×

ทำไม X ถึงยังคงถูกเรียกว่า Twitter? หรือนี่คือตัวอย่างการรีแบรนด์ที่ ‘ล้มเหลว’ ของ Elon Musk

24.02.2024
  • LOADING...
Twitter Elon Musk

HIGHLIGHTS

5 min read
  • ดูเหมือนว่าแม้จะมีการเปลี่ยนโลโก้ และเนื้อหาบนเว็บไซต์เปลี่ยนไป แต่แพลตฟอร์มก็ยังคง ‘โบกมือลาแบรนด์ Twitter ไม่ได้จริงๆ’ อย่างที่เจ้าของคนใหม่ Elon Musk มหาเศรษฐีพันล้านได้ระบุไว้ในทวีตในวันที่ทำการเปลี่ยนชื่อ แม้จะมีบางคน (โดยเฉพาะแฟนๆ ของ Musk) ยอมรับในแบรนด์ X แต่คนส่วนใหญ่ยังคงไม่ยอมรับ
  • Musk มีความชื่นชอบการสร้างแบรนด์ X มาหลายสิบปีแล้ว เขาตั้งใจจะตั้งชื่อสตาร์ทอัพแรกของเขาว่า X  ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เขาทะเลาะเบาะแว้งกับเพื่อนร่วมก่อตั้ง Schiffer ระบุ เขายังตั้งชื่อลูกคนหนึ่งของเขาว่า X ด้วย ซึ่ง ”วินาทีที่ Musk ตัดสินใจซื้อ Twitter เขาเริ่มบอกสนิทมิตรว่า ‘นี่คือโอกาสของฉันที่จะรื้อฟื้น x.com’ “
  • Schiffer กล่าวถึงว่าอดีตพนักงาน Twitter หลายคนรู้สึกโล่งใจเมื่อ Musk ประกาศการรีแบรนด์ เพราะเพราะนี่ไม่ใช่บริษัทที่พวกเขาใช้เวลาหลายปีในการสร้างและปกป้องอีกต่อไป โดยมีบางคนรู้สึกโล่งใจจริงๆเธอกล่าวพวกเขาพูดประมาณว่าโอเค ใช่ Twitter ตายแล้ว’”

ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 23 กรกฎาคม 2023 Twitter สื่อสังคมออนไลน์ที่เปรียบเสมือนพื้นที่สาธารณะของผู้คนในโลกออนไลน์ ได้เปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น X แต่คำถามที่ตามมาคือ มันเกิดขึ้นจริงๆ หรือ?

 

แม้ว่าจะผ่านมาแล้วกว่าครึ่งปีนับตั้งแต่การเปลี่ยนชื่อครั้งใหม่ที่สร้างความสับสน ทว่าโดเมนของเว็บไซต์ยังคงเป็น twitter.com แม้แต่ x.com ก็ยังคงนำทางไปยังลิงก์ดั้งเดิม จากอีเมลแจ้งเตือนการชำระเงินให้แก่สมาชิก X Premium (ที่มีการระบุถึงชื่อเก่า) ก็ยังระบุว่า ‘การสมัครสมาชิก X (ชื่อเดิม Twitter) ของคุณจะหมดอายุเร็วๆ นี้’

 

ดูเหมือนว่าแม้จะมีการเปลี่ยนโลโก้และเนื้อหาบนเว็บไซต์ แต่แพลตฟอร์มก็ยังคง ‘โบกมือลาแบรนด์ Twitter ไม่ได้จริงๆ’ อย่างที่เจ้าของคนใหม่อย่าง Elon Musk มหาเศรษฐีพันล้าน ได้ระบุไว้ในทวีตในวันที่ทำการเปลี่ยนชื่อ

 

แม้จะมีบางคน (โดยเฉพาะแฟนๆ ของ Musk) ยอมรับในแบรนด์ X แต่คนส่วนใหญ่ยังคงไม่ยอมรับ

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

หลายคนทั้งในโลกออนไลน์และโลกความเป็นจริงยังชินกับคำว่า Twitter และยังคงเรียกโพสต์บนแพลตฟอร์มว่า ‘ทวีต’ ขณะที่สื่อจำนวนหนึ่งยังคงเรียกแพลตฟอร์มนี้ว่า ‘X แพลตฟอร์มเดิมที่รู้จักกันในชื่อ Twitter’ หรือไม่ก็รูปแบบอื่นที่ใกล้เคียง

 

เมื่อเดือนที่แล้ว ตอนที่ Linda Yaccarino ซีอีโอของ X กล่าวสุนทรพจน์ที่วุฒิสภาสหรัฐฯ เกี่ยวกับความล้มเหลวของสื่อสังคมออนไลน์ในการจัดการการแสวงหาประโยชน์จากเด็ก หนึ่งในแม่ของเหยื่อระบุถึงแพลตฟอร์มเป็น ‘Twitter หรือชื่อใหม่ X’ ในวิดีโอข้อความของเธอ

 

ทั้งหมดอาจเกิดขึ้นจากความสับสน และจากการที่ชื่อมีปัญหาทางจิตวิทยาในการออกแบบและการสร้างแบรนด์

 

 

ทำไมคนจำนวนมากจึงชื่นชอบ Twitter

 

Twitter เปิดตัวสู่สาธารณะเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2006 และภายในไม่กี่ปีก็สามารถสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ได้อย่างกว้างขวาง

 

Twitter กลายเป็นหนึ่งในบริษัทไม่กี่แห่งที่มี “ผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจนชื่อแบรนด์กลายเป็นพฤติกรรมหนึ่ง” Ramon Jimenez ปรึกษาหลักด้านแบรนด์จาก Wolff Olins ให้สัมภาษณ์ผ่านอีเมลกับ CNN Business 

 

Twitter แพร่หลายไปทั่วทุกส่วนของชีวิตบนโลกออนไลน์และวัฒนธรรมสมัยใหม่ ในปี 2011 คำว่า ‘Tweet’ ถูกเพิ่มเข้าไปอยู่ในพจนานุกรมของ Merriam-Webster และคำว่า ‘Retweet’ ก็ถูกเพิ่มเข้าไปในพจนานุกรม Concise Oxford English ในปีเดียวกัน

 

แม้ว่า Twitter จะห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบ แต่ผู้คนหลั่งไหลกันเข้าสู่แพลตฟอร์ม เพราะสำหรับหลายคน Twitter เป็นสถานที่แบ่งปันความคิดเห็นในเหตุการณ์สำคัญ รวมไปถึงช่วงเวลาสำคัญ เช่น ได้งานใหม่ งานหมั้น หรือการท่องเที่ยว 

 

สำหรับนักข่าว Twitter เป็นช่องทางติดตามกระแสของวัฒนธรรมและติดต่อแหล่งข่าวที่ต้องการ สำหรับบุคคลสาธารณะ มันเป็นช่องทางเชื่อมต่อกับผู้ติดตามและทำให้ดูเป็นคนเข้าถึงได้ง่าย

 

“ชื่อ Twitter มีความหมายสำหรับผู้ใช้” Marty Neumeier ผู้เชี่ยวชาญด้านแบรนด์และผู้อำนวยการฝ่ายทรานส์ฟอร์เมชันจาก Liquid Agency ให้สัมภาษณ์กับ CNN

 

เมื่อความเปลี่ยนแปลงมาถึง Twitter

 

หลังจาก Musk เข้าซื้อแพลตฟอร์มในเดือนตุลาคม 2022 (6 เดือนหลังจากยื่นข้อเสนอในการเข้าซื้อที่เต็มไปด้วยข้อโต้แย้ง) Twitter ก็ได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

 

ความพยายามในการลดต้นทุน “ได้มุ่งไปที่การลดพนักงานให้ได้มากที่สุดในเวลาที่สั้นที่สุดเท่าที่ทำได้” Zoë Schiffer ให้สัมภาษณ์กับ CNN ซึ่งเธอได้เขียนหนังสือเรื่อง Extremely Hardcore: Inside Elon Musk’s Twitter ที่ถ่ายทอดประสบการณ์ของพนักงาน Twitter ในช่วงที่ Musk เข้ามารับตำแหน่งในวันที่ 13 กุมภาพันธ์

 

การลดคนส่งผลให้แพลตฟอร์มไม่เสถียร และยิ่งส่งเสริมข้อมูลที่ผิดให้แพร่หลายมากขึ้น Schiffer ระบุ

 

ในช่วงต้นปี 2023 Twitter Inc. บริษัทผู้เป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม ได้เปลี่ยนชื่อเป็น X Corp. ซึ่ง Musk เริ่มทวีตว่า “ถึงเวลาแล้วที่แพลตฟอร์มควรเปลี่ยนชื่อเป็น X” สิ่งนี้เกิดขึ้นหลังจาก 17 ปีที่เปิดตัวสู่สาธารณะ

 

Musk มีความชื่นชอบการสร้างแบรนด์ X มาหลายสิบปีแล้ว เขาตั้งใจจะตั้งชื่อสตาร์ทอัพแรกของเขาว่า X  ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เขาทะเลาะเบาะแว้งกับเพื่อนร่วมก่อตั้ง Schiffer ระบุ เขายังตั้งชื่อลูกคนหนึ่งของเขาว่า X ด้วย

 

“วินาทีที่ Musk ตัดสินใจซื้อ Twitter เขาเริ่มบอกเพื่อนสนิทมิตรสหายว่า นี่คือโอกาสของฉันที่จะรื้อฟื้น x.com”

 

 

Musk กล่าวว่า การเปลี่ยนชื่อ Twitter เป็นส่วนหนึ่งในการเดินหน้าผลักดันให้แพลตฟอร์มกลายเป็น ‘The Everything App’ ที่ผสานรวมประสบการณ์ต่างๆ เข้าด้วยกันในหน้าจอเดียว นี่เป็นนิยามที่ X ได้ระบุไว้

 

การผลักดันดังกล่าวทำให้เกิดฟีเจอร์ใหม่ๆ ถูกเพิ่มเข้ามาบ้าง ก่อนจะมีการเปลี่ยนแบรนด์ เช่น สมาชิก Blue สามารถอัปโหลดวิดีโอที่มีความยาวหลายชั่วโมงและส่งข้อความเสียงเข้าไปใน Direct Messages ได้ แต่วิสัยทัศน์ของ Musk กลับไม่ได้เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ในช่วงที่เปลี่ยนแบรนด์เมื่อปีก่อน

 

ผลที่ตามมา

 

การเปลี่ยนชื่อสร้างความสับสนอยู่ทั่วไปบนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะเมื่อมีการเปลี่ยนโลโก้ แต่ทางบริษัทกลับอืดอาดในการอัปเดตเนื้อหาบนเว็บไซต์ ซึ่งคำว่า Twitter, Retweet และ Quote Tweet ยังคงอยู่บนเว็บไซต์อยู่หลายวันหลังการเปลี่ยนแบรนด์

 

แม้ว่า Twitter จะไม่ใช่บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่รายแรกที่รีแบรนด์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บิ๊กเทคอย่าง Google และ Facebook ที่เปลี่ยนเป็น Alphabet และ Meta ตามลำดับ ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด

 

ผู้เชี่ยวชาญทั้งสี่คนที่ CNN พูดคุยด้วยกล่าวว่า ความจริงที่ว่าผู้ใช้หลายคนไม่เข้าใจว่าเหตุใด Twitter จึงถูกรีแบรนด์ ทำให้พวกเขายอมรับแพลตฟอร์ม X ได้ยาก ซึ่งแตกต่างจากยักษ์ไอทีทั้งสอง 

 

Schiffer กล่าวว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแพลตฟอร์มหลักไม่เปลี่ยนแปลงจริงๆ

 

“ฉันคิดว่าการรีแบรนด์บริษัทจะสำเร็จได้ หากคุณกำลังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดและต้องการขยายขอบเขตของสิ่งที่แบรนด์ทำอยู่แบบพลิกโฉมไปเลย” Schiffer กล่าว “แต่นี่จะเป็นเหรียญคนละด้านหากคุณเพียงแค่ใส่ชื่อใหม่ลงบนผลิตภัณฑ์เก่า”

 

CNN ระบุว่า ได้ติดต่อ X เพื่อขอความคิดเห็นแต่ไม่ได้รับคำตอบ

 

ด้วยฟีเจอร์การโทรแบบเสียงและวิดีโอ การเพิ่ม Grok AI บนแพลตฟอร์ม และการชำระเงินแบบ Peer-to-Peer ที่จะเกิดขึ้นในปลายปีนี้ ในที่สุด X อาจแตกต่างจากที่อื่นๆ ในแบบที่ใหญ่กว่า กระนั้นก็ยังเป็นที่น่าจับตามองว่าเพียงพอที่จะทำให้คนเลิกเรียกมันว่า Twitter ได้หรือไม่ก็ตาม

 

ในขณะที่แฟนๆ ของ Musk เป็นกลุ่มคนที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการรีแบรนด์อย่างเปิดเผยที่สุด แต่พวกเขาไม่ได้เป็นกลุ่มเดียว Schiffer กล่าวว่า อดีตพนักงาน Twitter หลายคนรู้สึกโล่งใจเมื่อ Musk ประกาศการรีแบรนด์ เพราะนี่ไม่ใช่บริษัทที่พวกเขาใช้เวลาหลายปีในการสร้างและปกป้องอีกต่อไป

 

“มีบางคนรู้สึกโล่งใจจริงๆ” เธอกล่าว “พวกเขาพูดประมาณว่า ‘โอเค ใช่ Twitter ตายแล้ว’”

 

 

สาเหตุที่ชื่อ X ไม่โดนใจ

 

Neumeier กล่าวว่า การรีแบรนด์ Twitter เป็น X ล้มเหลวในหมู่ผู้ใช้ทั่วไปถึงตอนนี้ เนื่องจากชื่อ ‘ดูเหมือนการพิมพ์ผิด’

 

James Withey ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และนวัตกรรมระดับโลกของ Landor ผู้เชี่ยวชาญด้านแบรนด์ กล่าวว่า การเปลี่ยนชื่อต้องใช้เวลาในการทำความคุ้นเคย โดยชี้ว่า ผู้คนจะยังคงเรียก Nissan ว่า ‘Datsun’ อยู่พักหนึ่งหลังจากที่รีแบรนด์ในช่วงทศวรรษ 1980

 

Withey กล่าวว่า การรีแบรนด์ X อาจมีเส้นทางที่ยากลำบากกว่า เนื่องจากเป็นกรณีที่ผิดปกติของแบรนด์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์สูง ซึ่งเป็นพลังทางวัฒนธรรมมานานกว่าทศวรรษ แต่ถูกเปลี่ยนชื่อชั่วข้ามคืน

 

“การเลือกชื่อใหม่ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะมันเป็นเพียงแค่ตัวอักษร และไม่ได้สื่อถึงประสบการณ์ของผู้ใช้อย่างที่ Twitter เคยเป็น” Withey กล่าว “X ยังไม่สนับสนุนให้ถูกใช้เป็นคำกริยา เช่น ‘ฉันจะ X เกี่ยวกับเรื่องนี้’ ซึ่งไม่มีความหมายเหมือนกับฉันกำลังจะทวีต”

 

นับตั้งแต่การรีแบรนด์ ผู้ใช้ X บางคนยังคงสนับสนุนการใช้แบรนด์แบบเดิมของแพลตฟอร์ม เมื่อบัญชีหนึ่งเปิดโหวตถามผู้ใช้ว่า เรียกแพลตฟอร์มด้วยชื่ออะไร เกือบ 95% ของคะแนนโหวต 33,210 คะแนนคือ Twitter แฟนๆ คนอื่นๆ ได้สร้างเสื้อยืดที่มีข้อความ ‘I Still Call It Twitter’ ประดับอยู่ด้านหน้า

 

บน Reddit แฟนๆ ของ Twitter แสดงความไม่ชอบใจต่อชื่อ X อย่างสุดโต่ง หลังจากประกาศรีแบรนด์ ผู้ใช้คนหนึ่งถามว่าสามารถยื่นฟ้องแบบ Class Action Lawsuit เพื่อป้องกันการสร้างแบรนด์ใหม่ได้หรือไม่

 

“คุณต้องจำไว้ว่าแบรนด์คืออะไร” Neumeier กล่าว “มันคือความรู้สึกที่ไวต่อผลิตภัณฑ์ บริการ หรือบริษัทของลูกค้า ดังนั้นแบรนด์จึงเป็นสิ่งที่พวกเขาพูดถึง ไม่ใช่ว่าลูกค้าจะหยุดเรียกมันว่า Twitter ไม่ได้ แต่เพราะพวกเขาจะไม่ทำ”

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising