การตีตราด้วยคำว่า ‘Made in Japan’ ได้สร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้สูง ซึ่งกลายเป็นโอกาสที่ Unicharm บริษัทที่ผลิตกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลของแดนซามูไรมองเห็น จึงตั้งเป้าจะส่งออกหน้ากากอนามัยไปยังตลาดเอเชียเพิ่มเป็นสองเท่าภายในปี 2023
ตามรายงานของ Nikkei Asia ระบุว่า ตลาดเอเชียที่ Unicharm ต้องการจะส่งออกเพิ่ม เช่น อินโดนีเซีย ไทย และเวียดนาม ขณะเดียวกันก็จะบุกไปยังซาอุดีอาระเบียผ่านช่องทางที่มีอยู่แล้ว อย่างการขายผ้าอ้อม ซึ่งหน้ากากอนามัยที่ว่านี้จะถูกวางขายภายใต้แบรนด์ Cho-Kaiteki และ Cho-Rittai ซึ่งมีการผลิตในญี่ปุ่นกว่า 1.3 พันล้านชิ้นในปีที่ผ่านมา และส่งออกไปขายต่างประเทศเพียง 10% เท่านั้น
หน้ากากอนามัยของ Unicharm ขายได้สูงกว่าราคาเฉลี่ยในตลาดเอเชียอื่นๆ ถึง 5 เท่า โดย Unicharm จะมุ่งเป้าไปที่ลูกค้าที่มีรายได้ปานกลางถึงสูงที่อยู่ในเขตเมือง ซึ่ง “มีความต้องการอย่างมากในการสวมหน้ากากอนามัยคุณภาพสูง แม้ว่าจะมีราคาแพงก็ตาม” ตัวแทนของบริษัทระบุ
Unicharm ทำยอดขายได้ 7.275 แสนล้านเยน หรือราว 2.2 แสนล้านบาทในปีที่แล้ว โดย 60% มาจากต่างประเทศ โดย Unicharm มีโรงงานในจีน เวียดนาม ไทย อินโดนีเซีย และอินเดีย
ทั้งนี้ การระบาดของโรคโควิดได้กระตุ้นความต้องการหน้ากากอนามัย ตามรายงานของ Euromonitor ระบุว่า ในตลาดโลกความต้องการหน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้น 3 เท่า แต่ในตลาดเอเชียนั้นเพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าด้วยกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ในญี่ปุ่นมีใช้เพียงพอแล้ว Unicharm เตรียมส่งออก ‘หน้ากากอนามัย’ ไปต่างประเทศมากขึ้น มีไทยรวมอยู่ด้วย
อ้างอิง: