ทรัมป์หนุนโควโม นายกเทศมนตรีนิวยอร์ก ขู่ตัดงบหาก มัมดานี ชนะเลือกตั้ง

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศหนุน แอนดรูว์ โควโม (Andrew Cuomo) แคนดิเดตอิสระ นั่งเก้าอี้นายกเทศมนตรีนิวยอร์กซิตี้ เผยจะ ‘ตัดงบ’ หาก โซห์ราน มัมดานี (Zohran Mamdani) แคนดิเดตสายสังคมนิยมจากพรรคเดโมแครต ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยกล่าวหาว่า เป็น ‘คอมมิวนิสต์’ จากนโยบายเก็บภาษีคนรวย

ทั้งนี้ ทรัมป์โพสต์ข้อความใน Truth Social ว่า หากมัมดานีชนะการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนิวยอร์กซิตี้ มีความเป็นไปได้ที่เขาจะยุติการจัดสรรเงินกับรัฐบาลกลาง ยกเว้นให้ส่วนที่จำเป็นเท่านั้น โดยระบุว่า ทั้งเมืองจะกลายเป็นหายนะทางเศรษฐกิจและสังคม เพราะมัมดานีเป็น ‘คอมมิวนิสต์’ และเขาจะสนับสนุนโควโม เนื่องจากไม่มีทางเลือกมากนัก เพื่อยุติสถานการณ์ร้ายแรงนี้

“สถานการณ์ของนิวยอร์กซิตี้จะยิ่งเลวร้ายลงไปอีก หากมีคอมมิวนิสต์เป็นแกนนำ ในฐานะประธานาธิบดี ผมไม่อยากส่งเงินก้อนโตไป ผมมีหน้าที่บริหารประเทศชาติ และผมเชื่อมั่นว่า นิวยอร์กซิตี้จะเป็นหายนะทางเศรษฐกิจและสังคม หากมัมดานีชนะอย่างแน่นอน”

ทรัมป์ยังระบุต่อว่า หลักการที่มัมดานีเชื่อถือ ถูกทดสอบมานานนับพันปีแล้ว ซึ่งไม่เคยประสบความสำเร็จทางการเมืองสักครั้ง และโดยส่วนตัว เขาอยากเห็นพรรคเดโมแครตที่มีประวัติประสบความสำเร็จคว้าชัยในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี มากกว่าพรรคคอมมิวนิสต์ที่ไม่มีประสบการณ์ และเต็มไปด้วยความล้มเหลว

ผู้นำสหรัฐฯ ยังทิ้งท้ายว่า เขาจะสนับสนุนโควโม เพราะไม่มีทางเลือกมากนัก และเชื่อว่า แคนดิเดตรายนี้จะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม

ถ้อยแถลงดังกล่าวถือเป็นการตอกย้ำจุดยืนของทรัมป์ที่ต่อต้านมัมดานี โดยล่าสุด เขาให้สัมภาษณ์กับ CBS’s 60 minutes ว่า เป็นเรื่องยากมากในฐานะประธานาธิบดี ที่ต้องให้เงินกับนิวยอร์กซิตี้ เพราะหากกลุ่มคอมมิวนิสต์ปกครองจริง งบประมาณทุกอย่างที่ให้ไปคงเสียเปล่าทั้งหมด

อย่างไรก็ดี คำขู่ตัดงบประมาณของทรัมป์ต่อนิวยอร์ก ทำให้เกิดข้อถกเถียงทางวิชาการ เพราะปกติแล้ว อำนาจการจัดสรรงบประมาณตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ เป็นของสภาคองเกรส ขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่ได้มีหน้าที่ หรือบทบาทกำหนดโดยตรงว่า เมืองใดจะได้รับเงินจากรัฐบาลกลางเท่าไร

นอกจากนี้ วิธีการควบคุมทางการเงินอื่นๆ เช่น ออกกฎหมายอายัดเงิน ก็ยังเป็นสิ่งต้องห้ามตามกฎหมายของรัฐบาลกลางอีกด้วย

ปัจจุบัน โควโมออกมาระบุกับ Fox News ว่า นิวยอร์กซิตี้ต้องการนายกเทศมนตรีที่สนับสนุนทรัมป์ เพราะทรัมป์ทำตามคำขู่จริงแน่ๆ ทั้งตัดงบและส่งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ พร้อมระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ จะจัดการกับมัมดานีได้ง่ายดายเหมือนการแทงมีดที่ร้อนลงในเนย

มัมดานี ความหวังใหม่เดโมแครต?

มัมดานีคือแคนดิเดตนายกเทศมนตรีนิวยอร์กซิตี้วัย 33 ปี จากพรรคเดโมแครต ซึ่งได้รับเสียงสนับสนุนในการเลือกตั้งขั้นต้น (Primary Vote) คือ 43% ต่อ 36% โดยเอาชนะโควโม อดีตผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กซิตี้วัย 57 ปี ที่มีข้อกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศไปได้

เส้นทางของมัมดานีน่าจับตามอง เพราะความฉีกกฎทุกอย่างในหน้าการเมืองสหรัฐฯ จนได้รับการเปรียบเทียบว่า เป็น บารัก โอบามา รุ่นเยาว์ ทั้งเป็นมุสลิม มีเชื้อสายอินเดีย และประกาศตัวว่า สนับสนุนแนวคิด ‘สังคมนิยมประชาธิปไตย’ ซึ่งเขาได้รับการสนับสนุนจาก อเล็กซานเดรีย โอคาซีโอ-คอร์เตซ และ เบอร์นีย์ แซนเดอร์ส สมาชิกร่วมพรรคที่มีจุดยืนเดียวกัน

นโยบายเรือธงของมัมดานีที่ใช้ในการหาเสียง คือ การทำให้ประชาชนเข้าถึงนิวยอร์กซิตี้ เมืองหลวงที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในสหรัฐฯ ได้ โดยประกาศสวัสดิการต่างๆ เช่น บริการรถบัสฟรีทั่วเมือง, ตรึงค่าเช่าที่อยู่อาศัย, จัดตั้งร้านขายของชำขึ้นเอง, บริการดูแลเด็กตั้งแต่อายุ 6 สัปดาห์ – 5 ปี, เพิ่มการสร้างที่อยู่อาศัย, ควบคุมค่าเช่า และปฏิรูปสำนักนายกเทศมนตรีใหม่

“นี่คือเมืองที่ประชากร 1 ใน 4 ตกอยู่ในภาวะยากจน เมืองที่มีเด็ก 5 แสนคนนอนหิวโหยทุกคืน และนี่คือเมืองที่ตกอยู่อันตรายจากการทำให้มันพิเศษ” มัมดานีระบุในการสัมภาษณ์กับ BBC

แต่หนึ่งในนโยบายที่ทำให้เขาถูกตราหน้าว่าเป็นคอมมิวนิสต์ คือ การวางแผนเก็บภาษีผู้มีรายได้สูงสุดของเมือง (คนรวย, เศรษฐี หรือเจ้าของธุรกิจ) ซึ่งมีการประเมินไว้ว่า นิวยอร์กซิตี้จะได้เงินมากขึ้นถึง 4 พันล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ เพียงพอกับการจัดทำสวัสดิการให้พลเมือง

อันที่จริงแล้ว นโยบายนี้มีปัญหาในทางเทคนิค เพราะนายกเทศมนตรีนิวยอร์กซิตี้ไม่มีอำนาจเก็บภาษีประเภทนี้โดยตรง แต่ต้องขอการอนุมัติจากสภารัฐ และผู้ว่าการรัฐ ทว่าประเด็นดังกล่าวทำให้มัมดานีถูกโจมตีจากกลุ่มอนุรักษนิยม เช่น เบน ชาพีโร (Ben Shapiro) อินฟลูเอนเซอร์ผู้สนับสนุนทรัมป์เรียกเขาว่า ‘คอมมิวนิสต์’ ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ข่มขวัญชาวอเมริกันของรีพับลิกันมาเนิ่นนาน

อย่างไรก็ดี อันนา กรีซมาลา-บุสเซ (Anna Grzymala-Busse) ศาสตราจารย์ด้านการเมืองระหว่างประเทศจาก Stanford University ระบุกับ PolitiFact ว่า มัมดานีไม่ใช่ คอมมิวนิสต์ เพราะเขาไม่มีแนวคิดวางแผนระบบเศรษฐกิจจากส่วนกลาง โดยไร้กลไกตลาดหรือราคา รวมถึงไม่ได้เรียกร้องให้มีพรรคการเมืองเดียวปกครองประเทศ

ปัจจุบัน Atlas Intel Poll ระบุว่า มัมดานีมีโอกาสชนะเลือกตั้งมากที่สุด โดยได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนถึง 41% นำหน้าโควโมที่อยู่ 34% และ เคอร์ติส ซิลวา (Curtis Sliwa) แคนดิเดตจากรีพับลิกันที่ 24%

อนึ่ง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนิวยอร์กซิตี้จะเกิดขึ้นในวันที่ 4 พฤศจิกายน เวลา 6:00-21:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งจะเกิดขึ้นพร้อมกับการเลือกตั้งผู้ว่ารัฐ ซึ่งสามารถชี้ความนิยมของทรัมป์ และพรรคเดโมแครตหลังจากนี้ได

ภาพ: Evelyn Hockstein & Brendan McDermid / Reuters

อ้างอิง: