คณะมนตรีความมั่นคงฯ แสดงความกังวลกับกรณีการตั้งถิ่นฐานของอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์

ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) แสดงท่าทีกังวลใจและผิดหวังต่อกรณีการตั้งถิ่นฐานของอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์ที่ยึดครองอยู่ พร้อมทั้งชี้ว่า การกระทำของอิสราเอลจะยิ่งเป็นอันตรายต่อแนวทางการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ตามที่เคยตกลงไว้เมื่อปี 1967

ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นภายหลังจากที่ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัฐบาลอิสราเอลอนุญาตและรับรองสิทธิการตั้งถิ่นฐานของชาวอิสราเอลในพื้นที่เขตเวสต์แบงก์ที่ตนเองยึดครองได้ หลังจากที่เริ่มค่อยๆ ยึดครองพื้นที่บางส่วนของเขตเวสต์แบงก์ รวมถึงเยรูซาเล็มตะวันออกและฉนวนกาซา ตั้งแต่ปี 1967 ซึ่งพื้นที่เหล่านี้ล้วนเป็นดินแดนที่ปาเลสไตน์ต้องการจะให้เป็นแผ่นดินของรัฐหรือประเทศในอนาคต

สำนักข่าว Reuters เผยว่า ผู้แทนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ร่วมกับผู้แทนของปาเลสไตน์ ร่วมกันจัดทำร่างมติเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการตั้งถิ่นฐานในดินแดนปาเลสไตน์ที่ตนเองยึดครองไว้โดยเด็ดขาดและในทันที แต่ดูเหมือนว่าที่ประชุมจะมีมติปัดร่างข้อเรียกร้องดังกล่าวให้ตกไป

โดยผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติ (UN) ชี้ว่า การตั้งถิ่นฐานของอิสราเอลนับเป็นการก่ออาชญากรรมสงคราม เนื่องจากกฎหมายระหว่างประเทศห้ามไม่ให้ผู้มีอำนาจครอบครองถ่ายโอนพลเมืองของตนเข้าไปยังดินแดนที่ถูกยึดครองอย่างชัดแจ้ง

ที่ประชุม UNSC ยังได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสงบสติอารมณ์ ยับยั้งชั่งใจ และละเว้นจากการกระทำใดๆ ที่อาจเป็นการยั่วยุและก่อให้เกิดความไม่พอใจระหว่างกันเพิ่มขึ้นไปอีก ทั้งยังให้ทุกฝ่ายเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงปกป้องพลเรือนของตน พร้อมทั้งยืนยันว่า ทุกรัฐมีสิทธิที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติภายในพรมแดนที่ปลอดภัยและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และเน้นย้ำว่าทั้งชาวอิสราเอลและชาวปาเลสไตน์มีสิทธิได้รับเสรีภาพ ความปลอดภัย ความเจริญรุ่งเรือง ความยุติธรรม และศักดิ์ศรีอย่างเท่าเทียมกัน

ภาพ: Fatih Aktas / Anadolu Agency via Getty Images

อ้างอิง: