โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ไม่ยอมรับผิด หลังถูกเชิญตัวขึ้นศาลไมอามี รัฐฟลอริดา เมื่อวานนี้ (13 มิถุนายน) ตามเวลาท้องถิ่น กรณีจัดเก็บเอกสารลับทางการอย่างไม่ถูกต้องเหมาะสม
โดยทรัมป์ได้จัดเก็บเอกสารลับของทางการสหรัฐฯ เอาไว้หลายร้อยฉบับหลังจากที่ตัวเขาพ้นจากตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ไปแล้ว อีกทั้งยังพบรายงานว่าเขาพยายามที่จะขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทางการที่ต้องนำเอกสารเหล่านั้นกลับคืนมา
อดีตผู้นำสหรัฐฯ คนนี้กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกันที่ถูกคณะลูกขุนสั่งฟ้องความผิดถึง 37 กระทง หลังจากจงใจเก็บเอกสารลับที่เกี่ยวพันกับความมั่นคงของสหรัฐฯ จำนวนมากไว้ที่บ้านพักของตนในแถบปาล์มบีช รัฐฟลอริดา โดยไม่ส่งคืนให้กับทางการสหรัฐฯ ภายหลังจากที่พ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
สำนวนฟ้องร้องมีความยาวถึง 49 หน้า โดยทรัมป์ถูกกล่าวหาว่าจงใจยึดครองเอกสารลับ ซุกซ่อนเอกสารของรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงขัดขวางกระบวนการยุติธรรม และให้การบิดเบือนต่อเจ้าหน้าที่สืบสวนกลางสหรัฐฯ ซึ่งข้อมูลส่วนใหญ่เกี่ยวพันกับประเด็นด้านความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ แผนโต้กลับหากถูกโจมตี รวมถึงความเปราะบางของสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร ซึ่งหากมีการเผยแพร่ออกไป อาจส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อความมั่นคงของประเทศมหาอำนาจแห่งนี้ เบื้องต้นทรัมป์ไม่ยอมรับผิด และปฏิเสธข้อกล่าวหาทุกกระทง
ทรัมป์มองว่าการที่เขาถูกฟ้องร้องและต้องเดินทางมาขึ้นศาลนั้น เป็นความพยายามที่จะโจมตีเขาในทางการเมือง หลังจากที่เขาประกาศว่าจะสมัครชิงตำแหน่งแคนดิเดตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน และสู้ศึกเลือกตั้งสำคัญในช่วงปลายปี 2024 ซึ่งโพลหลายสำนักชี้ว่า ทรัมป์ยังคงมีคะแนนนิยมนำหน้าผู้สมัครร่วมพรรครีพับลิกันคนอื่นๆ อยู่ในขณะนี้
ภาพ: Ed Jones / AFP
อ้างอิง: