คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ร่วมประณามเหตุการใช้ความรุนแรงของกองทัพเมียนมาต่อกลุ่มผู้ชุมนุมต้านรัฐประหารที่ชุมนุมกันอย่างสันติเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมทั้งเน้นยำให้กองทัพเมียนมาปล่อยบรรดาผู้ถูกจับกุมและควบคุมตัวในทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข รวมถึงแสดงจุดยืนสนับสนุนกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมประชาธิปไตยของเมียนมา เคารพสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน โดยทางคณะมนตรีจะเฝ้าติดตามสถานการณ์ในเมียนมาอย่างใกล้ชิด
ก่อนหน้านี้คณะมนตรีไม่สามารถร่วมแสดงจุดยืนดังกล่าวได้ หลังจากผู้แทนจากจีนและรัสเซียยื่นเรื่องขอกลับไปปรึกษารัฐบาลของตนก่อน ขณะที่ทางด้าน โทมัส แอนดรูว์ ผู้เขียนรายงานพิเศษต่อสหประชาชาติเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในเมียนมาระบุว่า การช่วยสนับสนุนเมียนมาแค่เพียงคำพูดอาจไม่เพียงพออีกต่อไปในช่วงเวลาที่ประชาชนชาวเมียนมาถูกเจ้าหน้าที่รัฐคุกคามสิทธิเสรีภาพและถูกใช้กำลังความรุนแรงเข้าปราบปรามอย่างหนัก
“ขณะนี้ประชาชนชาวเมียนมาไม่เพียงต้องการคำพูดที่สนับสนุนพวกเขา แต่ยังต้องการการกระทำที่สนับสนุนพวกเขาด้วย พวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากประชาคมระหว่างประเทศในตอนนี้
“จากรายงานที่น่าเชื่อถือระบุว่า มีผู้เสียชีวิตในช่วงรัฐประหารแล้วอย่างน้อย 70 ราย ถูกจับกุมและควบคุมตัวอีกกว่า 2,000 ราย แนวโน้มที่ประชาชนที่อยู่แต่ภายในที่พัก ไม่ได้ออกไปร่วมเดินชุมนุม แต่ก็ยังถูกเจ้าหน้าที่รัฐใช้ความรุนแรงมีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
โดย โทมัส แอนดรูว์ ได้เสนอแนะ 5 ทางเลือกที่คณะมนตรี รวมถึงองค์การระหว่างประเทศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง สามารถร่วมลงมือทำได้ทันที ได้แก่
- ยุติแหล่งเงินทุนที่เป็นท่อน้ำเลี้ยงของกองทัพเมียนมา รวมถึงกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเครือข่ายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกองทัพ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันและแก๊สธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักช่องทางการลุงทุนของเมียนมา
- ร่วมดำเนินมาตรการห้ามค้าขายระหว่างประเทศกับเมียนมาในช่วงเวลานี้
- ประกันว่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมจะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผ่านระบบยุติธรรมแห่งชาติที่ยึดถือหลักที่เป็นสากล หากคณะมนตรีความมั่นคงไม่พร้อมที่จะดำเนินมาตรการนี้ ก็ขอให้ส่งเรื่องต่อไปยังศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC)
- ทำงานและประสานความร่วมมือโดยตรงกับองค์การภาคประชาชนในท้องถิ่นและองค์กรที่สามารถให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมได้หากเกินเหตุจำเป็น
- ปฏิเสธที่จะรับรองคณะผู้นำรัฐประหาร สภาบริหารแห่งชาติ (SAC) หรือกองทัพ ที่พยายามแสวงหาความชอบธรรมในการขึ้นมาเป็นตัวแทนประชาชนชาวเมียนมาในการบริหารประเทศ
โดยหลักฐานที่บ่งชี้ว่าผู้นำกองทัพเมียนมารายนี้กำลังก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และถึงแม้ว่าประชาชนชาวเมียนมาจะต้องการความช่วยเหลือจากประชาคมโลก แต่พวกเขาที่ยังอยู่ภายในประเทศก็ยังคงรวมพลังเดินหน้าต่อสู้และยืนหยัดเพื่อทวงคืนประชาธิปไตยอย่างไม่ลดละความพยายาม
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- ชมคลิป: “อย่าทำร้ายผู้ชุมนุม” ซิสเตอร์แอนน์ แม่ชีผู้คุกเข่าอ้อนวอนตำรวจเมียนมา อย่าใช้ความรุนแรง
- ชมคลิป: เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐเข่นฆ่าประชาชน ชาวเมียนมาจึงต้องยืนหยัดเคียงข้างกัน
แฟ้มภาพปี 2017: Volkan Furuncu / Anadolu Agency / Getty Images
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: