โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์กับ New York Post ขณะเดินทางบนเครื่องบิน Air Force One เมื่อวันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า เขาได้หารือกับ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เกี่ยวกับแนวทางการยุติสงครามยูเครนที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 3 ปี โดยทรัมป์ระบุว่า “เร่งให้มีการเจรจาและหวังว่ามันจะจบเร็วๆ นี้ ทุกวันมีคนเสียชีวิต สงครามในยูเครนมันเลวร้าย ผมอยากให้มันจบสิ้นเสียที” พร้อมเน้นย้ำว่า เขามีแผนที่จะยุติสงครามนี้โดยเร็วที่สุด แต่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนดังกล่าว
ไมเคิล วอลต์ซ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ ปฏิเสธที่จะยืนยันว่ามีการพูดคุยระหว่างทรัมป์กับปูตินจริงหรือไม่ แต่กล่าวว่า “ขณะนี้มีการสนทนาทางการทูตที่ละเอียดอ่อนเกิดขึ้นมากมาย” โดยวอลต์ซเผยว่า ผู้นำจากหลายประเทศ รวมถึง นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย, สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และบรรดาผู้นำในตะวันออกกลาง ต่างพร้อมให้ความร่วมมือในการช่วยหาทางออกให้กับสงครามยูเครน ซึ่งวอลต์ซย้ำว่า ทรัมป์พร้อมจะใช้ทุกมาตรการ ไม่ว่าจะเป็นการคว่ำบาตร การใช้ภาษีนำเข้า หรือแรงกดดันทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย เพื่อให้เกิดการเจรจาโดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ วอลต์ซยังเสริมว่า ทรัมป์มีจุดยืนที่ชัดเจนว่ายุโรปต้องมีบทบาทหลักในการรับผิดชอบความมั่นคงของยูเครนในระยะยาว โดยทรัมป์จะเป็นผู้ยุติสงคราม แต่ภาระด้านความมั่นคงหลังจากนั้นต้องเป็นของยุโรป
อย่างไรก็ตาม ทำเนียบเครมลินยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ต่อรายงานดังกล่าว โดยดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน กล่าวกับสำนักข่าว TASS ว่า “ขณะนี้มีการสื่อสารเกิดขึ้นมากมายในวอชิงตัน และผมอาจไม่ได้รับข้อมูลทั้งหมด ดังนั้นผมไม่สามารถยืนยันหรือปฏิเสธรายงานนี้ได้” แต่ เลโอนิด สลุตสกี ประธานคณะกรรมาธิการด้านกิจการระหว่างประเทศของรัสเซีย ระบุว่า “ขณะนี้กระบวนการเตรียมการเพื่อเปิดโต๊ะเจรจากับสหรัฐฯ กำลังดำเนินไปอย่างจริงจัง”
ภาพ: Kevin Lamarque / File Photo / Reuters
อ้างอิง:
