×

จับตา ‘TSMC-Samsung’ ผงาดผู้นำตลาดชิป หลังยักษ์ใหญ่อย่าง Intel เผยผลประกอบการที่ย่ำแย่จนน่าตกใจ

05.02.2023
  • LOADING...
TSMC-Samsung

ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดของโลกหลายราย รวมถึง Intel และ SK hynix ได้สร้างความตกใจให้กับนักลงทุนด้วยการขาดทุนครั้งใหญ่ในปี 2022 อย่างไรก็ตาม บริษัทในเอเชีย 2 แห่ง ได้แก่ TSMC และ Samsung ดูเหมือนจะเป็นบริษัทที่รอดพ้นจากผลกระทบรุนแรงที่เกิดขึ้น เนื่องจากความสามารถในการจัดการกับความท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งบ่งบอกถึงสัญญาณการเปลี่ยนแปลงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมชิป

 

Stacy Rasgon นักวิเคราะห์จาก Bernstein กล่าวถึงประสิทธิภาพของ Intel ว่า ‘แย่อย่างน่าตกใจ’ Intel เคยเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมชิป แต่ปัจจุบันได้เผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ เช่นเดียวกับ SK hynix บริษัทผลิตชิปรายใหญ่ของเกาหลีใต้ ที่รายงานผลขาดทุนจากการดำเนินงานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 4 ของปี 2022 เนื่องจากความต้องการชิปหน่วยความจำชะลอตัวลงอย่างมาก

 

TSMC อาจเติบโตแซงหน้า Intel

ในทางกลับกัน TSMC เปิดเผยผลกำไรที่น่าประทับใจ และแม้ภาคธุรกิจชิปต้องเผชิญกับความต้องการที่ลดลง แต่บริษัทก็คาดการณ์ว่าจะเพิ่มรายได้อีกครั้งในปี 2023 TSMC แซงหน้า Intel Corp.ในฐานะผู้นำในการผลิตชิปขั้นสูง โดยมีรายได้มากกว่าคู่แข่งในสหรัฐฯ ประมาณ 13,000 ล้านดอลลาร์ 

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง​:


 

นอกจากนี้ Samsung ก็ทำผลงานได้ดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับคู่แข่ง และอวดความสำเร็จด้วยการมุ่งมั่นที่จะใช้เงินลงทุนต่อไป ในขณะที่รายอื่นกำลังประกาศลดการลงทุนและลดขนาดการผลิตลง

 

TSMC และ Samsung ประสบความสำเร็จอย่างมากและกำลังเอาชนะคู่แข่งในอุตสาหกรรม โดย TSMC ถือว่ามีเทคโนโลยีในการผลิตชิปที่ล้ำหน้าผู้รับจ้างผลิตรายอื่นในตลาดอยู่มาก โดยที่เทคโนโลยีระดับสูงของบริษัทก็เป็นที่ต้องการจากบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง เช่น Apple และ Nvidia

 

ขณะที่ Samsung ซึ่งมีเทคโนโลยีใกล้เคียงกันกับ TSMC ได้ใช้ความสามารถนี้เอาชนะบริษัทอื่นๆ เช่น SK hynix และ Micron Technology ในอุตสาหกรรมชิปหน่วยความจำ

 

อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์นั้นประสบกับภาวะชะลอตัวในระดับที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจกินเวลานานต่างกัน โดยทั่วไปบริษัทขนาดใหญ่จะจัดการได้ดีกว่าในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว และสิ่งนี้กำลังเกิดขึ้นอีกครั้งในขณะนี้ บริษัทที่ผลิตสินค้าอย่างสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อุตสาหกรรม มีสินค้าคงคลังมากเกินไปจึงต้องลดคำสั่งซื้อลงเร็วกว่าที่ซัพพลายเออร์จะลดการผลิตลงได้ ส่งผลให้ราคาลดลงและค่าใช้จ่ายพุ่งสูงขึ้น ซึ่งทำให้ผลผลิตของอุตสาหกรรมชะลอตัวลง

 

Samsung ยังมีกำไร แม้รายได้ลดลง

Samsung ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก (ในแง่รายได้) เผยผลประกอบการไตรมาส 4 แย่ที่สุดในรอบ 8 ปี รายได้ของธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ลดลง 24% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และรายได้จากการดำเนินงานลดลงอย่างมากจากไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม Samsung ยังคงสามารถทำกำไรได้ ในขณะที่คู่แข่งรายเล็กอย่าง Western Digital, Micron และ SK hynix ต่างก็ขาดทุน

 

Marcello Ahn ผู้จัดการการลงทุนของ QUAD Investment Management กล่าวว่า Samsung สร้างกระแสเงินสดเป็นบวก ในขณะที่คู่แข่งกำลังขาดทุน เมื่ออุตสาหกรรมหน่วยความจำดีขึ้น ฐานต้นทุนของ Samsung ก็จะต่ำกว่ารายอื่น และจะทำกำไรได้มากขึ้น

 

ในอุตสาหกรรมหน่วยความจำ การมีความสามารถในการแบ่งค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการดำเนินงานโรงงานผลิตชิปกับผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่ขายได้ ทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีต้นทุนถูกลง

 

ทั้งนี้ อ้างอิงจากการสำรวจของ Bloomberg พบว่ารายได้ในปี 2022 ของ Samsung และ TSMC แซงหน้า Intel ไปแล้ว โดย Samsung มีรายได้รวม 7.99 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วน TSMC มีรายได้รวม 7.59 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ Intel มีรายได้รวม 6.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

TSMC แซงหน้า Intel ได้เร็วกว่าที่นักวิเคราะห์หลายคนคาดไว้ รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น 33% ในปีที่แล้ว ในขณะที่ Intel ลดลง 20% TSMC ซึ่งมีโรงงานให้บริการแก่บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกหลายแห่ง ได้จัดหาเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยที่สุดให้แก่คู่แข่งและลูกค้าจำนวนมากของ Intel

 

รายใหญ่ ‘ทุ่มลงทุน’ ช่วงชิงตำแหน่งผู้นำ

อย่างไรก็ตาม ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ การเป็นผู้นำไม่ได้ขึ้นอยู่กับส่วนแบ่งการตลาดและรายได้เท่านั้น ในธุรกิจนี้ เทคโนโลยีการผลิตมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพของชิป ความสามารถในการใช้เทคนิคและอุปกรณ์ใหม่ล่าสุด ทำให้ผู้ผลิตชิปไม่เพียงแค่มีต้นทุนที่ดีขึ้น แต่ยังสามารถผลิตชิปที่ขายได้ในราคาที่สูงขึ้นเนื่องจากมีประสิทธิภาพที่มากกว่า

 

Intel เคยเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ต่อเนื่องมาหลายสิบปี เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของ Intel หลังจากความล่าช้าในการผลิตชิปเทคโนโลยีก้าวหน้ารุ่นใหม่ๆ ด้วยเหตุนี้ ผู้บริหารได้บอกกับนักลงทุนว่ามีการใช้จ่ายเงินจำนวนมากไปกับการสร้างโรงงาน อุปกรณ์ และการวิจัยและพัฒนา เพื่อรองรับความต้องการชิปในอนาคตที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย Intel จะมีความพร้อมที่ดีกว่าในการใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ลดการใช้จ่ายและปล่อยให้การผลิตของพวกเขาช้าลง

 

อย่างไรก็ตาม คู่แข่งของ Intel ในเอเชียตะวันออกได้ใช้กลยุทธ์ดังกล่าวเช่นกัน โดย TSMC ตั้งใจที่จะลงทุนสูงถึง 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ในทำนองเดียวกัน Samsung เพิกเฉยต่อการเรียกร้องให้ลดขนาดการลงทุนและประกาศว่าจะใช้จ่ายจำนวนใกล้เคียงกับในปี 2022 โดยทุ่มเงินลงทุนประมาณ 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อปรับปรุงการผลิตและสร้างโรงงาน

 

Intel ซึ่งปฏิเสธที่จะให้ประมาณการสำหรับปีนี้ ระบุว่ามีเป้าหมายสำหรับค่าใช้จ่ายในการลงทุน (Capex Intensity) ที่ประมาณ 35% ของรายได้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ารายได้ของ Intel ในปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 5.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยบอกว่างบประมาณในการลงทุนของบริษัทจะน้อยกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งทั้งสองอย่าง TSMC และ Samsung

 

สำหรับอุตสาหกรรมชิปหน่วยความจำ ซึ่งเป็นรายได้หลักในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ของ Samsung คาดว่าจะมีการปรับลดงบประมาณในปี 2023 เช่นเดียวกันกับเหล่าบริษัทผู้ผลิตหน่วยความจำชั้นนำอย่าง Micron, SK hynix และ Western Digital

 

รายกลางได้อานิสงส์ด้วย

แม้ว่ากลยุทธ์การลงทุนที่กล้าได้กล้าเสียของ TSMC อาจเพิ่มการแข่งขันให้กับ Intel แต่ก็มีแนวโน้มว่าจะเป็นการพัฒนาเชิงบวกสำหรับบริษัทจำนวนมากในภาคส่วนอิเล็กทรอนิกส์และอื่นๆ บริษัทเหล่านี้หลายแห่งใช้ความสามารถของ TSMC ในการพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ ตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดคือ Apple ซึ่งชิปซิลิคอนสำหรับ iPhone และคอมพิวเตอร์ Mac ผลิตโดย TSMC แต่เพียงผู้เดียว

 

AMD ผู้นำนวัตกรรมโปรเซสเซอร์และกราฟิกการ์ดระดับโลก ซึ่งต่อสู้ดิ้นรนมาอย่างยาวนานเพื่อแข่งขันกับ Intel อาศัย TSMC ในการผลิตเซิร์ฟเวอร์ โปรเซสเซอร์พีซี และชิปกราฟิก ขณะนี้บริษัทสร้างรายได้ต่อไตรมาสมากกว่าที่ทำเป็นประจำทุกปีในปี 2017 ในช่วงไตรมาสที่ 4 ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ของ AMD มียอดขายเพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของ Intel ลดลง 33%

 

Hans Mosesmann นักวิเคราะห์จาก Rosenblatt Securities ให้ความเห็นเกี่ยวกับความแตกต่างนี้ โดยระบุว่า “เรากำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในด้านพลังการประมวลผลในซิลิคอนแวลลีย์”

 

Qualcomm ผู้ผลิตชิปสำหรับสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดจากสหรัฐฯ และเป็นลูกค้าของทั้ง TSMC และ Samsung แสดงสัญญาณเชิงบวกในการผลักดันธุรกิจใหม่ในช่วงไตรมาสเดือนธันวาคม แผนกยานยนต์และอุปกรณ์เชื่อมต่อของบริษัทมีส่วนสนับสนุนรายได้ ชดเชยความต้องการโทรศัพท์มือถือที่ลดลง

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising