เรียกได้ว่าสร้างแรงกระเพื่อมชนิดรายวันสำหรับ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ที่ออกมาตรการต่างๆ มาเขย่าโลกไม่เว้นแต่ละวัน โดยหนึ่งในชุดมาตรการและเป็นเครื่องมือสำคัญของทรัมป์ในการดำเนินนโยบายต่างประเทศคือมาตรการกำแพงภาษี ซึ่งหลังจากทรัมป์รับตำแหน่งเพียงไม่กี่วัน เขาได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารในการขึ้นภาษีศุลกากรโดยเริ่มจากจีน เม็กซิโก และแคนาดา สามคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอเมริกา นอกจากนี้ทรัมป์ยังส่งสัญญาณถึงคู่ค้ารายอื่นๆ ซึ่งต้องเตรียมรับมือหลังจากนี้
THE STANDARD ไล่ไทม์ไลน์สงครามภาษีในสมัยทรัมป์ 2.0 vs. ชาติต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งแม้วันนี้ไทยจะยังไม่โดนผลกระทบโดยตรงเหมือนชาติอื่นๆ แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมทุกเมื่อ
- 4 กุมภาพันธ์ 2024
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ทรัมป์อาจเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีน 60% หรือมากกว่านั้น หากเขาได้รับเลือกให้เข้ามาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง ขณะที่ Reuters รายงานว่า ทรัมป์จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอื่นๆ ทั้งหมดเพิ่มเติม 10-20% จากเดิม
- 25 พฤศจิกายน 2024
ทรัมป์ประกาศว่าจะเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน โดยขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก 25% จนกว่าทั้งสองประเทศจะจัดการกับปัญหาการลักลอบขนเฟนทานิลและการข้ามพรมแดนของผู้อพยพอย่างผิดกฎหมาย นอกจากนี้ เขายังขู่ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% ด้วย
- 30 พฤศจิกายน 2024
ทรัมป์ขู่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้า 100% กับกลุ่ม BRICS หากสนับสนุนสกุลเงินอื่นแทนดอลลาร์สหรัฐ
- 20 ธันวาคม 2024
ทรัมป์ขู่สหภาพยุโรป (EU) ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าหากไม่ซื้อน้ำมันและก๊าซจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น
- 22 มกราคม 2025
ทรัมป์ขู่จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อรัสเซียและประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในยูเครน หากรัสเซียไม่บรรลุข้อตกลงยุติสงคราม
- 26 มกราคม 2025
ทรัมป์เรียกร้องให้ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากโคลอมเบียทั้งหมด หลังจากเครื่องบินของสหรัฐฯ ที่ใช้เคลื่อนย้ายผู้ถูกเนรเทศจากโคลอมเบียถูกห้ามไม่ให้เข้าประเทศ ด้าน กุสตาโว เปโตร ประธานาธิบดีของโคลอมเบีย ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีตอบโต้ แต่ที่สุดทั้งสองฝ่ายก็บรรลุข้อตกลงกันได้ในวันเดียวกันนั้นเอง
- 31 มกราคม 2025
ทรัมป์กล่าวถึงแผนการของสหรัฐฯ ที่จะเก็บภาษีนำเข้าชิป ยา เหล็กกล้า และอะลูมิเนียม “ในเร็วๆ นี้”
- 1 กุมภาพันธ์ 2025
ทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร 3 ฉบับ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก 25% และเพิ่มเป็น 10% สำหรับสินค้าที่นำเข้ามาจากจีน ทำให้ประธานาธิบดีเม็กซิโกออกมาตอบโต้ด้วยมาตรการทั้งในรูปแบบภาษีและไม่ใช่ภาษี เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ
- 2 กุมภาพันธ์ 2025
จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีของแคนาดา ตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ 25% รวมมูลค่า 155,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา โดยจะทยอยเรียกเก็บเป็นระยะๆ เพื่อให้บริษัทต่างๆ มีเวลาในการปรับเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทานของตน
ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ของจีนประกาศว่าจะยื่นเรื่องร้องเรียนต่อองค์การการค้าโลก (WTO) และดำเนินมาตรการตอบโต้
- 3 กุมภาพันธ์ 2025
หนึ่งวันก่อนที่มาตรการภาษีจะมีผลบังคับใช้ ทรัมป์กลับลำพักคำสั่งเก็บภาษีจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นเวลา 30 วัน โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเพิ่มความพยายามในการคุมเข้มชายแดน
ทั้งนี้ ทรัมป์กล่าวว่าเขากำลังพิจารณาข้อตกลงขั้นสุดท้ายกับทั้งสองประเทศ ส่วนการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนยังคงจะมีผลบังคับใช้ตามเดิมคือวันที่ 4 กุมภาพันธ์
ด้าน EU เตือนว่าการกระทำของทรัมป์ไม่เป็นผลดีกับฝ่ายใดเลย และจะส่งผลกระทบทางลบต่อการค้าโลก พร้อมให้คำมั่นว่าจะตอบโต้หาก EU ตกเป็นเป้าหมายของทรัมป์ด้วย
- 4 กุมภาพันธ์ 2025
จีนสู้กลับทรัมป์ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่ทรัมป์เริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่ม 10% กระทรวงการคลังจีนระบุว่าการเก็บภาษีถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลวของสหรัฐฯ 15% และน้ำมันดิบ อุปกรณ์การเกษตร และรถยนต์บางรุ่น 10% จะเริ่มในวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้
- 9 กุมภาพันธ์ 2025
ทรัมป์เผยว่าจะประกาศขึ้นภาษี 25% กับเหล็กและอะลูมิเนียมที่นำเข้าสหรัฐฯ แต่ยังไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าจะใช้กับประเทศใดเป็นการเฉพาะหรือไม่ และจะบังคับใช้เมื่อใด
- 10 กุมภาพันธ์ 2025
มาตรการภาษีที่จีนมุ่งตอบโต้สหรัฐฯ เริ่มมีผลบังคับใช้ ประกอบด้วยภาษีศุลกากรอัตรา 15% กับถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลวที่นำเข้าจากสหรัฐฯ และภาษี 10% สำหรับน้ำมันดิบ เครื่องจักรการเกษตร และรถที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่
ทรัมป์เซ็นคำสั่งเก็บภาษี 25% กับเหล็กและอะลูมิเนียมที่ส่งออกมายังสหรัฐฯ โดยไม่มีข้อยกเว้น
ประเทศที่ส่งออกเหล็กไปยังสหรัฐฯ มากที่สุดคือ แคนาดา บราซิล และเม็กซิโก ส่วนจีนส่งออกเหล็กไปสหรัฐฯ มีสัดส่วนเพียง 1.8% ของการนำเข้าเหล็กทั้งหมดของสหรัฐฯ แต่จีนเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่สุดของโลก มีสัดส่วนกว่า 54% ของโลก และส่งออก 15% ของโลก
- 13 กุมภาพันธ์ 2025
ทรัมป์ประกาศเดินหน้าแผนขึ้นภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ในอัตราที่เท่ากับประเทศที่เก็บภาษีกับสหรัฐฯ ในสินค้าประเภทต่างๆ หวังแก้ไขปัญหาการค้าที่ไม่เป็นธรรมในสายตาสหรัฐฯ โดยรัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐฯ คาดว่าทีมเศรษฐกิจจะทำรายงานประเมินสรุปแล้วเสร็จภายในวันที่ 1 เมษายนนี้ จากนั้นจะขึ้นอยู่ที่ทรัมป์ว่าจะประกาศขึ้นภาษีตอบโต้เป็นรายประเทศในวันที่ 2 เมษายนเลยหรือไม่
- 18 กุมภาพันธ์ 2025
ทรัมป์มีแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ รวมถึงชิปเซมิคอนดักเตอร์และเวชภัณฑ์ 25% โดยการจัดเก็บภาษีรถยนต์จะเกิดขึ้นเร็วที่สุดในวันที่ 2 เมษายนนี้ ซึ่งเป็นวันหลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีกำหนดส่งรายงาน ที่ระบุถึงทางเลือกสำหรับภาษีนำเข้าต่างๆ โดยทรัมป์พยายามปฏิรูปการค้าโลกและโจมตีการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมต่อการค้าสหรัฐฯ
ขณะที่จีนออกมาประณามสหรัฐฯ ต่อมาตรการขึ้นภาษีดังกล่าว ด้าน WTO ประกาศเตือนทั่วโลกเสี่ยงเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย
- 27 กุมภาพันธ์ 2025
ทรัมป์ประกาศเตรียมกลับมาขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก 25% ตามแผนเดิม หลังพักคำสั่งดังกล่าวเป็นเวลา 30 วัน พร้อมเดินหน้าขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีก 10% (รวมกับรอบแรกเป็น 20%) โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มีนาคมนี้
รัฐบาลสหรัฐฯ มองว่า มาตรการของเม็กซิโก แคนาดา และจีน ในการควบคุมการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย รวมถึงการลักลอบค้ายาเสพติด โดยเฉพาะเฟนทานิลและโอปิออยด์ ยังไม่เข้มงวดและยังไม่มีประสิทธิภาพมากเพียงพอ ทำให้ปัญหาเหล่านี้ในสหรัฐฯ ยังคงรุนแรงและอยู่ในระดับที่ไม่สามารถยอมรับได้
- 6 มีนาคม 2025
ทรัมป์สั่งระงับการขึ้นภาษี 25% สำหรับสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา พร้อมเลื่อนการขึ้นภาษีสินค้าเหล่านี้ไปเป็นวันที่ 2 เมษายน หรืออีกราว 1 เดือนข้างหน้า
โดยข้อตกลง USMCA ครอบคลุมสินค้าส่วนใหญ่ที่ซื้อขายระหว่าง 3 ประเทศ แต่ก็ยังมีสินค้าบางประเภทที่ไม่ได้รับการยกเว้นภาษีและยังคงถูกเก็บภาษีต่อไป เช่น ผลิตภัณฑ์พลังงานบางประเภท เช่น น้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ ยังคงถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีในอัตรา 10% ขณะที่ผลิตภัณฑ์เหล็กและอะลูมิเนียมเองก็จะยังคงถูกจัดเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% โดยมาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 มีนาคม ซึ่งทั้งเม็กซิโกและแคนาดา ต่างเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของตลาดสหรัฐฯ
- 12 มีนาคม 2025
ทรัมป์ ประกาศว่าจะเพิ่มภาษีเหล็กและอลูมิเนียมนำเข้าจากแคนาดาเป็น 50% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นจากอัตราเดิมที่ 25% สร้างความกังวลต่อตลาดการเงินและกระตุ้นความกลัวเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ
คำประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจาก ดั๊ก ฟอร์ด นายกรัฐมนตรีรัฐออนแทรีโอของแคนาดา เตือนว่าจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่ม 25% สำหรับไฟฟ้าที่ส่งไปยังบ้านเรือนกว่า 1 ล้านหลัง ในสหรัฐฯ หากทรัมป์ไม่ถอนคำขู่ขึ้นภาษีสินค้าส่งออกของแคนาดา
ก่อนที่ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ทรัมป์ได้กลับลำยกเลิกแผนเพิ่มภาษีเหล็กและอลูมิเนียมนำเข้าจากแคนาดาเป็น 50% ซึ่งทำเนียบขาวระบุว่า สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมจากแคนาดาและประเทศอื่น ๆ ในอัตรา 25% ตามแผนเดิม ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันพุธที่ 12 มีนาคม โดยไม่มีการยกเว้นหรือข้อยกเว้นใด
อ้างอิง:
- https://www.businesstimes.com.sg/international/tit-tat-timeline-tariff-fight-between-trump-and-rest-world
- https://www.bbc.com/news/articles/cvg8zg7ll09o
- https://edition.cnn.com/2025/02/10/politics/tariffs-steel-aluminum-trump/index.html
- https://www.reuters.com/world/americas/trump-says-mexico-canada-tariffs-take-effect-march-4-2025-02-27/
- https://www.bbc.com/news/articles/cm2y811g1dgo