียงเพื่อชนะการเลือกตั้ง

 

 


 

08.06 น.

ไบเดนจ่อคว้าชัยในแมริแลนด์ โดยรัฐนี้เป็นรัฐสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญของเดโมแครต มีจำนวนผู้แทนคณะเลือกตั้ง 10 เสียง

 


 

08.00 น.

ผลการนับคะแนนเบื้องต้นจนถึงขณะนี้ชี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะใน 3 รัฐ ได้แก่ อินดีแอนา (11), เคนทักกี (8) และเวสต์เวอร์จิเนีย (5) ขณะที่โจ ไบเดน ชนะในรัฐเวอร์มอนต์ (3) และเวอร์จิเนีย (13) คะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งรวมตอนนี้ ทรัมป์นำไบเดน 24 ต่อ 16 เสียง

 

 


 

07.53 น.

โพล CNN คาดการณ์ว่า โจ ไบเดน จะชนะในรัฐเวอร์มอนต์ รัฐนี้มีคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้ง 3 เสียง

 

 


 

07.48 น.

ผลการนับคะแนนเบื้องต้นคาด โจ ไบเดน ผู้สมัครจากเดโมแครต คว้าชัยในรัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งรัฐนี้มีคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้ง 13 เสียง

 

 


 

07.00 น.

รัฐสวิงสเตท (Swing State) ที่ปิดคูหาเป็นรัฐแรกคือจอร์เจีย (19.00 น. ตามเวลาเขตตะวันออกของสหรัฐฯ) โดยรัฐนี้มีจำนวนผู้แทนคณะเลือกตั้ง 16 เสียง ซึ่ง โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะฮิลลารี คลินตัน จากเดโมแครตเมื่อ 4 ปีที่แล้ว

 

หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง (19.30 น. ตามเวลาเขตตะวันออก) รัฐนอร์ทแคโรไลนา อีกหนึ่งรัฐสวิงสเตทจะปิดคูหาเลือกตั้งก่อนเริ่มนับคะแนน โดยมลรัฐนี้เป็นอีกรัฐที่ทรัมป์มีลุ้นชนะ โจ ไบเดน เช่นกัน

 

ณ เวลานี้ รัฐที่ปิดคูหาแล้ว ประกอบด้วยจอร์เจีย อินดีแอนา เซาท์แคโรไลนา เวอร์มอนต์ และเวอร์จิเนีย

 

 


 

06.37 น.

ผลนับคะแนนในรัฐนอร์ทแคโรไลนาอาจล่าช้าอย่างน้อย 45 นาที เนื่องจากหน่วยเลือกตั้ง 4 แห่งเปิดคูหาช้ากว่ากำหนดการเดิม ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องขยายเวลาโหวต

 


 

06.29 น.

สำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) เข้าตรวจสอบหลังมีรายงานว่าหลายพื้นที่ทั่วประเทศมีโทรศัพท์อัตโนมัติขอให้ประชาชนอย่าออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ขอให้ประชาชนอย่าไปสนใจ

 


 

06.10 น.

ชาวบ้านในหมู่บ้านทูลาเซนทราปูราม รัฐทมิฬนาฑู ทางใต้ของอินเดีย รวมตัวกันที่วัดธารมาสาสธา และสวดภาวนาให้ คามาลา แฮร์ริส แคนดิเดตรองประธานาธิบดี ชนะการเลือกตั้ง โดยแฮร์ริสมีเชื้อสายอินเดีย และบรรพบุรุษของเธอเคยอาศัยอยู่ที่นั่น ขณะที่ตัวแฮร์ริสเคยไปวัดดังกล่าวเมื่อตอน 5 ขวบด้วย

 

 


 

06.04 น.

หลายรัฐทยอยปิดคูหาเลือกตั้งแล้ว โดยในเวลา 18.00 น. ตามเวลาเขตตะวันออกของสหรัฐฯ (3 พฤศจิกายน) หน่วยเลือกตั้งในรัฐอินดีแอนาและเคนทักกีปิดอย่างเป็นทางการ แต่สำหรับผู้ที่ยังเข้าแถวรอเข้าคูหา ยังสามารถเข้าไปใช้สิทธิได้

 

ข้อมูลล่าสุดระบุว่า ปีนี้มีผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งแบบโหวตผ่านทางไปรษณีย์และไปหย่อนบัตรด้วยตนเองสูงเกิน 100 ล้านคน และคาดว่าภาพรวมปีนี้ผู้ใช้สิทธิออกเสียงทั่วประเทศจะสูงเป็นประวัติการณ์

 


 

05.43 น.

