แม้จะเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนและหน่วยงานกำกับดูแลด้านสิ่งแวดล้อม แต่ประธานของ Toyota ปกป้องท่าทีของเขาในการนำเสนอรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่หลากหลาย รวมถึงรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจน แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่ EV เพียงอย่างเดียว
อากิโอะ โทโยดะ ประธานบริษัท Toyota ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลก เมื่อพิจารณาจากยอดขายรถยนต์ กลั้นน้ำตาไม่อยู่ในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีของบริษัทเมื่อต้นเดือนมิถุนายน เขาเล่าถึงการต่อสู้ในอดีตระหว่างดำรงตำแหน่งผู้นำบริษัท วาดภาพจากใจจริงว่าเขารู้สึกอย่างไรที่ถูกผู้บริหารคนอื่นๆ รังเกียจ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ทำให้เขาผูกพันกับพนักงานระดับล่าง
น้ำตาของเขากลายเป็นประเพณีไปแล้ว โทโยดะ วัย 67 ปีมองว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยากในการทบทวนความคิดส่วนบุคคล และการสื่อสารที่โปร่งใสกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การแสดงอารมณ์ความรู้สึกของเขาเมื่อเร็วๆ นี้อาจดูน่าแปลกใจสำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับสไตล์ความเป็นผู้นำของเขา ถึงกระนั้นมันยังเน้นย้ำถึงแรงกดดันที่รุนแรงที่เขากำลังเผชิญอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับ Toyota ในการเร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า (EV
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- มิติใหม่วงการรถยนต์! ครั้งแรกของไทย Toyota ผลิตไฮโดรเจนจากมูลไก่และเศษอาหารจากฟาร์ม CP
- สงครามแบตเตอรี่เริ่มแล้ว? รัฐบาลญี่ปุ่นอัดฉีด Toyota 850 ล้านดอลลาร์ เร่งสายพานแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า EV
- ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน! Toyota ซุ่มพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ ‘แบตเตอรี่โซลิดสเตท’ ชาร์จเต็มใน 10 นาที วิ่งได้ 1,200 กิโลเมตร คาดขายจริงปี 2027
โทโยดะได้เปรียบเทียบสิ่งที่น่าสนใจระหว่างประสบการณ์ส่วนตัวของเขาที่รู้สึกเมื่อถูกเลือกปฏิบัติในช่วงแรกๆ ที่ Toyota กับสถานการณ์ปัจจุบันในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งผู้มีส่วนได้ส่วนเสียบางรายลังเลใจว่าการเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นทางเลือกเดียวสำหรับผู้บริโภค
สิ่งหนึ่งที่ละเลยไม่ได้เลยสำหรับเรื่องนี้คือ โทโยดะมีความชื่นชอบในด้านยานยนต์แบบดั้งเดิม เช่น กลิ่นของน้ำมันเบนซินและเสียงของเครื่องยนต์ ซึ่งความหลงใหลเช่นนี้ ขัดแย้งกับความพยายามของทั่วโลกในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน
เมื่อโทโยดะเข้ารับตำแหน่งประธานในปี 2009 Toyota กำลังต่อสู้กับวิกฤตการเงินโลกที่ตกต่ำ ยอดขายและผลกำไรกำลังได้รับผลกระทบ และบริษัทยังต้องรับมือกับปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเร่งความเร็วโดยไม่ได้ตั้งใจในรถยนต์บางรุ่น
แม้จะมีเผชิญสถานการณ์เหล่านี้ โทโยดะยังคงพยายามใช้มาตรการลดต้นทุน และเปิดตัวรถยนต์ที่ปรับแต่งโดยเฉพาะเพื่อตอบสนองความต้องการของภูมิภาค เช่น รถบรรทุกราคาไม่แพงสำหรับตลาดเกิดใหม่ ความพยายามของเขาได้ผล Toyota กลับมาทำกำไรได้ภายในปีแรก และเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
อย่างไรก็ตาม ความหลงใหลในเทคโนโลยียานยนต์แบบดั้งเดิม และความลังเลที่จะทุ่มเทให้กับ EV อย่างเต็มที่ ทำให้เขาตกอยู่ภายใต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลากหลายวงการ ในระหว่างการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีในเดือนมิถุนายนนี้ กองทุนเพื่อการลงทุนในอเมริกาและยุโรปหลายแห่งพยายามที่จะขับไล่โทโยดะออกจากตำแหน่งของเขาในคณะกรรมการ พวกเขากล่าวหาว่าตัวโทโยดะเป็นอุปสรรคในการเปลี่ยนผ่านของ Toyota ไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
โทโยดะฝ่าฟันพายุลูกนี้ไปได้ เขาได้รับการเลือกตั้งใหม่ด้วยคะแนนเสียงข้างมาก ด้วยตัวเลข 85% แม้ว่าจะลดลงจาก 96% ในปีที่แล้วก็ตาม เมื่อเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ โทโยดะยังคงยึดมั่นในความเชื่อของเขาในแนวทางปฏิบัติเพื่อยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่ EV เพียงอย่างเดียว
โทโยดะยังคงยืนหยัดในมุมมองของเขา และยังคงส่งเสริมสิ่งที่เขาอธิบายว่าเป็นแนวทางปฏิบัติมากขึ้น แทนที่จะเปลี่ยนไปใช้ EV อย่างฉับพลันและเบ็ดเสร็จ เขาสนับสนุนกลุ่มผลิตภัณฑ์ยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดและรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจน
เขาให้เหตุผลว่า แนวทางนี้สอดคล้องกับความเป็นจริงของหลายภูมิภาคทั่วโลกที่โครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ายังไม่ได้รับการพัฒนา หรือการผลิตไฟฟ้ายังคงพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ปล่อยคาร์บอน
นักวิจารณ์ยังคงแสดงความกังวลของพวกเขาต่อไป ตัวอย่างเช่น แบรด แลนเดอร์ แย้งว่าภายใต้การนำของโทโยดะนั้น Toyota กำลังแสดงให้เห็นถึงการต่อต้านการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสภาพอากาศมากขึ้น
ในขณะที่ Toyota ก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาที่ท้าทายเหล่านี้ ผู้สังเกตการณ์ในอุตสาหกรรมหลายคนคาดการณ์ว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลูกชายของเขา ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งสำคัญใน Toyota มีแนวโน้มที่จะมีบทบาทมากขึ้น
ขณะเดียวกัน โทโยดะกำลังให้คำปรึกษากับประธานคนใหม่ โคจิ ซาโตะ ซึ่งรับทราบความท้าทายในการเป็นผู้นำของ Toyota ในการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งล่าสุด คำพูดของเขาสะท้อนประสบการณ์ของโทโยดะ แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนทางอารมณ์และความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ ที่มาพร้อมกับตำแหน่งผู้นำยานยนต์ยักษ์ใหญ่ระดับโลก
ภาพ: David Becker / Getty Images
อ้างอิง:
