รัฐบาลสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป (EU) บรรลุข้อตกลง Brexit ฉบับใหม่ โดยสามารถประนีประนอมในประเด็นปัญหาพรมแดนไอร์แลนด์เหนือ ขณะที่สองฝ่ายเตรียมหารือกันต่อในที่ประชุมสุดยอดผู้นำ EU ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ระหว่างวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้ (17-18 ตุลาคม)
คณะเจรจาของสองฝ่ายเห็นพ้องในรายละเอียดข้อตกลง Brexit ฉบับร่าง หลังประชุมมาราธอนกันนานนับสิบชั่วโมง โดยสหราชอาณาจักรยอมโอนอ่อนในประเด็นพรมแดนไอร์แลนด์เหนือที่เป็นปัญหาคาราคาซังมาตลอด ขณะที่ ฌอง-โคลด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรประบุว่าเป็นข้อตกลงที่มีความยุติธรรมและสมดุล
อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงดังกล่าวยังไม่มีผลบังคับใช้ จนกว่ารัฐสภาของสหราชอาณาจักรและรัฐสภายุโรปจะลงมติรับรอง
ด้านนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของสหราชอาณาจักร เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ว่า “เราได้จัดทำข้อตกลงฉบับใหม่ที่ยอดเยี่ยม” พร้อมเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาสหราชอาณาจักรสนับสนุนข้อตกลงดังกล่าว โดยรัฐบาลมีกำหนดนำร่างข้อตกลงเข้าพิจารณาในรัฐสภาในวันเสาร์นี้
ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนสกุลเงินปอนด์ของอังกฤษแข็งค่าขึ้น 0.8% สู่ระดับ 1.2929 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน
การที่สองฝ่ายตกลงกันได้ทำให้ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนต่างๆ โดยเฉพาะการที่สหราชอาณาจักรอาจต้องแยกตัวจาก EU แบบไร้ข้อตกลง (No-deal Brexit) ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ถึงแม้สภาผู้แทนราษฎรจะผ่านกฎหมายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว และกำหนดให้นายกฯ ต้องขอเลื่อนเวลา Brexit ออกจากเส้นตายเดิมไปเป็นปีหน้าก็ตาม
สำหรับรายละเอียดคร่าวๆ ในข้อตกลงฉบับใหม่นั้น มิเชล บาร์นิเยร์ หัวหน้าคณะเจรจาฝ่าย EU เผยว่า ไอร์แลนด์เหนือจะยังเป็นส่วนหนึ่งของระบบศุลกากรสหราชอาณาจักร และจะเป็นประตูทางเข้าสู่ตลาดร่วมของสหภาพยุโรป โดยจะไม่มีกฎเกณฑ์ข้อบังคับหรือพิธีการตรวจศุลกากรที่พรมแดนระหว่างไอร์แลนด์เหนือกับสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ซึ่งถือเป็นการกำจัดเงื่อนไข Backstop ที่กำหนดให้ไอร์แลนด์เหนือยังอยู่ในสหภาพศุลากรของยุโรปต่อไป หลังจากที่สหราชอาณาจักรแยกตัวจาก EU ไปแล้ว
นอกจากนี้ข้อตกลงฉบับใหม่ยังมีเนื้อหาครอบคลุมถึงการปกป้องสิทธิพลเมืองและกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่านไปจนถึงสิ้นปี 2020
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
