หากคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงรักการเดินทาง และชอบเก็บภาพความประทับใจ #แชะเก่ง ไปเสียทุกมุม จนเมมกล้องเต็ม หรือเมมโทรศัพท์มือถือล้นทุกครั้ง เราขอชวนมาอัปสเกลการถ่ายรูปท่องเที่ยวขึ้นอีก ด้วยเคล็ดลับเบื้องลึกในการแชะภาพลงอินสตาแกรมสวยๆ จาก 3 บล็อกเกอร์นักเดินทางมืออาชีพชาวไทยเหล่านี้

 

 

Surfer’s Holiday

ต๊ะ-ทวีโรจน์ เอี๋ยวพานิช หนุ่มใต้ผิวเข้มที่ชอบชวนเราออกไปเซิร์ฟ แห่งเพจ Surfer’s Holiday บอกถึงเคล็ดลับการเก็บภาพไลฟ์สไตล์ท้าแดดท้าลม ที่แม้ว่าจะออกไปล่ายูวี กลางทะเลทั่วโลก ก็ถ่ายภาพให้สวยได้ไม่มีข้อแม้

 

 

ทำการบ้านมาก่อน

จะไปถ่ายรูปในสถานที่ที่เราตั้งใจไปทั้งที แนะให้ศึกษาทำการบ้านมาเสียก่อน เช่นศึกษาจากโซเชียลมีเดียต่างๆ วิธีง่ายๆ คือการหาในอินสตาแกรม เช่นคุณกำลังจะไปบาหลี ลองเสิร์ชแฮชแท็ก #Bali ก็ทำให้คุณได้เห็นภาพและมุมต่างๆ ของสถานที่นั้นๆ การศึกษาไปก่อนทำให้เราเห็นภาพในใจที่อยากถ่าย มีเรเฟอเรนซ์สวยๆ เป็นแบบอย่าง ไปถึงแล้วก็เหมือนประหยัดเวลา รู้เลยว่าจะต้องถ่ายที่นั่นอย่างไร

 

 

ไปกับ Buddy ที่รู้ใจ

เรื่องนี้เหมือนจะไม่สำคัญ แต่หากได้ไปกับเพื่อนที่ชอบถ่ายรูปเหมือนกัน สามารถช่วยรังสรรค์ภาพสวยๆ ได้ และต่างคนต่างรู้มุมการถ่ายที่ชอบ ฉะนั้นหากคุณเป็นนักเดินทางที่ชอบติดเซตรูปสวยๆ กลับบ้าน การไปกับเพื่อนรู้ใจที่ยินดีจะถ่ายรูปให้ ขอบอกเลยว่า ‘มันดีมาก’

 

 

ออกจากมุมมองเดิม

การถ่ายรูปที่เที่ยวจะสนุกขึ้น เพียงแค่ลองขยับกล้องหามุมมองใหม่ๆ เช่น บางสถานที่ถ่ายจากมุมสูงก็ทำให้ภาพดูมีมิติมากยิ่งขึ้น บางสถานที่ลองถ่ายจากมุมล่าง (ที่พื้น) ก็ทำให้วัตถุดูใหญ่สูงมากยิ่งขึ้น ได้อะไรที่แปลกตา ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือหลายรุ่นมีกล้องขั้นเทพ ทำให้ใครๆ ก็ถ่ายรูปสวยได้ ดังนั้นก่อนไปเที่ยว เขาแนะให้ใช้อุปกรณ์ในมือคุณให้คุ้นเคย ไปเที่ยวแล้วอาจได้ภาพอะไรเจ๋งๆ ใหม่ๆ ก็เป็นได้

 

 

หาช่วงเวลาสวยที่สุดในแต่ละโลเคชัน

หลายครั้งที่เราเห็นอินฟลูเอนเซอร์คนดังถ่ายรูปสวยๆ เช่น น้ำตก Tibumana ที่เหมือนเป็นน้ำตกลับที่มีแค่คนสองคน แต่พอไปถึง อาจพบว่าคนมหาศาลไม่เหมือนดังที่คิด ดังนั้นเราควรศึกษาและเลือกช่วงเวลาที่ดีที่สุดเพื่อให้ได้ภาพที่ต้องการ โดยอาจเป็นการเดินทางไปสถานที่นั้นๆ ตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น เพื่อเป็นคนแรกที่ได้เก็บภาพความประทับใจ ถึงจะดูทุ่มเทเล่นใหญ่ขนาดนั้น แต่เชื่อเถอะว่าทันทีที่ได้เห็นผลลัพธ์ คุณจะรู้สึกว่าคุ้มค่าแล้ว

 

 

เลือกพร็อพติดมือไปด้วย

สำหรับนักเดินทางที่มีชีพจรลงเท้า ต๊ะแนะให้พกเสื้อผ้าหลายสีติดตัวไปด้วย “ผมมักจะลองใส่เสื้อผ้าจับมาแมตช์กันหน้ากระจกก่อนเดินทาง ให้รู้ล่วงหน้าเลยว่าจะใส่อะไรบ้าง ผมมักพกไอเท็มเล็กๆ ที่สีเข้ากับสถานที่นั้นๆ เช่น ไปเที่ยวศาลเจ้าฟูชิมิอินาริที่ญี่ปุ่น ที่มีเสาสีแดงเป็นพันๆ ต้น ผมจะพกผ้าเช็ดหน้าสีแดงไปด้วย ไปเที่ยวป่าก็มีกระเป๋าหรือแว่นลายทหาร หรือถ้าไปทะเล เลือกกางเกงขาสั้นที่เป็นสีฟ้ามีลายเต่าเล็กๆ แค่นี้ก็ช่วยเสริมให้ภาพในแต่ละทริปดูมีดีเทลมากยิ่งขึ้นได้”

 

 

Life with Muay

อมยิ้ม-ธันยวัฒน์ จันทร์กระจ่าง ผู้อยู่เบื้องหลังภาพสวยๆ ของแฟนสาวแห่งอินสตาแกรม @lifewithmuay ผู้เป็นแรงบันดาลใจและนางแบบคนโปรดของเขา เผยเคล็ดลับมาให้ดังนี้

 

 

จัดองค์ประกอบภาพ

หาสิ่งที่อยากเน้นในภาพนั้นๆ และจัดให้ทุกอย่างรวมจุดสายตาไปที่ตรงนั้น หากอยากเน้นที่บุคคล ให้ใช้จุดตัด 9 ช่อง (Focal Point) วางบุคคลไปที่มุมตัดมุมใดมุมหนึ่ง

 

 

เลือกช่วงเวลาถ่ายภาพ

ทำความเข้าใจแสงแต่ละช่วงที่อยากได้ หรือช่วงเวลาที่ถ่าย เช่น ช่วงเที่ยง แดดจะลงตรงกลางหัว เวลาถ่ายหน้าจะเป็นเงาตามรูปหน้า วิธีแก้คือ เชิดหน้าขึ้นให้แดดส่องหน้า หรือช่วงเวลาโพล้เพล้ แสงท้องฟ้าสวย ตัวบุคคลปรากฏเป็นภาพเงา  (Silhouette) เราสามารถปรับค่ากล้องให้ท้องฟ้ายังสวยสีสดขึ้นได้ เป็นต้น

 

 

สร้าง Movement ให้ภาพ

เช่น การโพสท่า การสื่ออารมณ์ เสื้อผ้าที่พลิ้วตามลม เราสามารถสร้างเรื่องราวให้กับภาพได้ เช่น ถ้าคนยืนเฉยๆ ลองเปลี่ยนเป็นหมุนตัว กระโปรงพลิ้วไหว ภาพนั้นจะดูน่าสนใจมากขึ้น

 

 

ตั้งค่าการถ่ายภาพทิวทัศน์

ตั้งค่าเบื้องต้นของกล้องให้เหมาะกับสิ่งที่จะถ่าย โดยมีเทคนิคง่ายๆ เช่น การลาก Speed Shutter เพื่อถ่ายดวงดาว ถ่ายไฟ หรือที่มืด ลากน้ำตกหรือลำธาร เป็นต้น

 

 

เลือกใช้ระยะเลนส์

เอาเข้าใจง่ายๆ เราแบ่งเลนส์ออกเป็น 3 ระยะคือ Wide (มุมกว้าง) Normal (ระยะสายตาปกติ) Tele (ระยะซูมไกล) เอกลักษณ์ของแต่ละระยะแตกต่างกัน เลนส์มุมกว้างจะให้ภาพที่อลังการ แต่ความบิดเบือนของภาพค่อนข้างสูง เหมาะกับถ่ายทิวทัศน์ (Landscape) หรือเมื่อต้องการเก็บภาพเยอะๆ, ระยะ Normal ให้องค์ประกอบที่ปกติเหมือนตาของคนเรา ทำให้ได้พื้นหลังละลายกำลังดี เหมาะถ่ายภาพทั่วไปหรือบุคคล และระยะ Tele ที่ดึงพื้นหลังของภาพให้ใกล้มากขึ้น เหมาะทั้งถ่ายบุคคล กีฬา หรือการถ่ายในที่ไกลๆ เช่น สัตว์ เป็นต้น

 

 

ไปกันนะ

หนึ่งในบล็อกเกอร์คู่รักสายท่องเที่ยวที่รูปถ่ายทำคนอิจฉาตาร้อนที่สุด ทั้งความสวีทหวานของช่างภาพสาว ออม-ปาณิตา ปานพรหม และคนรู้ใจ นัท-ปิยณัฐ ชโลปกรณ์ และภาพหวานๆ วินาทีสุดประทับใจ ราวกับหากคนผ่านมาเห็น ได้หลุดไปอยู่ในโลกแห่งความฝันกับพวกเขาด้วย ใครอยากได้เทคนิคถ่ายภาพจาก 2 คนนี้ เราเก็บตกทั้งจากประสบการณ์และการเตรียมตัวของพวกเขามาให้แล้ว

 

 

เตรียมตัวไว้ก่อน

ขั้นตอนการเตรียมตัวนั้นสำคัญมาก เพราะช่วยลดปัญหาที่อาจจะพบเจอหน้างาน โดยไม่เสียเวลา และเดินทางท่องเที่ยวได้แฮปปี้ตลอดทริป

 

• รู้ว่าจะไปที่ไหน ข้อนี้สำคัญ เป็นเรื่องแรกที่ทั้งออมและนัทพิจารณาก่อนการเดินทาง จำต้องรู้ว่าจะไปที่ไหน อากาศเป็นอย่างไร สถานที่ที่จะไปมีลักษณะอย่างไร จัดตารางเวลาในการเที่ยวให้เรียบร้อย เพื่อการเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดเมื่อไปถึง แล้วจะไม่เสียเวลาและผิดพลาดน้อยที่สุด
• มีเรเฟอเรนซ์ ก่อนจะไปที่นั้นๆ ควรหาข้อมูล เล็งมุมสวยๆ ของสถานที่ โดยมีแนวทางและไอเดียในการเตรียมข้อต่อๆ ไป เช่น อุปกรณ์ การแต่งตัว ท่าโพสที่ต้องการต่างๆ
• อุปกรณ์ให้ดี อุปกรณ์เป็นสิ่งจำเป็นในการถ่ายรูป หากใช้กล้อง ควรศึกษาว่าใช้ตัวไหน เตรียมความพร้อมเรื่องแบตเตอรี่ ที่ชาร์จ แบตสำรอง ขาตั้งกล้อง หรือโดรนที่ใช้ คัดเลือกอุปกรณ์ให้เหมาะกับที่ที่จะไป คัดให้พอเหมาะและเตรียมพร้อมหากจำเป็นต้องใช้ และบางอย่างก็อาจไม่จำเป็นเสมอไป
• เสื้อผ้าให้พร้อมเข้ากับสถานที่ นี่เป็นข้อเด็ดที่ช่วยให้ภาพถ่ายออกมาสมบูรณ์ที่สุด คู่รักนักเดินทางนัทและออมเผยว่า คัดเลือกเรื่องของการแต่งกายอย่างละเอียด ไปกี่วัน เตรียมไปกี่ชุด เพื่อช่วยเพิ่มเรื่องราวให้ภาพถ่ายสวยงามขึ้น อาทิ โทนสีของสถานที่ เครื่องแต่งกายที่เข้ากัน ฤดูและอากาศร้อน หรือสถานที่ใดเหมาะกับชุดแบบไหน ออมยังกระซิบอีกว่า การใส่กระโปรงพลิ้วๆ วิ่งสะบัดกระโปรงในภาพ ช่วยเสริมให้ภาพมีลูกเล่นเพิ่มขึ้น

 

 

เมื่อถึงสถานที่จริง

ในฐานะคู่รักนักเดินทางที่มีเพียงกันและกันในการเก็บภาพความประทับใจ 4 สิ่งที่ออมและนัทเผยว่าทำทุกครั้งเวลาถ่ายรูป คือ

 

• เตรียมอุปกรณ์ ตั้งกล้องกับขาตั้งกล้องให้พร้อม
• มาร์กจุดที่เราจะไปยืน โพสท่าอย่างไร
• เชื่อมต่อ WiFi กล้องกับโทรศัพท์ (ที่จะทำหน้าที่เป็นตัวกดชัตเตอร์)
• ใส่อารมณ์ โพสท่าตามที่เตรียมไว้แบบจัดเต็มได้เลย โดยพวกเขามักมองหน้า หัวเราะใส่กัน ชวนอีกฝ่ายให้ยิ้ม และแต่ละภาพมักมีคนอยู่ในเฟรมเสมอ เพื่อให้คนดูสามารถจินตนาการตามว่าอยู่ตรงนั้นด้วยได้ เป็นการสื่อเรื่องราวผ่านภาพ อารมณ์ ชวนรู้สึกมีความสุข

 

 

เคล็ดสุดลับถ่ายรูปให้สวยฉบับ ‘ไปกันนะ’

• เลือกเวลาให้เหมาะสม ช่วงเวลาโปรดในการถ่ายภาพของพวกเขาคือยามเช้า ที่แสงจะนวล เหมาะแก่การถ่ายภาพ และช่วงบ่าย 3 ถึงพระอาทิตย์ตก ช่วงเวลาที่เหลือเอาไว้เที่ยวเล่นให้เต็มอิ่ม ไม่เน้นถ่ายภาพ!
• รู้เทคนิคการจัดองค์ประกอบภาพ เพื่อให้ภาพดูโปร ควรเรียนรู้การจัดวางองค์ประกอบภาพ เช่น เลือกมุมภาพ รู้จักชัดลึกชัดตื้น ใช้พร็อพเข้าช่วย เป็นต้น
• ความอดทนคือสิ่งสำคัญ เพื่อภาพที่ต้องการ ทั้งคู่จะหาจังหวะเหมาะรอเวลาเพื่อให้ฉากหลังไร้คน และสะดวกที่สุด ต้องอาศัยการวางแผน จำไว้ว่า…อยากได้รูปสวยต้องอดทน!

 

 

หลังจากถ่ายรูปเสร็จ

เมื่อถ่ายรูปเสร็จ เช็กสักนิดว่าภาพดีพอไหม เมมโมรีมีปัญหาหรือไม่ หรือภาพเบลอ เผื่อต้องแก้เพิ่มเติม และไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ขณะเดินทาง การถ่ายแบบไม่เช็กก่อให้เกิดความผิดพลาดได้ โดยเฉพาะเมื่อเป็นเรื่องของการทำงานในฐานะบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวมืออาชีพ นอกจากนั้น การสังเกตภาพที่ถ่ายอยู่เสมอช่วยให้เห็นข้อบกพร่อง เห็นความแตกต่าง ช่วยให้พัฒนาภาพท่องเที่ยวให้สวยขึ้นได้

 

“ตอนแรกนัทไม่ชอบถ่ายรูป กว่าจะถ่ายรูปคู่ได้ ท่าโพสแข็งทื่อ ยิ้มเกร็งเหมือนโดนบังคับ แต่เราเรียนรู้ว่าเราไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอดีตได้ ดังนั้นแต่ละรูปเราพยายามใส่ใจทำออกมาให้ดีที่สุด สนุกกับวินาทีนั้นให้มากที่สุดเพื่อจะได้เก็บมันไว้นานๆ”

 

ภาพประกอบ: praewwoo

ภาพ: Instagram @lifewithmuay, @paigunna, @tah_surferday

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า