×

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการใช้ฟ้าทะลายโจรเพื่อรักษาโรคโควิดในผู้ป่วยที่มีความรุนแรงน้อย เพื่อยับยั้งกระบวนการติดเชื้อไวรัสลงปอด

09.07.2021
  • LOADING...
ฟ้าทะลายโจร

ตอนนี้ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรเป็นที่ต้องการของประชาชนจำนวนมาก จนบางยี่ห้อขาดตลาดไปแล้ว ซึ่งคนที่เปิดเผยข้อมูลและคุณประโยชน์เกี่ยวกับฟ้าทะลายโจรที่เกี่ยวพันกับการเสริมภูมิคุ้มกันในช่วงโควิดระบาดเป็นคนแรกๆ คือ ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร บอกว่า “ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรมีประโยชน์ในการนำมาใช้กับผู้ป่วยโควิด (ตั้งแต่การระบาดระลอกแรก) กับกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการน้อยหรือไม่มีอาการเลยในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข แล้วพบว่าผู้ป่วยที่มีอาการน้อยๆ เหล่านั้น หลังได้รับยาฟ้าทะลายโจรแล้วมีอาการดีขึ้น โดยไม่มีผลข้างเคียงแต่อย่างใด  


ที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้มีการนำฟ้าทะลายโจรไปทำการวิจัยร่วมกับคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อศึกษากลไกในการต้านโควิด จากผลการศึกษาพบว่า สารสกัดฟ้าทะลายโจร และสารแอนโดรกราโฟไลด์ ซึ่งเป็นสารสำคัญในฟ้าทะลายโจร มีความสามารถในการยับยั้งกระบวนการติดเชื้อไวรัสของเซลล์ปอด โดยผ่านกลไกที่สำคัญคือการยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อโควิดในทุกระยะ จึงมีโอกาสที่จะพัฒนาการใช้ฟ้าทะลายโจรเป็นยาเดี่ยว หรือใช้ควบรวมกับสูตรยามาตรฐานในการรักษาผู้ที่ติดเชื้อโควิด ปัจจุบันผลงานวิจัยดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Natural Products แล้ว


ล่าสุด เภสัชกรหญิง กฤติยา ไชยนอก สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มีการแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดของการใช้ฟ้าทะลายโจรเพื่อบรรเทาอาการของโรคหวัด และการใช้เพื่อรักษาโรคโควิดในประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ เรื่อง บัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2564 เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2564 และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 138 ตอนพิเศษ 120 ง วันที่ 4 มิถุนายน 2564 หน้า 46-47) โดยอนุญาตให้มีการใช้ยาฟ้าทะลายโจรโดยมีรายละเอียดดังนี้

 

ยาสารสกัดผงฟ้าทะลายโจรที่มีแอนโดรกราโฟไลด์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 4 โดยน้ำหนัก (w/w) ในรูปแบบยาแคปซูล (Capsule) ยาเม็ด (Tablet) สั่งจ่ายโดยแพทย์เวชกรรม เนื่องจากโรคโควิดต้องได้รับการวินิจฉัยโดยแพทย์ และมีเงื่อนไขสำคัญว่า

 

  1. ใช้กับผู้ป่วยโรคโควิดที่มีความรุนแรงน้อย เพื่อลดการเกิดโรคที่รุนแรง
  2. เฉพาะผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่มีการควบคุมปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์
  3. รับประทานในขนาดยาที่มีปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์ 180 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งเป็นวันละ 3 ครั้ง 
  4. ใช้โดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
  5. มีการติดตามประเมินประสิทธิผลและความปลอดภัยหลังการใช้อย่างเป็นระบบ

 

หมายเหตุ: สามารถใช้ยาฟ้าทะลายโจรกับ 

  • บัญชี 1 รายการยาที่ใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพ
  • บัญชี 2 รายการยาที่ต้องใช้โดยแพทย์แผนไทย หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการของสถานพยาบาลนั้นๆ โดยใช้องค์ความรู้การแพทย์แผนไทย
  • บัญชี 3 รายการยาสำหรับโครงการพิเศษของหน่วยงานของรัฐ

 

ทางด้านแพทย์หญิงศรันยา สาครินทร์ แพทย์แผนปัจจุบัน จบจากโรงพยาบาลรามาธิบดี และศึกษาต่อปริญญาโทด้านฝังเข็มยาจีน นวดทุยหนา และโภชนาการจากสหรัฐอเมริกา จึงมีความเชี่ยวชาญด้านสุขภาพและการรักษาโรคจากทั้งศาสตร์ตะวันออกและตะวันตกให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลวิจัยของฟ้าทะลายโจรว่า 

 

ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของฟ้าทะลายโจรมีสารสำคัญชื่อว่า ‘สารแอนโดรกราโฟไลด์’ (Andrographolide) ช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสได้ในทุกระยะ และช่วยยับยั้งการอักเสบ และยังมีสารประกอบสาร Lactone 4 ชนิดที่มีฤทธิ์เย็นหนืด ช่วยจับโปรตีนของไวรัสให้อยู่กับที่ ทำให้ฤทธิ์ของฟ้าทะลายโจรต้านไวรัสได้ดียิ่งขึ้น และช่วยป้องกันผลข้างเคียงจากยาปฏิชีวนะได้ ลดการบีบตัวของลำไส้ ต้านเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของอาการท้องเสีย ช่วยรักษาอาการไอ เจ็บคอ ป้องกัน และบรรเทาหวัด

 

ในทางแพทย์แผนจีนนั้นระบุว่า ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์เย็นจัด มีรสขมและแห้ง มีสรรพคุณลดความร้อน ทั้งความร้อนในร่างกายและความร้อนเกินที่เข้ามาในร่างกาย เช่น ติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ช่วยดูดความชื้นในร่างกาย ขจัดเสลดของเหลวต่างๆ ให้แห้ง จึงช่วยลดอุณหภูมิร่างกายได้เวลาเป็นไข้ขึ้นสูง ลดเจ็บคอ ช่วยเรื่องการทำงานของปอดเป็นหลัก สำหรับหมอเองก็ใช้ฟ้าทะลายโจรควบคู่กับสูตรยาจีนเพื่อช่วยลดอุณหภูมิความร้อนให้คนไข้ เพราะสามารถใช้ร่วมกันได้ หมอแนะนำให้กินแบบธรรมชาติ คือกินเป็นใบทั้งแบบสดหรือตากแห้งบดก็ได้ โดยปริมาณในการกินยาฟ้าทะลายโจรนั้นมีดังนี้



กินเพื่อป้องกัน (For Prevention) 

สามารถกินแบบใบสด ประมาณวันละ 2-3 ใบ เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 3 เดือนในช่วงฤดูหนาว จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกายได้

 

กินแบบตากแห้งแล้วบดใส่แคปซูล กินวันละ 1 แคปซูล (ประมาณ 500 มิลลิกรัม) ติดต่อกันทุกวันเป็นเวลา 3 เดือน ระยะเวลาและขนาดปริมาณประมาณนี้ยังไม่มีผลข้างเคียงเรื่องการทำลายตับ มีงานวิจัยคำนวณอิงสารแอนโดรกราโฟไลด์เพื่อป้องกันหวัดจะใช้ปริมาณ 11.2 มิลลิกรัมต่อวัน กิน 5 วันต่อสัปดาห์ ต่อเนื่อง 3 เดือน มีผลป้องกันหวัดได้) 

 

กินเพื่อรักษา (For Treatment)

สำหรับปริมาณการรักษา หมอแนะนำให้เลือกแบบตากแห้งแล้วบดใส่แคปซูล กินครั้งละ 1,500-3,000 มิลลิกรัม จำนวน 4 ครั้งต่อวัน หรือประมาณ 2-4 แคปซูล วันละ 3 มื้อ ระยะเวลา 7-10 วัน (หรือไม่ควรเกิน 2 สัปดาห์) หากอิงจากสารแอนโดรกราโฟไลด์ ระดับในการรักษาคือประมาณ 60-120 มิลลิกรัมต่อวันนั่นเอง

 

อ้างอิง: 

  • https://www.hfocus.org
  • โรงพยาบาลอภัยภูเบศร
  • กรมสุขภาพจิต 
FYI

ข้อห้ามใช้ของยาฟ้าทะลายโจร 

 

  • ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่มีอากาแพ้ฟ้าทะลายโจร
  • ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ 
  • ห้ามใช้แก้เจ็บคอ ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการเจ็บคอเนื่องจากติดเชื้อ Streptococcus group A 
  • ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคไตอักเสบ เนื่องจากติดเชื้อ Streptococcus group A
  • ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคหัวใจรูมาติก
  • ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอเนื่องจากมีการติดเชื้อแบคทีเรีย และมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มหนองในคอ มีไข้สูงและหนาวสั่น

 

ข้อควรระวัง

 

  • หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้มีอาการชาหรืออ่อนแรง
  • หากใช้ฟ้าทะลายโจรติดต่อกัน 2 วันแล้วไม่หาย หรือมีอาการรุนแรงขึ้นระหว่างใช้ยา ควรหยุดใช้และพบแพทย์
  • ควรระวังการใช้ร่วมกับสารกันเลือดลิ่ม (anticoagulants) และยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด (antiplatelets)
  • ควรระวังการใช้ร่วมกับยาที่กระบวนการ​เมตาบอลิซึมมผ่านเอนไซม์ Cytochrome P450 (CYP 450) เนื่องจากฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ CYP 1A2, CYP 2C9 และ CYP 3A4
  • การใช้ยาฟ้าทะลายโจรอาจเกิดอาการไม่พึงประสงค์ดังนี้ เกิดอาการผิดปกติของทางเดินอาหาร เช่น ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ เบื่ออาหาร วิงเวียนศีรษะ ใจสั่น และอาจเกิดลมพิษได้
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X