อลิสซา ฟาราห์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารประจำทำเนียบขาวเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะลุ้นผลการเลือกตั้งพร้อมกับสมาชิกครอบครัวที่ฝั่งปีกตะวันออกของทำเนียบขาว

 

ทำเนียบขาวคาดว่า การนับคะแนนอาจล่าช้า โดยเฉพาะในรัฐเพนซิลเวเนีย แต่ยืนยันว่าทรัมป์อารมณ์ดี และมั่นใจว่าจะชนะในรัฐสำคัญ

 


 

05.35 น.

เอ็กซิตโพลเผย ประชาชนอเมริกันให้ความสำคัญกับประเด็นเศรษฐกิจมากที่สุดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2020 คิดเป็นจำนวน 1 ใน 3 ขณะที่ 1 ใน 5 ของผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสำคัญกับปัญหาความไม่เท่าเทียมทางเชื้อชาติ และโควิด-19 แต่กระนั้นผู้ตอบแบบสำรวจมากกว่าครึ่งหนึ่งระบุว่า การควบคุมไวรัสโคโรนามีความสำคัญกว่าการสร้างเศรษฐกิจใหม่

 

 


 

3 พฤศจิกายน 2020

 

21.31 น.

โดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการ ‘Fox & Friends’ ของ Fox News ในวันเลือกตั้ง แสดงความเชื่อมั่นว่า เขาจะสามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งในรัฐเท็กซัส ฟลอริดา และแอริโซนา และคิดว่าจะทำผลงานได้ดีในรัฐนอร์ทแคโรไลนาและเพนซิลเวเนียด้วย โดยทั้ง 5 รัฐนี้ทรัมป์เคยชนะ ฮิลลารี คลินตัน จากเดโมแครตเมื่อ 4 ปีก่อน จนกรุยทางสู่ทำเนียบขาว

 

“เรารู้สึกดีมาก เรามีฝูงชนที่มาให้กำลังใจเนืองแน่นชนิดที่ไม่เคยมีใครได้สัมผัสมาก่อน ผมคิดว่านั่นอาจตีความเป็นการโหวตจำนวนมาก และเราจะได้เห็นเร็วๆ นี้”

 

เมื่อผู้ดำเนินรายการถามทรัมป์ว่า เขาคิดว่าจะได้คะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral Votes) จำนวนเท่าใด ทรัมป์คาดหวังว่าเขาอาจได้ถึง 306 เสียง ซึ่งเป็นจำนวนที่เขาเคยได้และทำให้เขาชนะเลือกตั้งเมื่อปี 2016

donald trump not admit defeat

 


 

20.15 น.

โจ ไบเดน โพสต์คลิปวิดีโอบนทวิตเตอร์ มีใจความเชิญชวนให้คนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง พร้อมบอกว่า ถึงเวลาที่ชาวอเมริกันจะต้องมาร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว และเขาจะทำงานกับทั้งพรรคเดโมแครต รีพับลิกัน ทั้งผู้ที่สนับสนุน และไม่สนับสนุนเขา ตลอดจนจะผลักดันอเมริกาไปข้างหน้า

 

ก่อนหน้านี้ราวเกือบหนึ่งชั่วโมง เขาก็โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ ขอให้ประชาชนเชื่อใจในตัวเขาและ คามาลา แฮร์ริส อีกครั้ง หลังจากที่เคยให้ความไว้วางใจเขาในฐานะรองประธานาธิบดีของ บารัก โอบามา เมื่อปี 2008 และ 2012 มาแล้ว และย้ำว่า เขากับคามาลาสามารถเยียวยาจิตวิญญาณของสหรัฐอเมริกา และจะไม่ทำให้ผิดหวัง

 

เลือกตั้งสหรัฐฯ โจไบเดน twitter

 


 

19.15 น.

ฮิลลารี คลินตัน อดีตผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครตในศึกการเลือกตั้งครั้งสำคัญเมื่อ 4 ปีก่อน ทวีตข้อความเชิญชวนพลเมืองอเมริกันที่มีสิทธิ์เลือกตั้งและยังไม่ได้ลงคะแนนเสียงไปให้ใช้สิทธิ์เลือกผู้นำที่จะบริหารประเทศต่อจากนี้ไปอีก 4 ปีข้างหน้า หลังหลายรัฐเริ่มทยอยเปิดคูหาเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ

 

“ถ้าคุณไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งแล้ว ขอบคุณมาก ถ้าคุณยังไม่ได้ใช้สิทธิ์ วันนี้เดินทางมาถึงแล้ว

 

“มาช่วยกันปิดจ๊อบงานนี้ เพื่อนำประชาธิปไตยของเรากลับคืนมา”

 

 


 

19.00 น.

สหรัฐฯ ทยอยเปิดคูหาเลือกตั้งแล้ว โดยเริ่มจากรัฐแถบชายฝั่งตะวันออก ได้แก่ นิวยอร์ก นิวเจอร์ซีย์ และเวอร์จิเนีย นับเป็นการเปิดฉากศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ

 

การเลือกตั้งครั้งนี้สร้างปรากฏการณ์ใหม่มีผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งแบบส่งบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์และหย่อนบัตรที่คูหาด้วยตนเองเกือบ 100 ล้านคน เนื่องจากวิกฤตโควิด-19 ทำให้หลายรัฐส่งเสริมให้ประชาชนโหวตทางไปรษณีย์เพื่อควบคุมการระบาด ขณะที่ประชาชนอีกราว 60 ล้านจะออกไปใช้สิทธิที่คูหาในวันนี้ โดยคาดว่าจำนวนผู้ใช้สิทธิทั่วประเทศจะสูงเป็นสถิติ

 

 


 

17.50 น.

โจ ไบเดน คว้า 5 คะแนนเสียงแรกในเมืองเล็กๆ ติดชายแดนแคนาดา ในขณะที่รัฐอื่นๆ รอเปิดคูหาเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ

 

ที่เมืองดิกซ์วิลล์ นอตช์ เมืองเล็กๆ ในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ติดกับชายแดนแคนาดา ซึ่งมีประชากร 12 คน ได้ประกาศผลการนับคะแนนคนที่มาใช้สิทธิโหวตรวม 5 คนแล้ว โดยไบเดน ผู้สมัครจากเดโมแครต ได้ไปทั้ง 5 คะแนนเสียง

 

ตามธรรมเนียมในเมืองนี้ ผู้มีสิทธิออกเสียงจะมารวมตัวกันที่ ‘ห้องลงคะแนน’ ในรีสอร์ตบอลแซมส์ และหย่อนบัตรเลือกตั้งหลังเที่ยงคืน จากนั้นจะนับคะแนนและประกาศผล ซึ่งถือเป็นเมืองแรกในประเทศที่ปิดหีบ นับคะแนน และประกาศผลก่อนใครในวันเลือกตั้ง

 

 


 
15.00 น.
โดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ ขอบคุณผู้สนับสนุนทุกคน โดยระบุว่า “พวกคุณอยู่ที่นั่นตั้งแต่แรก และผมจะไม่ทำให้พวกคุณผิดหวัง ความหวังของคุณคือความหวังของผม ความฝันของคุณคือความฝันของผม และอนาคตของคุณคือสิ่งที่ผมกำลังต่อสู้ในทุกๆ วัน”
 
 

 


 

13.00 น.

สหรัฐฯ เข้าสู่วันเลือกตั้งแล้ว ตามเวลากรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยรัฐส่วนใหญ่จะเปิดคูหาให้ลงคะแนนเป็นเวลาอย่างน้อย 12 ชั่วโมง ขณะที่เวลาเปิด-ปิดหน่วยเลือกตั้งอาจแตกต่างกันในแต่ละรัฐ โดยบางรัฐเปิดคูหาตั้งแต่เวลา 06.00 น. ขณะที่บางรัฐเปิดเวลา 07.00 น. นอกจากนี้เวลาในสหรัฐฯ ยังแตกต่างกันตามเขตเวลา (Time Zones) เช่น เขตเวลาตะวันออกและเขตเวลาแปซิฟิก โดยรัฐที่อยู่ฝั่งตะวันออกจะทยอยเปิดคูหาก่อน และไล่ไปทางฝั่งตะวันตก โดยรัฐสุดท้ายที่ปิดคูหาคือฮาวาย ตรงกับช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. วันพรุ่งนี้ (4 พฤศจิกายน) ตามเวลาไทย

 

 เลือกตั้งสหรัฐฯ

 


 

12.28 น.

โพลสำรวจล่าสุดจาก CNBC/Change Research ชี้ว่า โจ ไบเดน ผู้สมัครจากเดโมแครต มีคะแนนนำ โดนัลด์ ทรัมป์ จากรีพับลิกัน ใน 6 รัฐสวิงสเตท (Swing State) ที่สำคัญ ได้แก่ แอริโซนา, ฟลอริดา, มิชิแกน, นอร์ทแคโรไลนา, เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน โดยมีคะแนนนำเฉลี่ยอยู่ที่ 50% ต่อ 46%

 

  • รัฐแอริโซนา: ไบเดน 50%-47% ทรัมป์
  • รัฐฟลอริดา: ไบเดน 51%-48% ทรัมป์
  • รัฐมิชิแกน: ไบเดน 51%-44% ทรัมป์
  • รัฐนอร์ทแคโรไลนา: ไบเดน 49%-47% ทรัมป์
  • รัฐเพนซิลเวเนีย: ไบเดน 50%-46% ทรัมป์
  • รัฐวิสคอนซิน: ไบเดน 53%-45% ทรัมป์

 

 เลือกตั้งสหรัฐฯ

 


 

โพล เลือกตั้งสหรัฐ โค้งสุดท้าย

 


 

10.54 น.

เลดี้ กาก้า ศิลปินชื่อดังของโลก ขึ้นร้องเพลงบนเวทีหาเสียงของ โจ ไบเดน ผู้สมัครประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ในเมืองพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย ในค่ำคืนสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง

 

ก่อนหน้านี้ เลดี้ กาก้า ได้โพสต์วิดีโอแสดงจุดยืนสนับสนุนไบเดนเป็นประธานาธิบดี ซึ่งทำให้เธอตกเป็นเป้าการโจมตีของโดนัลด์ ทรัมป์ ในระหว่างการหาเสียงที่เมืองสแครนตัน รัฐเพนซิลเวเนีย

 

สำหรับรัฐเพนซิลเวเนียนั้น เป็นรัฐที่ไบเดนจำเป็นต้องชิงกลับคืนมาจากทรัมป์ โดยเมื่อ 4 ปีก่อน ฮิลลารี คลินตัน แพ้ให้กับทรัมป์แบบพลิกล็อก ส่งผลให้คะแนนเสียงรวมจากคณะผู้เลือกตั้งน้อยกว่าทรัมป์

 

lady gaga เลือกตั้งสหรัฐฯ

 


 

10.40 น.

โดนัลด์ ทรัมป์ หาเสียงเวทีสุดท้ายที่ แกรนด์ แรพิดส์ รัฐมิชิแกน ซึ่งเป็นจุดหมายเดียวกับเส้นทางแคมเปญของเขาเมื่อ 4 ปีก่อน

 

โดยในวันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง (2 พฤศจิกายน) ทรัมป์ใช้เวลาหลายชั่วโมงหาเสียงในรัฐนอร์ทแคโรไลนา, เพนซิลเวเนีย, วิสคอนซิน และมิชิแกน โดย 3 รัฐหลังเป็นรัฐในแถบมิดเวสต์ที่ทรัมป์พลิกล็อกชนะฮิลลารี คลินตัน ได้เมื่อปี 2016 ซึ่งหากทรัมป์ต้องการดำรงตำแหน่งต่ออีกสมัย จำเป็นต้องรักษาคะแนนเสียงใน 3 รัฐดังกล่าวให้ได้ หรืออย่างน้อยต้องชนะในเพนซิลเวเนีย ซึ่งมีคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) 20 เสียง

 

 เลือกตั้งสหรัฐฯ trump

 


 

09.16 น.

ผู้พิพากษาศาลสหรัฐฯ ในรัฐเท็กซัสยกคำร้อง กรณีพรรครีพับลิกันขอให้ยกเลิกการนับคะแนนบัตรเลือกตั้งเกือบ 127,000 ใบ ที่ผู้ใช้สิทธินำมาหย่อนแบบไดรฟ์-ทรูในเขตพื้นที่เมืองฮิวสตัน ซึ่งมีแนวโน้มเลือกเดโมแครต

 

แอนดรูว์ เฮเนน ระบุว่า ประชาชนบางส่วนใช้วิธีโหวตโดยการขับรถมาหย่อนบัตรตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม แต่รีพับลิกันเพิ่งมายื่นคำร้องขอให้บัตรเหล่าเป็นโมฆะเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งการเปิดให้ลงคะแนนล่วงหน้าแบบไดรฟ์-ทรูนั้น เป็นหนึ่งในมาตรการของรัฐเพื่อป้องกันและควบคุมการระบาดของโควิด-19

 

 เลือกตั้งสหรัฐฯ

 


 

ดารา นักร้อง สนับสนุนไบเดน ทรัมป์ อินโฟกราฟฟิก

 


 

08.55 น.

ในระหว่างหาเสียงวันสุดท้ายที่สแครนตัน รัฐเพนซิลเวเนีย ในแรลลีที่ 2 จากทั้งหมด 5 งานเมื่อวานนี้ (2 พฤศจิกายน) โดนัลด์ ทรัมป์ วิจารณ์ เลอบรอน เจมส์ นักบาสเกตบอลชื่อดังของแอลเอ เลเกอร์ส เจ้าของแชมป์ NBA ฤดูกาลล่าสุด ว่า “เลอบรอน เจมส์ ห่วย”

 

ทรัมป์บอกกับฝูงชนว่าเขาไม่ได้ดู NBA รอบ Finals เพราะเขารู้สึกเบื่อ และอ้างว่าที่เรตติ้ง NBA ตกก็เพราะเลอบรอนและผู้เล่นคนอื่นๆ ไม่รักประเทศนี้ และไม่ยืนเคารพเพลงชาติ

 

นอกจากสตาร์ NBA แล้ว ทรัมป์ยังวิจารณ์ศิลปินชื่อดังอย่าง เลดี้ กาก้า และ บอน โจวี ด้วย หลังจากเลดี้ กาก้าโพสต์วิดีโอแสดงจุดยืนสนับสนุนโจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดี ขณะที่บอน โจวีแสดงคอนเสิร์ตบนเวทีในแรลลีหาเสียงของไบเดนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

 


 

08.33 น.

คามาลา แฮร์ริส แคนดิเดตรองประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต เขียนบทความในนิตยสาร Essence สำหรับกลุ่มผู้อ่านที่เป็นผู้หญิงอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน ระบุว่า “สตรีผิวดำรุ่นก่อนๆ ได้ต่อสู้จนทำให้เรามีสิทธิดังเช่นทุกวันนี้” พร้อมเรียกร้องให้คนกลุ่มนี้ใช้อำนาจที่มีอยู่ในมือในคูหาเลือกตั้ง

 

ข้อมูลทางสถิติบ่งชี้ว่า ปีนี้มีชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันออกมาใช้สิทธิมากกว่าครั้งก่อนๆ โดยเฉพาะในรัฐสำคัญๆ อย่างจอร์เจีย ซึ่งแฮร์ริสใช้เวลาหาเสียงที่นั่นมากในช่วงโค้งสุดท้าย ขณะที่รัฐดังกล่าวเป็นฐานเสียงสำคัญของรีพับลิกัน และกำลังถูกท้าทายจากภูมิทัศน์การเลือกตั้งที่กำลังเปลี่ยนไป

 

 เลือกตั้งสหรัฐฯ ไบเดน

 


 

07.38 น.

มีผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าในสหรัฐฯ แล้วจำนวน 97 ล้านคน ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ โดยมากกว่าการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีก่อน 66.67%

โดยรัฐเท็กซัสและฮาวายมีผู้ใช้สิทธิ์ล่วงหน้ามากกว่าจำนวนผู้ใช้สิทธิ์ทั้งหมดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2016

 


 

07.20 น.

เมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลข 1 เตรียมออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งที่คูหาด้วยตนเองที่ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา ในเช้าวันเลือกตั้ง ก่อนจะเดินทางกลับทำเนียบขาว

 

เมื่อวานนี้เธอเข้าร่วมอีเวนต์หาเสียงในฮันเตอร์สวิลล์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา

 

สำหรับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ นั้น ได้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าที่รัฐฟลอริดาเมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา

 


  • ชมคลิป: เดโมแครตมีลุ้น ‘ไบเดน’ ได้คะแนนขึ้นนำ ‘ทรัมป์’ | Morning Wealth 5 พฤศจิกายน 2563

 

 

 

 


  • อัปเดตสถานการณ์การเลือกตั้งสหรัฐฯ 2020 แบบเรียลไทม์ได้ที่ Facebook: THE STANDARD และ Twitter: THE STANDARD 
  • พบกับเว็บไซต์พิเศษ US ELECTION 2020 เกาะติดศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ ทั้งสถานการณ์ล่าสุดและบทความเจาะลึก ได้ที่นี่ https://thestandard.co/us-election-2020/

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X