ธุรกิจโฆษณา ‘Twitter’ ในอเมริกา กำลังตกที่นั่งลำบาก หลังรายได้ลดลงกว่า 59% และมีแนวโน้มจะลดลงอีกเรื่อยๆ จากแบรนด์ใหญ่ลดงบโฆษณา หวั่นเนื้อหาสร้างความเกลียดชัง อาจเป็นต้นเหตุให้ผู้ใช้งานเข้าใจผิดและสร้างผลกระทบให้กับแบรนด์
“ลูกค้าโฆษณาในยุโรปและอเมริกาเหนือพยายามจะทำให้ Twitter ล้มละลาย และกดดันบริษัทอย่างหนัก จนทำให้รายได้จากโฆษณาเราหายไปมากกว่าครึ่ง” อีลอน มัสก์ อดีตซีอีโอ Twitter กล่าว
สำนักข่าว The New York Times รายงานว่า เมื่อไม่นานมานี้ อีลอน มัสก์ เพิ่งจะประกาศไปว่าธุรกิจโฆษณาของ Twitter กำลังเติบโตขึ้นเพราะลูกค้าเริ่มใช้งบในการโฆษณาแล้ว และยืนยันว่าจะกลับมาทำกำไรได้เร็วๆ นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
แต่กลับไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังเอาไว้ หลังจากรายได้โฆษณาใน Twitter อเมริกา ระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม ลดลง 59% หรืออยู่ที่ 88 ล้านดอลลาร์ และคาดการณ์ว่าในเดือนมิถุนายน รายได้จากโฆษณาในอเมริกาอาจลดลงต่อเนื่อง
พนักงานขายโฆษณาของ Twitter กล่าวว่า ลูกค้าส่วนใหญ่อาจกังวลเกี่ยวกับข้อความที่สื่อถึงความเกลียดชังและภาพลามกอนาจารที่เพิ่มขึ้นบนแพลตฟอร์ม Twitter รวมไปถึงโฆษณาพนันออนไลน์และผลิตภัณฑ์กัญชาที่มีมากขึ้น
เช่นเดียวกับผู้บริหารเอเจนซีที่ทำงานร่วมกับ Twitter กล่าวว่า ลูกค้าส่วนใหญ่มีการลดงบโฆษณาลง โดยอ้างว่าแพลตฟอร์มมีการเปลี่ยนแปลงด้านการบริการมากขึ้น ทำให้เกิดความสับสนและกังวลเกี่ยวกับเนื้อหาที่แสดงความเกลียดชัง อาจเป็นต้นเหตุให้ผู้ใช้งานเข้าใจผิด และสร้างผลกระทบไปถึงแบรนด์สินค้า
แน่นอนว่าผลกระทบดังกล่าวสร้างความกดดันให้กับ ลินดา ยัคคาริโน อดีตหัวหน้าฝ่ายโฆษณาของเอ็นบีซียูนิเวอร์แซล ที่เพิ่งก้าวขึ้นมาเป็นซีอีโอคนใหม่ของ Twitter ที่ต้องรับหน้าที่ในการหาทางออกให้เร็วที่สุด เพราะปัจจุบัน อีลอน มัสก์ อดีตซีอีโอได้ถอยฉากออกมาดูภาพใหญ่ และด้านเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียวแล้ว
ถึงกระนั้นบริษัทก็กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาและหาวิธีที่จะทำให้ผู้ใช้โฆษณาซื้อพื้นที่บนแพลตฟอร์มได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
ทั้งนี้ ธุรกิจโฆษณาของ Twitter นั้นเป็นรายได้หลักคิดเป็น 90% ของรายได้รวม ที่ผ่านมาวงการเอเจนซีโฆษณาและแบรนด์ใหญ่ๆ รวมถึง General Motors Company และ Volkswagen หยุดใช้งบโฆษณาบน Twitter ชั่วคราว ไม่เว้นแม้แต่ Apple, Amazon และ Disney ที่ลดการใช้จ่ายโฆษณาบนแพลตฟอร์มลงอย่างต่อเนื่อง
โดยสาเหตุหลักที่ทำให้ธุรกิจโฆษณาเริ่มแย่ลง เกิดขึ้นหลังจาก อีลอน มัสก์ เข้าซื้อ Twitter ในราคา 4.4 หมื่นล้านบาท ในเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ตั้งแต่นั้นมาทำให้มูลค่าของ Twitter ลดลงมาถึง 50%
อ้างอิง: