×

‘พาณิชย์’ แจงเงินเฟ้อยังไม่น่ากังวล แม้ตัวเลขเดือน ต.ค. พุ่งแตะ 2.38% เผยจัดรถโมบายล์ขายผักถูกช่วยลดค่าครองชีพประชาชนแล้ว

12.11.2021
  • LOADING...
เศรษฐกิจไทย

รณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงกรณีที่หลายภาคส่วน โดยเฉพาะภาคประชาชน มีความกังวลต่อดัชนีราคาผู้บริโภคหรือเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนตุลาคม 2564 ที่ปรับตัวสูงขึ้น 2.38% (YoY) เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนว่า เงินเฟ้อที่ปรับสูงขึ้นนี้ มีสาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นต่อเนื่องตามราคาตลาดโลก 

 

ซึ่งรัฐบาลได้เข้ามาดูแลราคา โดยเฉพาะน้ำมันดีเซล และคาดว่าในระยะต่อไปราคาน้ำมันจะส่งผลต่อเงินเฟ้อไม่มากนัก เนื่องจากฐานราคาเริ่มใกล้เคียงกับปีก่อน และยังมีสินค้ากลุ่มผักสด โดยเฉพาะผักใบ (ผักกาดขาว ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักชี) ที่พื้นที่เพาะปลูกได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดน้อย ราคาจึงขยับขึ้น แต่ก็เป็นช่วงสั้นๆ เนื่องจากในช่วงต่อไปจะมีผลผลิตผักตามฤดูกาล และที่ปลูกเพิ่มหลังน้ำท่วมคลี่คลายเพิ่มขึ้น 

 

ส่วนสินค้าอาหารอื่นๆ ที่ราคายังสูง เช่น ไข่ไก่ จากความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้น แต่ราคามีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง เครื่องประกอบอาหาร เช่น น้ำมันพืชที่ทำจากปาล์มน้ำมัน ราคาสูงขึ้นจากผลปาล์มดิบออกสู่ตลาดน้อย ขณะที่ความต้องการใช้ของตลาดทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น ทำให้มีการส่งออกมากขึ้น แต่ก็ไม่กระทบต่อการผลิตในประเทศ สินค้ายังมีเพียงพอ และอาหารบริโภคในบ้านนอกบ้าน เช่น กับข้าวสำเร็จรูป ส้มตำ ก๋วยเตี๋ยว ข้าวราดแกง อาหารเช้า อาหารตามสั่ง ราคาปรับสูงขึ้นตามต้นทุนวัตถุดิบ เช่น น้ำมันพืช ผักสด และค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง

 

อย่างไรก็ตาม มีสินค้าสำคัญอีกหลายรายการที่ราคาปรับลดลง เช่น ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว เนื้อสุกร ไก่สด และผลไม้ ราคายังคงต่ำกว่าปีก่อน, น้ำดื่มบริสุทธิ์ ราคาปรับลดลงเพื่อกระตุ้นยอดขาย, เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า ราคายังคงต่ำกว่าปีก่อนจากการลดราคาเพื่อดึงดูดผู้บริโภค, ค่าสาธารณูปโภค (ค่ากระแสไฟฟ้า ค่าน้ำประปา) และค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา (ค่าลงทะเบียน ค่าธรรมเนียมการศึกษา) ราคาปรับลดลง เนื่องจากมาตรการลดภาระค่าครองชีพของภาครัฐ รวมทั้งค่าเช่าบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ส่งผลให้ผู้ให้เช่าปรับลดราคาเพื่อดึงดูดผู้เช่า

 

นอกจากนี้ จากมาตรการลดค่าครองชีพที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้หน่วยงานในกระทรวงเร่งดำเนินการช่วยเหลือประชาชน ทั้งการจัดส่งรถโมบายล์นำผักสดราคาถูกออกจำหน่ายให้กับประชาชนและร้านอาหารในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และในจังหวัดต่างๆ ตามความเหมาะสม จะเป็นส่วนช่วยลดความร้อนแรงของราคาผักสด และยังมีการลดราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการอุปโภคบริโภคอย่างต่อเนื่องผ่านโครงการพาณิชย์ลดราคา เพื่อประชาชน จะเป็นส่วนช่วยลดภาระค่าครองชีพ ทำให้สินค้าราคาลดลง และจะกดดันให้เงินเฟ้อลดลงได้ในระยะต่อไปอย่างมีนัยสำคัญ 

 

ขณะเดียวกัน เงินเฟ้อยังมีแนวโน้มลดลงจากมาตรการของภาครัฐที่ดูแลด้านค่าครองชีพ ทั้งการเพิ่มวงเงินในโครงการคนละครึ่ง การเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การดูแลราคาน้ำมัน ก๊าซหุงต้ม และค่าสาธารณูปโภค รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา ซึ่งล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ช่วยลดความร้อนแรงของเงินเฟ้อ ทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างมั่นคง

 

รณรงค์กล่าวว่า เงินเฟ้อเฉลี่ย 10 เดือน (มกราคม-ตุลาคม) ปี 2564 สูงขึ้น 0.99% (AoA) โดยยังอยู่ในกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ระหว่าง 1-3% (ค่ากลางที่ร้อยละ 2.0) แสดงให้เห็นว่าความเคลื่อนไหวของราคาสินค้าและบริการอยู่ในระดับใกล้เคียงปกติ และยังมีเสถียรภาพ ทำให้ สนค. ประเมินว่าเงินเฟ้อทั้งปี 2564 จะอยู่ระหว่าง 0.8-1.2% ค่ากลางอยู่ที่ 1.0% ซึ่งเป็นอัตราที่น่าจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง และไม่น่ากังวลนัก

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising