วานนี้ (6 มิถุนายน) รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต และอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ในรายการ THE STANDARD NOW ดำเนินรายการโดย อ๊อฟ-ชัยนนท์ หาญคีรีรัตน์ ถึงกรณีการถือครองหุ้นสื่อ ITV ของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
รศ.สมชัย กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวคือการร้องเรียนเกี่ยวกับคุณสมบัติของพิธา ซึ่งหากมีการยื่นเรื่องก่อนวันเลือกตั้ง (14 พฤษภาคม 2566) อำนาจจะอยู่ที่ศาลฎีกา (มาตรา 52 และ 61) แต่ถ้ายื่นเรื่องหลังประกาศผลเลือกตั้ง หรือเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) อำนาจจะอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ (มาตรา 54)
สิ่งที่น่าสนใจคือ ระหว่างหลังวันเลือกตั้งจนถึงวันประกาศผลของ กกต. ยังไม่มีกฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่า อำนาจพิจารณาและตัดสินเป็นของใคร
รศ.สมชัย ระบุว่า กกต. ก็ต้องประกาศผลให้เป็น ส.ส. ไปก่อน จากนั้นจะเป็นการดำเนินการหลังการประกาศผล มีรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ซึ่งได้กำหนดช่องทางในการดำเนินการไว้ ทั้งการให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กับ ส.ส. เข้าชื่อ จากนั้น กกต. จะสามารถยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ ทั้งนี้ จะยื่นเรื่องหรือไม่ก็คงขึ้นอยู่กับ กกต. ตัดสินใจ
รศ.สมชัย เชื่อว่า ช่วงเวลาที่ กกต. จะวินิจฉัยปมหุ้นสื่อของพิธาคือ หลังจาก กกต. ประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว ซึ่งจะใกล้กับวันเลือกนายกรัฐมนตรี (3 สิงหาคม 2566) ก่อนที่จะส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งศาลฯ อาจวินิจฉัยไม่ทัน ส่งผลให้ศาลฯ อาจสั่งให้พิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยสุดท้ายก็อาจไม่ทันและติดค้างอยู่ในศาลฯ ทำให้เป็นข้อกล่าวอ้างที่ดีของ ส.ว. ว่า ประเด็นดังกล่าวมีความคลุมเครือ และศาลฯ ยังไม่ได้วินิจฉัย จึงขออนุญาตไม่ยกมือโหวตนายกรัฐมนตรี
“ขอให้เร่งรัดวินิจฉัยในเรื่องนี้โดยเร็ว กกต. ไม่จำเป็นต้องเอ้อระเหยลอยชาย รับรอง ส.ส. วันไหนก็เอาเรื่องหุ้นสื่อพิธามาพิจารณาโดยเร็วเลย จริงๆ แล้ว กกต. ไม่ต้องใช้เวลาเยอะ แหม ทีตอนที่คุณ (กกต.) รับสมัคร ส.ส. แล้วคุณ (กกต.) ส่งศาลฎีกาเนี่ย 5 วัน 7 วัน ก็ส่งศาลฎีกาได้แล้ว ทำไมกรณีแบบนี้มีเวลาเป็นเดือนๆ จึงทำไม่เสร็จ เมื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญแล้วก็ขอความกรุณาท่าน (ศาลรัฐธรรมนูญ) เถอะครับว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องซึ่งเป็นประเด็นเพียงแค่ข้อกฎหมาย ไม่ได้มีอะไรที่มากมายซับซ้อนไปมากกว่านั้น ก็เห็นแก่ประเทศชาติเถอะครับ” รศ.สมชัย เผย
รศ.สมชัย ขยายความเพิ่มอีกว่า “ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยโดยเร็ว ก่อนเข้าสู่การแข่งขันเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อที่จะทำให้รู้กันไปเลยว่า ใครถูก ใครผิด ถ้าไม่ได้ก็ไม่ได้ แต่ถ้าได้ก็จะเข้าสู่การพิจารณาเหล่านี้ ก็จะเป็นไปอย่างสง่างาม พิธาก็จะไม่มีเสียงครหาซุบซิบกัน ถ้าจะไม่โหวตให้ก็จะได้เป็นประเด็นอื่นไป”
ส่วนกรณีที่พิธาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ (6 มิถุนายน 2566) ถึงการโอนหุ้นสื่อให้กับทายาทว่า เพื่อป้องกันการฟื้นคืนชีพของ ITV ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลทางธุรกิจหรือการเมืองก็ตาม
รศ.สมชัย มองว่า เป็นความคิดที่รอบคอบของพิธา การโอนหุ้น ณ ตอนนี้สามารถป้องกันอนาคตได้จริง เพียงแต่ไม่สามารถแก้ไขในอดีต หรือไม่เกิดผลบวกกับเหตุการณ์ในอดีต อดีตก็คืออดีต ถ้าอดีตผิดก็คือผิด ถ้าถูกก็คือถูก ฉะนั้น การโอนวันนี้ไม่มีผลอะไรให้อดีตเปลี่ยนวิธีการคิดไปได้
