จากราคาปิดที่ 0.7 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 มาวันนี้ราคาหุ้นของ บมจ.ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล หรือ UKEM พุ่งขึ้นราว 5 เท่าตัว พร้อมกับความคาดหวังที่ว่ากำไรของบริษัทน่าจะเติบโตได้อย่างโดดเด่นในปีนี้
UKEM เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่ปลายปี 2549 โดยประกอบธุรกิจหลักในการนำเข้าและจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ มีสินค้าหลักคือ สารทำละลาย (Solvents) ซึ่งเป็นสินค้าที่จำหน่ายทั่วไป (Commodity Solvent) สำหรับใช้เป็นสารทำละลายซึ่งเป็นส่วนประกอบในการผลิตสินค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ
หากย้อนดูจากราคาหุ้นที่ผ่านมาพอจะสะท้อนให้เห็นว่าการเติบโตของ UKEM ไม่ค่อยเสถียรนัก บริษัทเคยมีช่วงวัฏจักรขาขึ้นในปี 2552-2554 ซึ่งราคาหุ้นวิ่งขึ้นเกือบ 800% แต่หลังจากนั้น UKEM ก็เข้าสู่ช่วงวัฏจักรขาลง จนราคาหุ้นค่อยๆ ซึมลงจากราวๆ 2 บาทกว่า กลับมาอยู่ที่ราว 0.60 บาท เมื่อปี 2559 (ราคาหลังลดพาร์)
ในมุมของผลประกอบการ ช่วงปี 2560-2563 กำไรของบริษัทยังค่อนข้างผันผวน แม้ในปี 2560 กำไรของ UKEM จะฟื้นตัวกลับมาอยู่ที่ระดับ 125 ล้านบาท หนุนให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นเกินกว่า 100% แต่ในปีถัดมากำไรกลับมาหดตัวเหลือเพียง 37 ล้านบาท พร้อมกับราคาหุ้นที่ไหลรูดลงมาอีกครั้ง
ถัดมาในปี 2562-2563 กำไรของ UKEM ค่อยๆ ฟื้นตัวอีกครั้ง ขยับขึ้นมาเป็น 70 ล้านบาท และ 97 ล้านบาท ตามลำดับ แต่ในเวลานั้น UKEM อาจจะยังไม่เป็นที่สนใจของตลาดมากนัก สะท้อนจากค่า P/E ที่ยังอยู่ในระดับประมาณ 10 เท่า และราคาที่ยังซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี
ช่วงท้ายของปี 2563 บริษัทได้ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนโดยให้เหตุผลว่าเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกิน และเพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) รวมถึงเพิ่มอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการซื้อหุ้นคืนรวม 66 ล้านบาท คิดเป็นราคาเฉลี่ยที่ซื้อคืนราว 1.124 บาท โดยการซื้อหุ้นคืนวันสุดท้ายคือเมื่อ 12 เมษายนที่ผ่านมา ระหว่างการซื้อหุ้นคืนนี้เองที่ราคาหุ้น UKEM สามารถฟื้นกลับมายืนเหนือระดับ 1 บาทได้อีกครั้งในรอบเกือบ 3 ปี
สำหรับแนวโน้มกำไรสุทธิของ UKEM ในปี 2564 ถูกคาดหวังว่าจะเติบโตขึ้นเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน หลังจากไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากปีก่อน แม้ว่ารายได้จากการขายของบริษัทจะลดลง 15% แต่ด้วยต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายทางการเงินที่ลดลงในอัตราที่มากกว่า คือลดลง 19.4% และ 22.1% ตามลำดับ ส่งผลให้กำไรสุทธิปรับตัวขึ้นได้
แม้กำไรจะดีขึ้น แต่ราคาหุ้นก็ปรับขึ้นมาเร็วไม่แพ้กัน ทำให้ราคาหุ้น UKEM ที่เคยซื้อขายด้วยระดับ P/E 10-12 เท่าในช่วง 4 ปีก่อนหน้านี้ ขยับขึ้นมาเป็นประมาณ 40 เท่าในปัจจุบัน เช่นเดียวกับราคาที่เคยต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี ปัจจุบันก็ซื้อขายที่กว่า 4 เท่าของมูลค่าทางบัญชี
ด้วยราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นมาแรงทำให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสอบถามไปยังบริษัทเช่นกัน ว่ามีพัฒนาการที่สำคัญในเชิงธุรกิจใดๆ เกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้ UKEM ได้ชี้แจงว่าไม่มีพัฒนาการสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการซื้อขายหลักทรัพย์แต่อย่างใด
ทั้งนี้หากย้อนดูการแจ้งข่าวที่ผ่านมา UKEM ได้ลงทุนเพิ่มเติมในบริษัทย่อยคือ มหานครแคปปิตอล ซึ่งทำธุรกิจให้สินเชื่อรถยนต์ โดย UKEM ถือหุ้นในสัดส่วน 60% ซึ่งในส่วนนี้บริษัทได้ใส่เงินเพิ่มทุนลงไปอีก 15 ล้านบาท
ล่าสุด (3 สิงหาคม) ราคาหุ้น UKEM ยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 19.77% มาปิดที่ 4.24 บาท ทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง หากดูจากตัวเลขอัตราส่วนทางการเงินต่างๆ ดูเหมือนว่าในเวลานี้หุ้น UKEM จะขยับขึ้นมาบนความคาดหวังที่สูงกว่าเดิมมาก แต่จะมากเกินกว่าที่กำไรวิ่งตามทันหรือไม่นั้น เชื่อว่าผลประกอบการไตรมาส 2 น่าจะให้คำตอบที่ดีในเบื้องต้น