หลังจากที่มูลค่าหุ้นจีนหายไปมากถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ธนาคารยักษ์ใหญ่บางแห่งของสหรัฐฯ ต่างมีมุมมองเชิงบวกที่ลดลง
นักกลยุทธ์ของ Goldman Sachs Group Inc., Nomura Holdings Inc. และ Morgan Stanley ต่างหั่นเป้าหมายของดัชนี MSCI China ลงอย่างน้อย 11% แม้ว่าจากมุมมองเหล่านี้จะสะท้อนว่าหุ้นจีนอาจจะฟื้นตัวได้บ้างจากระดับปัจจุบัน แต่ค่อนข้างยากที่จะกลับไปสู่ระดับสูงสุดเมื่อเดือนมกราคม ซึ่งเป็นจุดพีคของปีในช่วงที่จีนเพิ่งประกาศเปิดประเทศ
แรงกดดันต่อหุ้นจีนมาจากทั้งตัวเลขการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ช้ากว่าที่คาดไว้ พร้อมกับแรงกดดันจากความขัดแย้งกับสหรัฐฯ รวมทั้งปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่หมดไป
David Wong นักกลยุทธ์อาวุโสด้านตลาดทุนของ AllianceBernstein Holding LP กล่าวว่า “บนระดับดัชนีปัจจุบัน เราคิดว่าตลาดหุ้นจีนอาจจะหยุดลงแล้ว ก่อนจะฟื้นตัวได้เล็กน้อยในครึ่งปีหลัง แต่อาจจะไม่ได้ไปไหนไกลนัก อานิสงส์จากการเปิดเมืองอาจจะไม่ได้มากอย่างที่หลายคนคาดหวัง”
ปัจจุบันหุ้นจีนดิ่งลงมาราว 20% จากจุดพีคเมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา ส่งผลให้มูลค่าของหุ้นจีนหายไป 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ ดัชนีอย่าง Hang Seng China Enterprises เข้าสู่ภาวะตลาดหมี ขณะที่ดัชนี CSI 300 ดิ่งลงจนล้างภาพของการปรับตัวขึ้นในช่วงต้นปีไปทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม Goldman Sachs และ Morgan Stanley ที่แม้ว่าจะหั่นเป้าหมายของดัชนีในปีนี้ แต่ยังคงให้น้ำหนักลงทุนมากกว่าตลาด (Overweight) โดยคาดว่าดัชนีจะฟื้นตัวได้จากจุดนี้ โดย Morgan Stanley มองว่า การเติบโตของกำไรของหุ้นจีนจะช้ากว่าที่คาดหวังไว้ก่อนหน้านี้
ขณะที่ J.P. Morgan Asset Management และ Invesco Asset Management Ltd. ยังคงมองบวกต่อหุ้นบางกลุ่ม โดยเฉพาะบริษัทที่ถือหุ้นโดยรัฐซึ่งอิงกับอุตสาหกรรม AI น่าจะโดดเด่นเหนือตลาดต่อไปจากนโยบายที่สนับสนุน
อ้างอิง: